คาดแบงก์ลด ดอกเบี้ย เงินกู้ ช่วยลูกหนี้ลดภาระ 7,000 ล้านบาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมิน แบงก์ลด ดอกเบี้ย เงินกู้ตามกนง.ช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ได้ 7,000 ล้านบาท ชี้แม้ดอกเบี้ยต่ำแต่เศรษฐกิจซบยังต้องจับตา
15 ส.ค. 2568 ดร.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เหลือ 1.5% เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา พบว่าธนาคารส่วนใหญ่ได้ทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงแล้วและเป็นการลด 0.25 % ในทุกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
ทั้งนี้เมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงจะมีผลต่อผู้กู้ 2 กลุ่มหลัก กลุ่มแรกคือผู้ที่มีบ้านเป็นหลักทรัพย์ เช่น สินเชื่อบ้านและสินเชื่อบ้านแลกเงิน ซึ่งสินเชื่อในกลุ่มนี้จะอิงกับการเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ยเป็นหลัก ขณะเดียวกันอีกกลุ่มที่จะได้รับผลบวกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยคือ ธุรกิจที่ใช้สินเชื่อซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว
“โดยรวมแล้วทั้งสินเชื่อบ้านและสินเชื่อธุรกิจมีสัดส่วนประมาณ 60% ของสินเชื่อรวมในระบบธนาคาร โดยคาดว่าผลจากการลดดอกเบี้ยครั้งนี้จะทำให้ภาระดอกเบี้ยลดลง 5,000 – 7,000 ล้านบาท แต่อย่างไรแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยลดลงจะทำให้ต้นทุนลดลงหรือภาระดอกเบี้ยต่ำลงก็ตามแต่หากภาวะเศรษฐกิจมหภาคยังไม่ฟื้นก็จะยังขายของไม่ได้ และกระทบไปสู่ความสามารถในการชำระหนี้ได้เช่นกัน”
นางสาวธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินอาจส่งผลกระทบต่อส่วนต่างกำไรสุทธิ (NIM) ในระดับเล็กน้อย โดยคาดว่าตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปี 2568 มีความเป็นไปได้ที่กนง. จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม โดยต้องประเมินภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ และประสิทธิภาพของการลดดอกเบี้ยครั้งนี้อย่างรอบด้านด้วย
ทั้งนี้ มาตรการลดดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถตอบโจทย์การฟื้นฟูเศรษฐกิจได้อย่างครบถ้วน ภาครัฐควรเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2569 เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า พร้อมทั้งวางกลยุทธ์เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว (เพิ่มเติม…)