โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

KKP ชี้ภาษี 19% เป็นข่าวดีระยะสั้น แนะใช้จุดอับเป็นโอกาสปรับโครงสร้าง

การเงินธนาคาร

อัพเดต 15 สิงหาคม 2568 เวลา 22.56 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

KKP ชี้ภาษี 19% เป็นข่าวดีระยะสั้น แต่ระยะยาวโลกการค้าเสรีกำลังหมดอายุ ต้องใช้จุดอับเป็นโอกาสปรับโครงสร้าง

15 ส.ค. 2568 ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า KKP Research ประเมินว่าเศรษฐกิจครึ่งหลังปี 2568 มีแนวโน้มชะลอตัวลงและยังมีความเสี่ยงด้านต่ำ แม้เศรษฐกิจเติบโตได้ดีกว่าคาดในช่วงครึ่งแรกของปีจากปัจจัยชั่วคราว โดยเฉพาะการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ ก่อนที่นโยบายภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้

ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่องจากปัญหาด้านความปลอดภัยของการท่องเที่ยวในไทย หลังเดือนสิงหาคม สินค้าส่งออกจากไทยไปสหรัฐฯ จะถูกเรียกเก็บภาษี 19% ตามมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และอาจถือเป็นโอกาสสำคัญในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจและการลงทุนของไทยได้

ทำไมสหรัฐฯ ใช้นโยบายภาษีนำเข้า ?

เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านและอาจไม่กลับสู่ยุคโลกาภิวัตน์ (Globalization) เหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต ในอดีตโลกอยู่ในยุคที่การค้าเติบโตและอัตราภาษีเฉลี่ยปรับตัวลงเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามการขยายตัวของการค้าสร้างต้นทุนให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสองประเด็นหลัก คือ 1) การย้ายการลงทุนออกนอกสหรัฐฯ เพื่อใช้ประโยชน์จากต้นทุนแรงงานต่างประเทศราคาถูก จนส่งผลกระทบต่อการจ้างงานบางส่วน และ 2) การขาดดุลทางการค้าและการคลังที่เร่งตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในทศวรรษที่ผ่านมา

สหรัฐฯ มีการประกาศใช้นโยบายภาษีการค้าตอบโต้ (reciprocal tariff) เพื่อปรับโครงสร้างการขาดดุลทางการค้าและการคลัง นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังต้องใช้สถานะของการเป็นผู้ซื้อสุทธิรายใหญ่ของโลกในการเจรจาต่อรองเงื่อนไขด้านต่าง ๆ แม้สหรัฐฯ จะบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับหลายประเทศในอัตราประมาณ 10-35% แต่การเจรจาการค้าจะยังมีอย่างต่อเนื่อง และเงื่อนไขสำคัญที่ยังไม่ชัดเจน คือเงื่อนไขของสินค้าส่งออกที่จะถูกเข้าข่ายว่าเป็นการสวมสิทธิจากประเทศที่สาม(transshipment) โดยเฉพาะจีน ซึ่งจะโดนเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่า (40%) เพื่อกดดันการขยายห่วงโซ่อุปทานและอิทธิพลของจีนในประเทศกำลังพัฒนา

ผลกระทบของภาระภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นจะแบ่งกันระหว่างทั้งผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และผู้บริโภค การขึ้นภาษีนำเข้าอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาที่ผู้บริโภคสหรัฐฯ ต้องจ่ายโดยราคามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงแรก แต่หากผู้บริโภคเลือกที่จะบริโภคลดลงจะทำให้ต้นทุนของภาษีนำเข้าถูกแบ่งปันระหว่างผู้นำเข้าและผู้ส่งออกซึ่งอาจทำให้ราคาสินค้าส่งออกทั่วโลกปรับลดลงเพื่อชดเชยกับอุปสงค์ที่หายไป

ภาษีนำเข้ากระทบเศรษฐกิจไทยอย่างไร ?

ผลลัพธ์การเจรจาภาษีที่ไทยได้รับนับว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าที่หลายฝ่ายกังวล เพราะไทยถูกเก็บภาษีใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาคในอัตราที่ 19% บนเงื่อนไขที่ไม่ได้เปิดตลาดสินค้าทั้งหมดให้กับสหรัฐฯ ผลกระทบทางตรงต่อเศรษฐกิจไทยจะเกิดจากสินค้าที่ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่อาจจะลดลงจากราคาสินค้านำเข้าไปยังสหรัฐฯ ที่ปรับสูงขึ้น และผลกระทบต่อธุรกิจในประเทศจากการเปิดตลาดมากขึ้นให้กับสินค้าจากสหรัฐฯ

KKP Research ประเมินว่าแม้ผลลัพธ์จะดีในภาพใหญ่ แต่การเจรจายังคงดำเนินต่อและมีความไม่แน่นอนสูง โดยมีอีกอย่างน้อยสองช่องทางที่เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากการเก็บภาษีของสหรัฐฯ

สหรัฐฯ สามารถนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นทดแทนการนำเข้าสินค้าจากไทยได้ โดยสินค้าที่ส่งออกหลักของไทย สหรัฐฯ มีการนำเข้าจากหลายประเทศ หลายภูมิภาค ตัวอย่างเช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องประดับ ในขณะที่สินค้าที่ไทยส่งออกเป็นอันดับ 1 และอาจหาอุปทานทดแทนทั้งหมดได้ยากกว่ากลุ่มอื่น ๆ คือ ยางรถยนต์ ข้าว อาหารสัตว์

ไทยมีแนวโน้มถูกเก็บภาษีเฉลี่ยสูงกว่าประเทศอื่นเมื่อพิจารณาความเสี่ยงเรื่อง “Transshipment” แม้เงื่อนไขของการสวมสิทธิ์ (transshipment) ยังไม่ชัดเจน แต่หากสินค้าที่ถูกตัดสินว่าสวมสิทธิ์ ก็อาจถูกเก็บอัตราภาษีนำเข้าสูงถึง 40% โดยมีข้อมูลสะท้อนว่า สินค้าส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ จำนวนมากมีการสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคการผลิตค่อนข้างต่ำ และอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงที่สินค้าจำนวนมากจะถูกคิดภาษีถึง 40%

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่สามารถประเมินผ่านเลขส่งออก แต่ขึ้นอยู่กับผลต่อความสามารถในการแข่งขันของการผลิตภาคอุตสาหกรรมในประเทศ ข้อมูลในช่วงต้นปี 2568 สะท้อนว่าการส่งออกของไทยเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมไทยแทบไม่ขยายตัวขึ้นเลย ซึ่งหมายความว่าการส่งออกส่วนใหญ่เป็นการส่งออกที่เป็นการนำเข้ามาจากประเทศอื่น ๆ โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านและแม้การส่งออกกลุ่มนี้จะชะลอลงก็อาจจะไม่กระทบกับเศรษฐกิจไทยมากนัก

KKP Research วิเคราะห์ว่า การส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ไม่ได้เชื่อมโยงโดยตรงกับการผลิตในประเทศทั้งหมด โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

  • สินค้าปกติที่ถูกเก็บภาษี 19% และมีมูลค่าเพิ่มในประเทศสูง ส่งผลต่อการผลิตมากที่สุด เช่น กลุ่ม อาหาร ข้าว ยางพารา
  • สินค้าที่นำเข้าจากจีนและส่งออกไปยังสหรัฐฯ โดยไทยแทบไม่มีบทบาทการผลิต และมีมูลค่าเพิ่มในประเทศอยู่ในระดับต่ำ เช่น แผง solar cell อุปกรณ์ network และ Wi-Fi router
  • สินค้ามูลค่าเพิ่มต่ำถึงปานกลางที่พึ่งพาวัตถุดิบจากจีนสูง และอาจถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง Transshipment ต้องเสียภาษี 40% และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระดับปานกลาง เช่น ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น จอมอนิเตอร์ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ ที่อยู่ในบัญชีได้รับยกเว้นซึ่งคาดว่ามีสัดส่วนราว 30% ของการส่งออกไปสหรัฐฯ และไม่ต้องเสียภาษีเพิ่ม

KKP Research คาดว่าผลกระทบทั้งปีต่อ GDP ไทยจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ จะอยู่ระหว่าง 0.3–0.9 ppt หรือเฉลี่ยที่ 0.6 ppt และในกรณีที่หากสหรัฐฯ ยกเลิกรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจะทำให้ผลกระทบสูงขึ้นเป็น 0.7 – 1.1ppt และคาดว่าการส่งออกจะหดตัวลงแรงหลังจากเร่งส่งออกก่อนมาตรการมีผลบังคับใช้หลังเดือนสิงหาคม

ถึงเวลาทำเรื่องที่ต้องทำ

แนวโน้มการค้าโลกที่เปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่ไทยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ประเทศไทยควรเน้นการลงทุนที่เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน และการกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดใหม่ ๆ แม้การเปิดตลาดสินค้าบางกลุ่มและจัดการกับปัญหา Transshipment จะเป็นต้นทุนต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ก็อาจเป็นโอกาสในการปรับตัวระยะยาวของไทยเช่นกัน

มองในแง่ดี นี่อาจเป็นโอกาสในการปรับตัวของเศรษฐกิจไทย แม้ว่าเงื่อนไขในการเจรจาภาษีนำเข้า กำหนดให้ไทยต้องเปิดตลาดแบบจำกัดให้กับสหรัฐฯ ในบางกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตร แต่ไทยไม่มีทางเลือกมากนักในโลกการค้าและการลงทุนยุคใหม่ การเปิดตลาดวัตถุดิบอย่างค่อยเป็นค่อยไปอาจเป็นโอกาสที่ทำให้ต้นทุนการผลิตของอุตสาหกรรมอาหารลดลง และเป็นโอกาสให้ภาคเกษตรไทยมีการปรับตัว และนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว ในขณะที่มาตรการที่ช่วยบรรเทาผลกระทบ และส่งเสริมให้มีการปรับตัวมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

การปรับเป้าหมายการดึงดูดการลงทุนทางตรงจากต่างชาติที่เน้นคุณภาพมากขึ้น การลงทุนทางตรงจากต่างชาติเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การพัฒนาเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่ แต่ไทยมีปัญหาทั้งดึงเม็ดเงินลงทุนได้น้อยลงและการดึงดูดการลงทุนที่ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศหรือเกิดการถ่ายโอนเทคโนโลยีมากเท่าที่ควร

แม้ว่าเงื่อนไขเรื่องการเก็บภาษีสินค้าส่งออกที่สวมสิทธิ์ (transshipment) อาจส่งผลลบต่อความน่าสนใจในการลงทุนจากต่างชาติในระยะสั้น แต่เป็นโอกาสให้ไทยปรับเป้าหมายการดึงดูดการลงทุนระยะยาว ที่เน้นการสร้างห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ การสร้างมูลค่าเพิ่มกับเศรษฐกิจในประเทศ และการถ่ายโอนเทคโนโลยีผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดีในระยะยาว

อ่านข่าว เศรษฐกิจทั่วไทย ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

หุ้นไทย ปิดลบ 7.25 จุด บาทอ่อนกดดัน โฟลว์ไหลออก-ความหวังเฟดหั่นดอกเบี้ยลดลง

28 นาทีที่แล้ว

YKK ผู้ผลิตซิปเบอร์ 1 โลก เจอพายุภาษีสหรัฐ กระทบซัพพลายเชน 40% ของตลาดโลก

46 นาทีที่แล้ว

เงินไหลเข้า “กองทุนหุ้นโลก” สูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ เหตุเงินเฟ้อสหรัฐต่ำคาด สงบศึกภาษีสหรัฐ-จีน

52 นาทีที่แล้ว

เสนาฯ กำไรครึ่งแรกโต 37% ตุนแบ็คล็อกแน่น 7.4 พันล้าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

Casio เปิดตัวนาฬิกา G-SHOCK ซีรีส์ใหม่ เติมสีสันแห่งไลฟ์สไตล์ผสานความแกร่งระดับตำนาน

Positioningmag

EnCo ครบรอบ 21 ปี เดินหน้ากลยุทธ์ ‘STAR’ ขับเคลื่อนอสังหาฯ และการบริหารอาคารอย่างยั่งยืน

Positioningmag

นักวิเคราะห์มอง "หุ้นไทยจบรอบการขึ้นแล้ว" แนะจับตาทั้งทองคำและบิตคอยน์

TNN ช่อง16

หุ้นไทยวันนี้ 15 สิงหาคม 2568 ปิดลบ 7.25 จุด บาทอ่อนกดดันเงินทุนไหลออก

TNN ช่อง16

ป้องกันสวมรอย-โจรกรรมข้อมูล! “กสทช.” คุมเข้มบังคับใช้ “Liveness Detection” ลงทะเบียนซิมทั่วประเทศ ดีเดย์ 18 ส.ค.นี้

สยามรัฐ

บิทคอยน์ท้าชนแนวต้าน 123,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางแรงกดดันมหภาค–นักลงทุนจ้องเป้า 130,000 ดอลลาร์

Manager Online

หุ้นไทยทรุด ผลกระทบเงินบาทอ่อน ฉุดปิด -7.25 จุด มูลค่าซื้อขาย 4.8 หมื่นล้าน

สยามรัฐ

ราคาทองปิดตลาดลงแรง 150 บาทเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า

PPTV HD 36

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...