ใครคือ “ข้าราชการสถานทูตไทยในกัมพูชา” ที่อยู่ในช่วงตัดความสัมพันธ์ทั้ง 2 ครั้ง และถูกจับข้อหา “จารชน”
“ข้าราชการสถานทูตไทย” ประจำในต่างประเทศ นับเป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นและเรียนรู้โลกกว้างไปพร้อมกับการทำงาน แต่ในบางประเทศ ในบางสถานการณ์ก็ไม่ใช่ดี เช่นกรณีของ ยุทธนา เปรมัษเฐียร ข้าราชการสถานทูตไทยในกัมพูชา ที่อยู่ในช่วงตัดความสัมพันธ์ไทยกัมพูชาทั้ง 2 ครั้ง ทั้งยังถูกจับข้อหาจารชน
ข้าราชการสถานทูตไทยในกัมพูชา
ยุทธนา เปรมัษเฐียร เป็นข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ทำงานที่สถานทูตไทยประจำกัมพูชา กับท่านทูตถึง 3 ท่านด้วยกัน คือ จํารัส มัณฑุกานนท์, สมจัย อนุมานราชธน และจิ๊ด เศรษฐบุตร ภายหลังเกษียณอายุในตำแหน่ง กงสุลระดับซี 7 ณ กรุงไทเป (พ.ศ. 2533)
เขาเริ่มทำงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่วิทยุ หากมีเวลาว่างก็จะช่วยงานเรื่องวีซา ด้วยสามารถพูดภาษาเขมรได้ ก่อนค่อยๆ พัฒนาจนถึงขั้นอ่านออกเขียนได้อย่างคล่องแคล่ว โดยมีสถานที่ฝึกหัดสำคัญคือ “คุกเขมร” เนื่องจากคนไทยมักถูกจับข้อหาลักลอบผ่านแดน ซึ่งยุทธนาต้องตามไปทำหน้าที่ล่ามให้
สมัยที่ สมจัย อนุมานราชธน เป็นเอกอัครราชทูตประจำกัมพูชา “ข้าราชการสถานทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ” ประกอบด้วย อรุณ ภาณุพงศ์-เลขานุการเอก, พ.ต.ท. โกวิท ศรีสัตนาควงศ์-เลขานุการโท, สมาน ศักดิ์สงวน-เลขานุการโท, สนอง จารุภัตติ์-เลขานุการตรี และยุทธนา เปรมัษเฐียร-เจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยุ
นั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้เขาเจอสถานการณ์วิกฤต
สถานการณ์คับขัน
เมื่อไทยกับกัมพูชาตัดความสัมพันธ์ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2501 โดยมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2501
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2501 ข้าราชการของสถานทูตและครอบครัวทั้งหมดเดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยเครื่องบินเที่ยวพิเศษ ยกเว้นข้าราชการเพียง 3 คน คือ อรุณ ภาณุพงศ์, สนอง จารุภัตติ์ และยุทธนา เปรมัษเฐียร
สนองได้รับมอบหมายให้ประจำสถานทูตตลอดเวลา 3 เดือนที่ตัดความสัมพันธ์ ส่วนอรุณและยุทธนาให้ผลัดกันขับรถยนต์ประจำตำแหน่งของท่านทูตกลับกรุงเทพฯ
ไทยและกัมพูชาสถาปนาความสัมพันธ์กลับคืนในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2502 จากนั้นในเดือนมิถุนายน ปีเดียวกัน จิ๊ด เศรษฐบุตร รับตำแหน่งเอกอัครราชทูต
ต่อมาราว 2 ปี ไทยกับกัมพูชาตัดความสัมพันธ์ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2504 ข้าราชการและครอบครัวเตรียมอพยพกลับภายใน 24 ชั่วโมง โดยมอบหมายให้ ดร. สาวิต การีเวทย์-เลขานุการโท, ยุทธนา เปรมัษเฐียร-เสมียนพนักงาน และอดิศร ทวีสุข-เสมียนพนักงาน อยู่เฝ้าสถานทูต
ตามธรรมเนียมทูต เมื่อตัดความสัมพันธ์ต้องมี “ประเทศพี่เลี้ยง” คอยดูแลผลประโยชน์และทรัพย์สินให้ สถานทูตไทยในกัมพูชาได้พม่าเป็นพี่เลี้ยง ส่วนสถานทูตกัมพูชาที่กรุงเทพฯ อินโดนีเซียเป็นพี่เลี้ยง
ข้อหา “จารชน”
วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลโลกตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา สถานการณ์ของทั้งสองประเทศตึงเครียดมากขึ้น จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี เพ่งเล็งชาวกัมพูชาในไทยมากเป็นพิเศษ สุดท้าย ทองแดง กิมวาน-เจ้าหน้าหน้าที่สถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย กูกจับกุมเมื่อออกมานอกสถานทูตในข้อหาจารชน
ส่วนที่กัมพูชา ประเทศพี่เลี้ยงอย่างพม่าหายหน้าไป เวียดนามจึงเข้ามาทำหน้าที่แทนอย่างไม่เป็นทางการ ช่วยเหลือจ่ายเงินเดือนให้เจ้าหน้าที่ไทย แล้วไปเบิกคืนผ่านทางสถานทูตเวียดนามกับกระทรวงการต่างประเทศในกรุงเทพฯ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน ที่อยู่เฝ้าสถานทูตได้ 3 ปี ในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2507 ตำรวจสันติบาลกัมพูชาจำนวน 30 นาย บุกเข้าจับกุมพวกเขาถึงในสถานทูต ในข้อหา “จารชน” ก่อนจะนำตัวไปกุมขังที่ชั้น 5 ของอาคารที่ทำการของสันติบาล เกือบ 3 เดือน
วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 ดร. สถิตย์ เสถียรไทย ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนกองบัญชาการทหารสูงสุด เดินทางไปกัมพูชาเพื่อขอรับเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ที่ตกเป็นเชลย โดยเป็นการแลกเปลี่ยนกับทองแดง กิมวาน เชลยชาวกัมพูชาที่ทางการไทยจับกุม จากนั้นไม่นานทั้ง 3 ก็ได้กลับประเทศไทย
กล่าวได้ว่าบรรดา “ข้าราชการสถานทูตไทยในกัมพูชา” ยุคบุกเบิก หรือแม้แต่ยุคต่อมาก็ตาม ไม่มีใครได้เจอสถานการณ์ตึงเครียด อย่างการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตถึง 2 ครั้ง และทำให้ต้องอยู่ที่กัมพูชานานถึง 9 ปี 8 เดือน อย่างเช่น “ยุทธนา เปรมัษเฐียร”
คลิกอ่านเพิ่ม :
แกะรอยประติมากรรมรูปสตรี “พระศรีชัยราชเทวี” มเหสีพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 พบที่ปราสาทพิมาย
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง
ม.ร.ว. เบญจาภา ไกรฤกษ์. เนาขแมร์, สำนักพิมพ์มติชน ตุลาคม 2547.
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 15 สิงหาคม 2568.
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ใครคือ “ข้าราชการสถานทูตไทยในกัมพูชา” ที่อยู่ในช่วงตัดความสัมพันธ์ทั้ง 2 ครั้ง และถูกจับข้อหา “จารชน”
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com