'คุณภาพ คือ ความอยู่รอด'

ทุกวันนี้ เราทุกคนต่างมี “สิทธิ” ในการใช้ชีวิตและเลือกประกอบอาชีพใดๆ ก็ได้ (คือ อาจจะจบการศึกษาอย่างหนึ่ง แต่ทำงานอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ได้จบมา) เช่น เลือกเป็นข้าราชการ เป็นเจ้าของร้านอาหาร เป็นเจ้าของโรงงาน เป็นหมอ แพทย์ เภสัชกร ดารา นักร้อง ทำไร่ทำสวน หรือ ค้าขายออนไลน์ เป็นต้น

แต่ถ้าสิ่งที่เราเลือกทำเป็น “อาชีพ” เพื่อประทังชีวิตและเลี้ยงดูครอบครัวแล้ว หากไม่มี “คุณภาพ” แล้ว เราก็จะอยู่ไม่ได้ (นาน) โดยเฉพาะสินค้าและบริการที่เราผลิตขึ้น ก็คงจะอยู่ในตลาดไม่ได้นานเช่นกัน

เหตุที่ตัวเราเอง และกิจการ (องค์กร) ต้องมีคุณภาพ ก็เพราะแรงกดดันอย่างน้อย 4 ประการ ได้แก่ (1) ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสีย (2) คู่แข่ง (3) การเปลี่ยนแปลง และ (4) วิกฤติการณ์

ปัจจุบัน ทุกผู้คนต่างเรียกร้อง “คุณภาพ” ดังนั้น คุณภาพจึงไม่ใช่ “ทางเลือก” ที่จะมีหรือไม่มีก็ได้อีกต่อไป แต่เราต้องมีคุณภาพในอาชีพการงานที่ทำอยู่ และสินค้าหรือบริการของกิจการร้านค้าของเราก็ต้องมีคุณภาพด้วย จึงจะก้าวหน้าและเติบโตต่อไปได้ยาวนาน เพราะ “คุณภาพคือความอยู่รอด”

“คุณภาพ” จึงเป็นคำที่ฟังดูดีและดูเหมือนทำได้ง่ายๆ แต่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องที่ทำให้เกิดขึ้นไม่ง่ายนัก

โดยหลักการแล้ว คุณภาพจะมีความหมายใน “เชิงบวก” เสมอ คือ ถ้าเป็นสินค้าหรือสิ่งของแล้ว สินค้าที่มีคุณภาพก็หมายถึงสินค้าที่ใช้งานได้ (“ของดี”) และมักจะหมายถึง ของที่ใช้งานได้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ (ผู้ซื้อของ) เราจึงได้ยินคำพูดเช่นนี้เสมอๆ ว่า “ของดีมีคุณภาพ” เพราะของดีมักจะเป็นของที่มีคุณภาพเสมอ พอมีคำว่าคุณภาพติดกับเรื่องใดๆ เรื่องนั้นๆ ก็ดูดีมีคุณค่ามีราคาสูงขึ้น

ส่วนของที่ไม่ได้คุณภาพ มักจะหมายถึง “ของเสีย” หรือ ของที่ใช้งานไม่ได้ตามที่ต้องการ

เราเคยคิดลึกๆ บ้างหรือไม่ว่า ทุกครั้งที่มี “ของเสีย” เกิดขึ้น ผลเสียหายที่ตามมาจะมีอะไรบ้าง

ถ้าคิดดูให้ดีแล้ว เราจะเห็นว่า การเกิด “ของเสีย” (คือ ของไม่มีคุณภาพ) แต่ละครั้ง นอกจากจะเกิดความเสียหายหรือความสูญเปล่าอันเนื่องจากราคาของ “ของเสีย” นั้นๆ เองแล้ว ยังทำให้เกิดความเสียหายต่างๆ ตามมาอีกมากมาย ทั้งที่มองเห็นได้ชัด และแฝงเร้นมองไม่เห็น

อาทิ การสูญเสียหรือการสิ้นเปลืองทั้งแรงงาน เวลาและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการประชุมเพื่อหาสาเหตุของการเกิดของเสีย การต้องเชิญใครต่อใครมาปรึกษาหารือเพื่อหาทางแก้ไขป้องกันไม่ให้เกิด “ของเสีย” ซ้ำอีก การหาวิธีการใหม่ๆ การใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ การต้องแก้ไขหรือทำงานนั้นใหม่ (การทำขึ้นใหม่) การต้องใช้เครื่องจักรอุปกรณ์ทำการผลิตใหม่ ต้องสิ้นเปลืองไฟฟ้า น้ำประปา น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น

เราจะเห็นได้ว่าของเสียเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้นทุนของผลิตภัณฑ์หรือสินค้าสูงขึ้น ซึ่งทำให้กำไรต้องลดลงไปด้วย รวมทั้งอาจมีปัญหาเรื่องการส่งมอบของให้แก่ลูกค้าล่าช้ากว่ากำหนด เพราะต้องเสียเวลาทำใหม่ อันอาจทำลายความเชื่อถือจากลูกค้าที่มีต่อกิจการของเราด้วย

คนที่ไม่มีคุณภาพ ก็คงเป็นเช่นเดียวกัน งานการก็จะมีแต่ปัญหา และตำแหน่งงานก็ก้าวหน้าช้า เพราะไม่เป็น “มืออาชีพ” (มืออาชีพ กับ คุณภาพมักเป็นของคู่กัน) ส่วนคนที่มีคุณภาพ มักจะก้าวสู่ตำแหน่งสูงขึ้นและเร็วขึ้นด้วย

ทุกวันนี้เราทุกคนจึงต้องท่องคำว่า “คุณภาพ คือ ความอยู่รอด” ให้ขึ้นใจ เพื่อจะได้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีอนาคตและยั่งยืน ครับผม !