ลุง รปภ.บริษัทมอไซค์แห่งหนึ่ง ถูกลูกชายทาสยาบุกแทงเจ็บสาหัส
ลุง วัย 60 ปี ซึ่งเป็น รปภ.ของบริษัทรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งย่านแพรกษา ถูกลูกชายทาสยาเสพติด บุกเข้ามาใช้มีดแทงจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส หลังลูกชายโทรมาขอเงินแต่ไม่ได้ และมีการขู่ว่าจะฆ่า เหตุเกิด บริเวณป้ายรอรถประจำทางริมถนนแพรกษา หน้าบริษัทรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่ง ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 22.15 น วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ บริเวณป้ายรอรถประจำทางริมถนนแพรกษา หน้าบริษัทรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่ง ตำบลท้ายบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กู้ชีพเทศบาลนครสมุทรปราการ และ อาสาสมัครศิวะแจ้งเหตุ เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ พบ นายทิพย์ นุ่มหอม อายุ 60 ปี (รปภ.) นอนรอความช่วยเหลือบริเวณป้ายรอรถประจำทาง สภาพบาดแผลฉีกขาดจากของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์ บริเวณใบหน้าและตามร่างกายหลายแห่ง โดยเฉพาะใบหน้าโดนของมีคมช่วงหูยาวลงมาคาง บริเวณ ขาขวา จำนวน 5 แผล แยกเป็น ต้นขา บน 2 แผล เข่า น่อง เท้า อย่างละแผล และยังมีขาซ้าย อีก 2 แผล เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ ส่วนผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาถึง
จากการสอบถาม นายทิพย์ คนเจ็บ ให้ข้อมูลว่า ลูกชายขอเงินตนแต่ตนไม่ให้ ก่อนหน้านี้มีการโทรมาขอเงิน และมีการขู่ว่าถ้าไม่ให้จะฆ่า วันนี้เขาก็เลยมาก่อเหตุเลย ตนกับเขาอยู่คนละบ้านเพราะเขาติดยา เลยไม่อยากจะยุ่ง
ขณะที่ นายอัครพล อายุ 18 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนขับรถผ่านมาพอดีตอนแรกตอนเลยไปแล้ว แต่คนเจ็บเรียกตนให้ช่วยจึงวกรถกลับมา ตอนนั้นตนเห็นลูกชายของคนเจ็บ ที่มีอาการเหมือนคนเมายาด้วย ตนจึงช่วยเหลือคนเจ็บก่อน ตอนแรกที่ตนเห็นเหมือนคนเจ็บกับลูกชายสู้กันอยู่ ลูกชายมีมีดคัตเตอร์ด้วย ตอนที่ตนเห็นเหมือนเขากำลังจะแทงคอพ่อของเขา แต่มันไปโดนบริเวณหน้า ตัวผู้ก่อเหตุที่เป็นลูกชายนั้นเอะอะโวยวายว่าเขาจะเอาพ่อผมไป ทั้งๆที่คนเจ็บเป็นพ่อของเขา ตอนนี้เขาขับรถมอเตอร์ไซค์ขี่หนีไปแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะแนะนำผู้ได้รับบาดเจ็บหาประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีให้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง เพื่อติดตามตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป