แรงงานกัมพูชาทิ้งไทย 5 แสนคน เสี่ยงฉุด GDP หด 3.2 หมื่นล้านต่อเดือน
รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศและอาเซียน เปิดเผย บทวิเคราะห์ประเมินผลกระทบจากการที่แรงงานกัมพูชากลับประเทศ ว่าปัจจุบัน (ปี 2567) ไทยมีแรงงานกัมพูชาทั้งในระบบและนอกระบบรวม 1.25 ล้านคน ทำงานใน 3 ภาคหลัก ได้แก่ ก่อสร้าง 3 แสนคน ภาคเกษตร 3.25 แสนคน และภาคบริการ 6.25 แสนคน คิดเป็น 20.8% ของแรงงานในไทยทั้งหมด และ 15.7% ของแรงงาน CLMV ในไทย
แรงงานกัมพูชามีส่วนสร้างมูลค่าเศรษฐกิจไทยคิดเป็น 5.2% ของ GDP หรือประมาณ 9.36 แสนล้านบาทต่อปี (คิดจากจีดีพีไทยอยู่ที่ 18 ล้านล้านบาท) แบ่งเป็นก่อสร้าง 1.90 แสนล้านบาท ภาคเกษตร 4.5 หมื่นล้านบาท และภาคบริการ 7 แสนล้านบาท
ดร.อัทธ์ ระบุว่า หากแรงงานกัมพูชากลับประเทศ 3–5 แสนคน จะทำให้ GDP ไทยสูญเสีย 2.34–3.90 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 5.3–8.8% โดยผลกระทบต่อเดือนอยู่ระหว่าง 1.95–3.25 หมื่นล้านบาท ภาคบริการได้รับผลกระทบมากที่สุด รองลงมาคือก่อสร้าง และเกษตรกรรม
ขณะเดียวกัน กัมพูชาก็จะเผชิญปัญหาเช่นกัน เพราะแรงงานที่กลับประเทศไม่มีตำแหน่งงานรองรับ ทำให้สูญเสียรายได้รวม 3–5 พันล้านบาทต่อเดือน หรือ 3–4% ของ GDP กัมพูชา อาจก่อแรงกดดันทางเศรษฐกิจและการเมืองต่อรัฐบาลพนมเปญ
"จะเห็นได้ว่าภาคการผลิตและเศรษฐกิจไทยพึ่งพิงแรงงานกัมพูชามากพอสมควร ในสัดส่วน 5.2% ของ GDP ประเทศ การที่แรงงานเหล่านี้กลับประเทศย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไรก็ตามก็กระทบต่อเศรษฐกิจกัมพูชาเช่นกัน เพราะแรงงานจำนวน 3-5 แสนคนที่กลับประเทศกัมพูชา ไม่มีตำแหน่งว่างงานรองรับในกัมพูชา จะสร้างแรงกดดันทางการเมืองต่อผู้นำของกัมพูชาด้านเศรษฐกิจเพราะกระทบต่อรายได้แรงงานกัมพูชาที่หายไปเดือนละ 3,000-5,000 ล้านบาท หรือปีละ 36,000 – 60,000 ล้านบาท ซึ่งจะกระทบ GDP ของกัมพูชาลดลงเช่นกัน อยู่ที่ 3-4% ของ GDP กัมพูชา"
ข้อเสนอแนะ
1.เร่งดึงแรงงานจากเมียนมาและลาวมาทดแทนด่วน
2.จัดทำยุทธศาสตร์แรงงานต่างชาติทดแทนกัมพูชาในระยะ 5–10 ปี
3.จูงใจแรงงานไทยเข้ามาทำงานแทน โดยเพิ่มค่าจ้างและให้สิทธิพิเศษด้านการเงิน เช่นดอกเบี้ยกู้ยืมต่ำ หรือลดภาษีดอกเบี้ยแรงงานไทย
4.ศึกษาความเป็นไปได้ในการนำเข้าแรงงานจากบังกลาเทศหรือศรีลังกาเข้ามาทำงานแทน