จับตาเรือดำน้ำไทย! ผบ.ทร. เผย 3 ปีข้างหน้าได้เห็นตัวจริง พร้อมคัดกำลังพลใหม่
13 ส.ค. 2568 พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ แถลงความคืบหน้าโครงการจัดหาเรือดำน้ำและเรือฟริเกต โดยระบุว่าขั้นตอนต่อจากนี้จะเป็นการร่างสัญญาแก้ไขข้อตกลงทั้งสองฝ่าย เพื่อนำเสนออัยการสูงสุดพิจารณาและลงนาม เมื่อเสร็จสิ้นจะเริ่มนับสัญญาใหม่ประมาณ 1,200 วัน หรือราว 3 ปี ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนต่อเรือ คาดว่าหลังจากนั้นจะได้เห็นคุณภาพเรือดำน้ำอย่างชัดเจน
สำหรับท่าเรือของเรือดำน้ำ อยู่ระหว่างตรวจสอบความเรียบร้อยและเก็บงาน พร้อมเตรียมคัดเลือกกำลังพลประจำเรือเพิ่มเติม เนื่องจากโครงการหยุดชะงักมานานเกือบ 3 ปี และต้องทบทวนว่ากำลังพลเดิมยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่หรือไม่
ผบ.ทร. กล่าวถึงการเยือนของมิตรประเทศว่าไทยยินดีต้อนรับทุกประเทศโดยไม่มีข้อแม้ ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ มีมาอย่างยาวนาน หากสหรัฐฯ เดินทางมาเยือน ไทยก็พร้อมสนับสนุน เช่นเดียวกับที่ไทยไปเยือนสหรัฐฯ ก็ได้รับการสนับสนุนเช่นกัน
ในส่วนของฐานทัพเรือพังงา ซึ่งเป็นฐานทัพขนาดเล็ก กองทัพเรือมีแผนขยายขีดความสามารถฝั่งทะเลอันดามัน แต่ยังอยู่ระหว่างพิจารณาความจำเป็นและสถานการณ์ว่าจะทุ่มงบในฝั่งอันดามันหรือหันมาสนใจฝั่งอ่าวไทยแทน เนื่องจากงบประมาณมีจำกัด ต้องเลือกโครงการให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง
เกี่ยวกับความสัมพันธ์กัมพูชา-สหรัฐฯ ที่ใกล้ชิดมากขึ้น ผบ.ทร. ระบุว่าเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม เพราะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเปลี่ยนแปลงได้ตลอด และไทยต้องพิจารณาว่าจะรักษาระยะความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ อย่างไร
ทั้งนี้ โครงการเรือดำน้ำได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้สร้าง 1 ลำก่อน ใช้เวลาราว 3 ปี ส่วนโครงการเรือฟริเกตยังคงจำเป็นต้องจัดหาต่อเนื่อง โดยคณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว 2 ลำ แม้ได้รับงบประมาณเพียงลำเดียวก็ตาม ซึ่งเมื่อได้ลำแรกจะเปิดทางให้จัดหาลำที่ 2 ต่อเนื่องกันไป โดยไม่ต้องคัดเลือกใหม่ ยกเว้นกรณีที่รัฐบาลดำเนินการล่าช้าจนเทคโนโลยีเปลี่ยน จำเป็นต้องติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด