GULF-SCCแชมป์งบพุ่ง MINTหุ้นเด่นครึ่งปีหลัง
#SCC #GULF #ทันหุ้น – เปิดโผหุ้น SET100 งบไตรมาส 2/2568 แจ่ม พบ GULFครองแชมป์กำไรสูงสุด 6.3 หมื่นล้านบาท ด้าน SCC กำไรพุ่งแรง QoQ-YoY เกิน 1,000% ด้านนักวิเคราะห์มอง ครึ่งปีหลังแผ่ว จากสเปรดอ่อนตัว พร้อมเฟ้นหุ้นเด่นงบโตต่อ แนะ MINT เหตุ Q3 ท่องเที่ยวยุโรปบูม – MOSHI รุกขยายสาขาด้านโตแถมราคาหุ้นยังแลกการ์ด
ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่หุ้นอยู่ใน SET100 ที่ประกาศไตรมาส 2/2568 ออกมาแล้ว อ้างอิงข้อมูลจากระบบ SET ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ สิ้นวันที่ 15 สิงหาคม 2568 พบว่า 84 บริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีกำไรเป็นบวก และ 11 บริษัทจดทะเบียนรายงานผลขาดทุน (จากข้อมูลรายงานรวม 95 บริษัท)
@GULF กำไรมากสุด
ทั้งนี้พบว่า บจ.ที่มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2568 มากสุด 5 อันดับแรก คือ 1. GULF กำไรสุทธิ 63,871.48 ล้านบาท 2.PTT กำไรสุทธิ 21,532.88 ล้านบาท 3. SCC กำไรสุทธิ 17,337.29 ล้านบาท, 4.PTTEP กำไรสุทธิ 13,515.26 ล้านบาท และ SCB กำไรสุทธิ 12,786.07 ล้านบาท
ด้านบจ.ที่มีกำไรไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) มากที่สุด 5 อันดับแรก คือ 1.SCC กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 367.57% 2.BTG กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 313.19% 3.TASCO กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 304.46% 4.TFG กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 198.56% และ 5.BAM กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 183.69%
ส่วนบจ.ที่มีกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) มากสุด 5 อันดับแรก คือ 1.SCC กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 1,477.77% 2.MINT กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 640.17% 3.BAM กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 496.94% 4.CK กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 205.68% และ 5.SPALI กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 172.85%
โดยชัดเจนว่า SCC มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสูงสุด YoY และQoQ เนื่องจากฐานกำไรที่ต่ำ ในขณะที่ GULF มีกำไรสุทธิมากที่สุด เกิดจากรายการพิเศษ จากการควบรวมกับ INTUCH
@ตัวเด่นที่ไม่เด่น
นายกรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และนักเศรษฐศาสตร์ (Vice President) สายงานวิจัย (ลูกค้ารายย่อย) บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แม้ SCC จะเป็นหุ้นที่มีกำไรดีขึ้นอย่างโดดเด่นในไตรมาส 2/2568 แต่ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนกลับแนะนำเป็นขาย เนื่องจากกำไรดีเพิ่มขึ้นมากส่วนหนึ่งมาจากกำไรพิเศษการรับรู้ค่าความนิยมติดลบจาก Chandra Asri Petrochemical หรือ CAP และปรับมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์รวม 16,712 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้สะท้อนพื้นฐานที่แท้จริง
ทั้งนี้เมื่อประเมินอนาคตคาดว่าธุรกิจหลักของ SCC จะมีผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2568 อ่อนตัวลงเมื่อเทียบครึ่งปีแรก เคมีภัณฑ์มีแนวโน้มลดลงอีกในครึ่งปีหลังนี้เพราะสเปรดของผลิตภัณฑ์พลอยได้ (เบนซีนและบิวทาไดอีน) อ่อนตัว และ LSP น่าจะกลับมาเปิดดำเนินงานช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ขณะที่ SCC เปลี่ยนวิธีการบัญชีสำหรับ CAP แล้ว แต่ว่าส่วนแบ่งรายได้จากเงินลงทุนในธุรกิจเคมีภัณฑ์น่าจะยังอ่อนตัวเพราะเสปรดโพลีเอทิลีน อยู่ในระดับต่ำและสเปรดบิวทาไดอีน-แนฟทาลดลง
นอกจากนี้ EV/EBITDA ของ SCC ที่ 13.4 เท่า ในปี 2568 ถือว่าแพงกว่าเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการในธุรกิจเคมีภัณฑ์และปูนซีเมนต์ในเอเชียที่ 8.4 เท่า และ 8.8 เท่า ตามลำดับ อีกทั้งปัจจัยลบที่จะฉุดราคาหุ้นคือการที่ราคาปูนซีเมนต์ในประเทศและความต้องการบรรจุภัณฑ์ต่ำกว่าคาด ราคาเป้าหมายพื้นฐานอยู่ที่ 130 บาท
@เชียร์หุ้นท่องเที่ยว
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจใน SET100 สำหรับไตรมาส 3/2568 แนะนำ MINT ที่ยังจัดเป็นหุ้นเติบโต หรือ Growth Stock ซึ่งกำลังปีปัจจัยบวกคือไตรมาส 3 เป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวที่ดีในยุโรป ซึ่งผลประกอบการมีโอกาสได้รับผลดีชัดเจน แม้ MINT การที่เตรียมเปิดโครงการซื้อหุ้นคืนอาจไม่ช่วยให้การประเมินมูลค่าสูงขึ้น แต่ด้วยประวัติการดำเนินการที่แข็งแกร่งทำให้คาดว่า MINT จะมีกำไรสุทธิทั้งปี 2568 เท่ากับ 6,260.45 ล้านบาท และจะเติบโต 31% ในปี 2569 และ 36% ในปี 2570 ด้วยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจโรงแรมและดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง ดังนั้นเราจึงยังแนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 34 บาท
อีกหลักทรัพย์คือ MOSHI อยู่ในกลุ่มค้าปลีก มีการเติบโตที่ค่อนข้างดีที่ มีการขยายสาขาเชิงรุก ส่วนผสมการขายที่ดีขึ้นและ Operating Leverage จะช่วยให้ยังมีกำไรสุทธิเติบโตแข็งแกร่งในไตรมาส 3/2568 ในขณะที่ราคาหุ้นยังไม่ค่อยปรับขึ้นมากนัก แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 47.75 บาท