สมัครเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ "ภูริกา" พท.เบอร์ 1 "จินณ์ตวรรณ" ภท.เบอร์ 2
วันนี้ (14 ก.ค.2568) ที่ว่าการอำเภอขุนหาญ น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 5 อ.ขุนหาญ กับ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย เดินทางมาถึงโดยมีครอบครัวไตรสรณกุล นำโดยนายธีระ ไตรสรณกุล ซึ่งเป็นคุณพ่อ และแม่ รวมถึง น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล อดีตเลขานุการ รมว.มหาดไทย และมี สส.ของพรรคภูมิใจไทย หลายคนมาร่วมให้กำลังใจ ก่อนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะเดินทางมาถึงเพื่อร่วมให้กำลังใจด้วย
เมื่อเข้าสู่กระบวนการจับหมายเลข ซึ่งการสมัครในวันนี้มีผู้สมัครเพียง 2 คน จาก 2 พรรค คือ พรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทย จึงใช้วิธีการจับสลากหมายเลขเพื่อใช้ในการหาเสียง ปรากฏว่า น.ส.ภูริกา สมหมาย ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย บุตรสาวของนายอมรเทพ สมหมาย สส.เขต 5 คนเดิม ที่เสียชีวิตลง ได้หมายเลข 1 และ น.ส.จินณ์ตวรรณ ได้หมายเลข 2
นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้สิ่งที่เราเห็นประชาชน จ.ศรีสะเกษ ทั้ง 2 อำเภอ คือ อ.ขุนหาญ กับ อ.ภูสิงห์ ยังไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพืชผลทางการเกษตร และการปิดด่าน สิ่งเหล่านี้พรรคภูมิใจไทย ได้เห็นแล้ว และที่ จ.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทยมีผู้แทน 2 คน แต่เราให้ความสำคัญเรื่องของการให้ตำแหน่งกับสมาชิกของพรรคไปดูแลประชาชน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขณะที่พรรคเพื่อไทย มี สส. 7 คน แต่กลับไม่มีตำแหน่งอะไรเลย แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความสำคัญที่พรรคการเมืองแต่ละพรรคให้กับประชาชนที่เลือกผู้แทนมา ซึ่งในวันนี้พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อม และมีการถอดบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองความต้องการ และความรู้สึกของประชาชน รวมถึงการตอบแทนบุญคุณของพี่น้องชาวศรีสะเกษ แม้ว่าภูมิใจไทยจะมี สส.เพียง 2 คน แต่ทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ และเชื่อว่าในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ประชาชนจะให้โอกาสพรรคภูมิใจไทยในการเข้าไปทำหน้าที่ตรวจสอบ สิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นซึ่งควรจะเกิดขึ้น เพื่อประโยชน์และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชาวศรีสะเกษกลับมา
นายอนุทิน ยังระบุว่าเล่นการเมืองสร้างสรรค์ แข่งขันเพื่อเสนอสิ่งที่ดีให้กับประชาชนชาวศรีสะเกษ ไม่ได้มาห้ำหั่นหรือสู้รบตบมือกับใคร ซึ่งตนให้คำยืนยันในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่าจะแข่งขันเพื่อให้ได้รับความไว้วางใจ และความมั่นใจจากประชาชนด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมใสสะอาด รักษากติกา และกฎหมายรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า มีการมองยุทธศาสตร์ไล่หนูตีงูเห่าอย่างไร เพราะขณะนี้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำทำให้พรรคเพื่อไทยอยากยึดพื้นที่เดิมไว้ให้ได้ เพราะมีผลต่อเสียงในสภา นายอนุทิน กล่าวว่า
"คนที่ไล่หนูตีงูเห่า วันนี้ก็เอางูเห่าไปไม่รู้กี่ตัวต่อกี่ตัว และยังบอกว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก จึงเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องพิจารณา ว่าการที่พูดแล้วไม่รักษาคำพูดไม่อยู่กับร่องกับรอย การบริหารบ้านเมืองจึงเป็นเช่นนี้ ดังนั้น เราจึงต้องให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ โดยพรรคมีความชัดเจนคือพูดแล้วทำ ซึ่งเป็นกรอบที่ล็อกตัวเองอยู่ตลอดเวลา สำหรับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ส่วนตัวมีความมั่นใจ"
ทั้งนี้ภายหลังการจับเบอร์ นายอนุทิน พร้อมผู้สมัคร และแกนนำพรรคภูมิใจไทยขึ้นอีแต๋น หาเสียงรอบ อ.ขุนหาญ
อ่านข่าว :
"ภูมิธรรม" ให้ "อธิบดีกรมที่ดิน" ชี้แจงใน 7 วัน เหตุไม่ทำตามคำสั่งศาลฯ กรณีที่ดินเขากระโดง