มาเซราติ เกรคาเล่ 2 ทางเลือกขุมพลัง เอสยูวี เดลี่ ยูส อารมณ์สปอร์ต
โดย มาเซราติ เกรคาเล่ โทรฟีโอ (Maserati Grecale Trofeo) เป็นรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อน เป็นเครื่องยนต์ Nettuno ที่หยิบมาจากซูเปอร์คาร์ตัวเก่งเอ็มซี20 (MC20) ซึ่งพัฒนาเทคโนโลยีมาจากสนามแข่ง ฟอร์มูลา วัน
เครื่องยนต์เบนซิน วี6 ขนาด 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 530 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 620 นิวตันเมตร
ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ AWD (all-wheel drive) ซึ่งสามารถกระจายกำลังหน้า/หลัง ได้แบบ 0:100 จนถึง 50:50 ตามสถานการณ์ที่เหมาะสม อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 285 กม./ชม.
ติดตั้งยางสปอร์ต ด้านหน้าขนาด 255/40R21 ด้านหลัง 295/35 R21
มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้ง Comfort, GT, Sport, Off-road และ Corsa ที่มีเฉพาะในโทรฟีโอ เหมาะกับการขับขี่บนสนามแข่งที่ต้องการการถ่ายทอดกำลังเต็มที่พร้อมกับทักษะการขับจากการตัดโหมดช่วยเหลืออย่างระบบควบคุมการทรงตัว (ESC) แต่ก็สนับสนุนด้วยการปรับช่วงล่างให้เหมาะสมกับการขับมากขึ้น ลดอาการอันเดอร์สเตียร์
ส่วนทางเลือก อีวี หรือ เกรคาเล่ โฟลกอเร่ (Folgore) มอเตอร์ 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ให้กำลังสูงสุด 550 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 820 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ความจุ 105 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการขับขี่สูงสุด 426 กม./ชม. ตามมาตรฐาน WLTP
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม. มีโหมดขับขี่ 4 โหมด คือ GT หรือ โหมดทั่วไป เหมาะกับการขับขี่ในเมือง โดยโหมดนี้จะไม่ปล่อยกำลังเต็มที่ แค่ประมาณ 80% โหมด Sport ก็ตามชื่อ โดยจะปล่อยกำลังเต็มที่ 100%
โหมด Max Range เป็นการใช้เพื่อเพิ่มระยะทางการใช้งานสูงสุด เลือกใช้เองได้ทุกเมื่อ และรถจะแนะนำให้ใช้ เมื่อความจุแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่า 16% โดยโหมดนี้จะจำกัดความเร็วสูงสุดไม่เกิน 130 กม./ชม. ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วก็เป็นความเร็วเหลือ ๆ สำหรับการใช้งานจริง
โฟลกอเร่ ใช้ยางที่หนากว่า รองรับกับตัวรถมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ เป็นยางขนาด 255/50 R19
ผมลองขับทั้ง 2 รุ่น ระยะทางสั้น ๆ คันละประมาณ 40 กม. เป็นเส้นทางในกรุงเทพฯ เน้นทางด่วนเป็นหลัก เพื่อความคล่องตัวจากสภาพจราจร
ดังนั้นต้องขออภัยที่ภาพประกอบเส้นทางจริง ไม่มีครับ เพราะไม่สามารถจอดถ่ายได้
ในภาพรวม เกรค่าเล่ แม้จะเป็นรถในรูปแบบของ เอสยูวี แต่ก็มีดีเอ็นเอ ของความสปอร์ตไม่น้อย เรื่องของอัตราเร่ง การตอบสนองทำได้เร้าใจ ออกตัวได้เร็ว จังหวะการเร่งแซงปราดเปรียว
โฟลกอเร่ มาเซราติ เซ็ตมาให้มีอารมณ์การขับขี่ที่กลมกลืนไปกับรถที่ใช้เครื่องยนต์ จังหวะออกตัว จังหวะเร่งไม่เน้นความรุนแรงมากเกินไป ทั้งที่จริง ๆ แล้ว มอเตอร์ไฟฟ้ามันสามารถทำได้ไม่ยาก ซึ่งหลายคนอาจจะชอบ แต่การเซ็ตแบบนี้ก็ทำให้ผู้ที่เป็นผู้โดยสารนั่งได้สบายตัวมากขึ้น
การใช้โหมด GT ในการขับขี่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน หรือ ตอบสนองอารมณ์สปอร์ตได้แล้ว แต่ถ้าจะใช้ Sport ก็จะยิ่งดุดันมากขึ้น
ส่วน Max range เมื่อลองใช้งาน ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรมากนักจาก GT แม้จะปรับให้การตอบสนองช้ากว่าเล็กน้อย เพื่อการประหยัดพลังงานก็ไม่มีผลอะไร เอาเป็นว่าถ้าใครไม่ได้รีบร้อยไปไหน หรือ ขับขี่ในเมือง จะตั้งโหมดนี้คาเอาไว้ก็ได้
ส่วนเรื่องของเสียงใครชอบความเงียบก็ได้ตามนั้น แต่ถ้าใครต้องการเสียง โฟลกอเร่ มีเสียงเครื่องยนตฺ์สังเคราะห์เอาไว้สร้างบรรยากาศ
ขณะที่ เครื่องยนต์ วี 6 ของ โทรฟีโอ ตอบสนองได้เร้าใจและเนียนเท้าดีครับ คือ ได้ทั้งความไว กระฉับกระเฉง ความลื่นไหล ทำให้ขับทั้งแบบสบายและสนุกไปพร้อม ๆ กัน
และหากเลือกโหมด Sport การเซ็ตช่วงล่าง พวงมาลัยจะเติมอารมณ์สปอร์ตเต็มที่ พร้อมกับการช่วยให้รถทรงตัวดีขึ้น จัดการในทางโค้งด้วยความเร็วสบาย ๆ ลดอาการให้ตัว การโยนตัวด้วยช่วงล่างซึ่งเป็นแบบถุงลม หรือ air suspension (โฟลกอเร่ ก็ใช้แบบเดียวเดียว) ที่ปรับตามโหมด สภาพเส้นทางและอาการของรถ
เช่นเมื่อเข้าโค้งขวาแบบแรง ๆ น้ำหนักรถจะถูกถ่ายไปยังล้อซ้าย ระบบก็จะปรับให้ช่วงล่างด้านซ้ายแข็งกว่าด้านขวา เพื่อยันตัวรถเอาไว้ ดังนั้นก็ทำให้สามารถจัดการกับเส้นทางได้ดีขึ้น และผู้ขับก็ไม่หลงอาการของรถ ขณะที่พวงมาลัยมีน้ำหนักที่ดี มีแรงขืน ทำให้ควบคุมทิศทางได้ง่าย
ส่วนเสียงของ วี 6 ไม่ต้องพึ่งพาการสังเคราะห์ แต่ออกแบบให้ได้เสียงจากเครื่องยนต์แบบ Maserati Signature Sound ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของมาเซราติ ทุ้ม ลึก เสริมอารมณ์สปอร์ตได้ดียิ่งขึ้นครับ
สำหรับค่าตัวของ เกรคาเล่ โทรเฟโอ เริ่มต้น 10,890,000 บาท ส่วนโฟลกอเร เริ่มต้น 7,290,000 บาท
โดยรวมแล้ว เป็นเอสยูวี ที่ขับได้สนุก ได้อารมณ์สปอร์ตเหมือนรถสปอร์ต ส่วนการขับขี่บนถนนจริงอย่างทางด่วน รถให้ความคล่องตัวที่ดีทั้งจากเรื่องของการปรับเปลี่ยนความเร็วและช่วงล่างเมื่อต้องซอกแซกไปมา เรียกว่าเป็นเอสยูวีขนาดใหญ่ที่มีความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมืองอีกรุ่นหนึ่ง เรียกว่าเป็นรถที่เหมาะกับการ daily use ได้เลยครับ
แต่ถ้าถามว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน ก็ต้องตอบว่าขอรุ่นเครื่องยนต์ครับ