โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คดีนักเทนนิสหญิงชาวอินเดีย ถูกพ่อสังหาร เพราะ ‘ศักดิ์ศรีความเป็นพ่อ’ สะท้อนภาพปัญหาอะไรในสังคมอินเดีย?

The MATTER

เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Brief

ถือเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญของอินเดีย ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (10 กรกฎาคม 2568) ที่ผ่านมา หลังจากที่นักเทนนิสหญิงชาวอินเดีย ถูกฆาตกรรมในบ้านของตัวเอง โดยผู้ที่สังหารเธอก็คือ ‘พ่อ’ ของเธอเอง ซึ่งเมื่อทราบถึงเหตุผลในการสังหารแล้วก็ทำให้โลกตะลึงยิ่งกว่าเดิม

เรื่องราวนี้เป็นเรื่องของ ‘ราธิกา ยาดาฟ’ นักเทนนิสชาวอินเดีย วัย 25 ปี ซึ่งถูกยิง 4 นัดเสียชีวิต ขณะกำลังทำอาหารอยู่ในครัวที่บ้าน ในเมืองคุร์เคาน์ ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางทางการเงินและเทคโนโลยี ใกล้กรุงนิวเดลี ซึ่งผู้ที่ลงมือสังหารก็คือพ่อของเธอเอง

ปัจจุบันเธอเป็นเจ้าของสถาบันสอนเทนนิส India Today ระบุว่า เธอมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์ และกำลังโด่งดังบนโซเชียลมีเดียจากคลิปที่เธอสอนเด็กๆ ไปด้วยและทำคอนเทนต์ไปด้วย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว ‘ดีปัค ยาดาฟ’ พ่อของราธิกา ในเวลาต่อมา และได้ยึดปืน (ที่มีใบอนุญาต) ซึ่งเขาสารภาพกับตำรวจโดยบอกว่า เขารู้สึกไม่สบายใจจากคำวิจารณ์จากญาติพี่น้อง รวมถึงชาวบ้านที่มักจะเยาะเย้ยว่าเขาให้ลูกสาวเลี้ยงดู ขณะที่บางคนก็ตั้งคำถามถึงนิสัยของลูกสาว ซึ่งส่วนตัวเขาได้บอกให้ลูกสาวปิดสถาบันสอนเทนนิส แต่เธอก็ปฏิเสธ

พ่อของราธิกา รู้สึกอับอายที่ลูกสาวเป็นคนมีชื่อเสียงและหาเงินเข้าบ้าน ทั้งๆ ที่มันควรจะเป็นหน้าที่ของผู้ชาย และนำมาซึ่งแรงจูงใจในการสังหารลูกสาวของตัวเอง ซึ่งจากกรณีของราธิกา ได้สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับวัฒนธรรม ‘ชายเป็นใหญ่’ ในครอบครัว และตามมาด้วยคำถามมากมายเกี่ยวกับการกดขี่-ทำร้ายผู้หญิง โดยผู้ชายในสังคมของอินเดีย

- สังคมชายเป็นใหญ่ในอินเดีย -

ไม่ว่าจะวรรณะ ศาสนา และวัฒนธรรมในอินเดีย ต่างก่อให้เกิดโครงสร้างแบบปิตาธิปไตย (ชายเป็นใหญ่) โดยการจำกัดสิทธิในการตัดสินใจของผู้หญิง และเสริมสร้างความเหลื่อมล้ำทางเพศ สิ่งนี้ดำเนินไปอย่างลึกซึ้งภายใต้กรอบของสังคมอินเดีย มีอิทธิพลต่อกฎหมาย ประเพณี และการปฏิบัติในชีวิตประจำวัน

เว็บไซต์ Gender Study ระบุว่า วรรณะมีบทบาทกับสังคมในอินเดียอย่างมากและอยู่มายาวนาน อีกทั้งยังเป็นตัวกำหนดความสัมพันธ์แม้กระทั่งการเลือกคู่แต่งงาน และมองผู้หญิงเป็นเพียงสินค้าที่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ ซึ่งคนที่สามารถเลือกและควบคุมได้ก็จะมีเพียงพ่อ-พี่ชาย หรือสามี

Gender Study ระบุหนึ่งในวัฒนธรรมของปิตาธิปไตยในอินเดียที่เห็นได้ชัดที่สุดคือเกียรติของผู้หญิงที่มักจะถูกผูกกับความบริสุทธ์ทางเพศ ซึ่งหากเบี่ยงเบนไปนอกจากนี้จะถูกมองว่าไร้เกียรติและน่าอับอาย ซึ่งมันก่อเกิดเป็นวัฒนธรรมที่โทษผู้หญิงว่าเป็นเหตุให้เกิดความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศ ในขณะที่ผู้ชายแทบจะไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ เลย

ซึ่งวัฒนธรรมดังกล่าวยังส่งผลต่อการมีลูกอีกด้วย อ้างอิงจากผลสำรวจโดย Pew Research ใ่นช่วงปลายปี 2019 ถึงต้นปี 2020 ระบุว่าชาวอินเดียให้ความสำคัญกับการมีทั้งลูกชายและลูกสาว แต่กว่า 94% บอกว่าครอบครัวจะต้องมีลูกชายอย่างน้อยหนึ่งคน และอีก 90% บอกจะต้องมีลูกสาวอย่างน้อยหนึ่งคน แต่ 4 ใน 10 คน มองว่าลูกชายควรมีหน้าที่หลักในการดูแลพ่อแม่ยามที่พวกเขาแก่เฒ่า

- เปิดสถิติความรุนแรงในครอบครัว -

ข้อมูลจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐฯ (NIH) ระบุอัตราความรุนแรงในครอบครัวต่อผู้หญิงในอินเดีย ช่วงปี 2019-2021 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 31.2% โดยพบว่าผู้หญิงประมาณ 28.5% บอกว่าเคยประสบความรุนแรงทางร่างกาย 13.1% เคยประสบความรุนแรงทางอารมณ์ และ 5.7% เคยประสบความรุนแรงทางเพศ ซึ่งรัฐกรณาฏกะเป็นที่มีผู้หญิงกว่า 47.3% เผชิญกับความรุนแรงในครอบครัวมากที่สุด

Pew Research ระบุความเห็นของชาวอินเดียที่มองว่าผู้ชายควรมีบทบาทสำคัญมากกว่าผู้หญิง ซึ่งประมาณ 9 ใน 10 คนเห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่าภรรยาต้องเชื่อฟังสามีเสมอ แบ่งเป็นผู้หญิงที่เห็นด้วย 61% และผู้ชาย 67%

แม้อินเดียจะมีพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้หญิงจากความรุนแรงในครอบครัวปี 2005 (PWDVA 2005) ที่กำหนดให้ความรุนแรงในครอบครัวเป็นอาชญากรรมที่มีผลทางกฎหมาย เช่น การจำคุกและเสียค่าปรับ แต่ปัจจุบันก็ยังคงมีปัญหาเรื่องการบังคับใช้โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ด้อยโอกาส ซึ่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบมากมาย ทั้งทางกายและทางใจต่อผู้หญิงด้วย

- ความเท่าเทียมทางเพศแบบอินเดีย -

เมื่อพูดถึงความเท่าเทียมทางเพศแล้ว ชาวอินเดียก็มีมุมมองต่อเรื่องนี้ในบางประการเช่นกัน ยกตัวอย่างผลการสำรวจจาก Pew Research ผู้ใหญ่ชาวอินเดียกว่า 62% มองว่าทั้งผู้ชายและผู้หญิงควรรับผิดชอบในการดูแลเด็ก แต่ด้วยบรรทัดฐานทางเพศแบบดั้งเดิมก็ยังคงมีอิทธิพลในประชากรส่วนใหญ่ โดยผู้ใหญ่ประมาณ 1 ใน 3 หรือราวๆ 34% รู้สึกว่าเด็กควรได้รับการดูแลจากผู้หญิงเป็นหลัก

มองออกมาในโลกของการทำงานกันบ้าง คนส่วนใหญ่ (54%) กล่าวว่าทั้งผู้ชายและผู้หญิงในครอบครัวควรรับผิดชอบเรื่องการหารายได้เข้าบ้าน แต่ก็ยังมีชาวอินเดียอีกกว่า 43% ที่มองว่ามันต้องเป็นหน้าที่ของผู้ชายเป็นหลัก ขณะที่บางคนบอกว่า ในเวลาที่งานขาดแคลน ผู้ชายก็ควรจะมีสิทธิถูกจ้างงานมากกว่าผู้หญิง สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของผู้ชายในด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกว่า 8 ใน 10 คน เห็นด้วยกับแนวคิดนี้

เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่เป็นปัญหาในสังคมอินเดียที่น่าติดตามต่อว่าจะมีทิศทางไปในทางไหนในยุคสมัยที่เปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งแม้ว่าปัจจุบันจะมีกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้หญิงแล้ว แต่อินเดียก็ยังคงประสบปัญหาอื่นๆ ที่กดทับกันอยู่หลายชั้น ทั้งการบังคับใช้ และการผูกโยงคุณค่าของผู้หญิงกับศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้อย่างเร็ววัน

อ้างอิงจาก

pmc.ncbi.nlm.nih.gov

pewresearch.org

gender.study

dw.com

ndtv.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The MATTER

พลังงานลม กับบทบาทใหม่ ที่จะเปลี่ยนอนาคตของการใช้พลังงาน

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“เราโทษตัวเองว่าเป็นคนส่งเขาไปตาย” ฟังเสียงครอบครัวผู้เสียหาย ในวันที่ พ.ร.บ.ทรมานอุ้มหายฯ ยังมีช่องโหว่-ขาดการบังคับใช้อย่างจริงจัง

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

‘เพื่อไทย’ ตีปี๊บ ‘บอร์ด สปสช.’ ไฟเขียว ‘ฮอร์โมนข้ามเพศ’ เข้าบัตรทอง งบปี 2568

The Bangkok Insight

จเรตำรวจเตือนคนไทยเปิดบัญชีม้า โทษหนักคุก 41 ปี

สำนักข่าวไทย Online

ไม่จบง่ายๆ "เจได"สามี "นิ้ง โศภิดา" เดือด เตือนชาวเน็ตหยุดล้ำเส้น

TNews
วิดีโอ

คดีนักเทนนิสถูกพ่อสังหาร ภาพสะท้อนสังคมชายเป็นใหญ่

Thai PBS

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ.2568

สำนักข่าวไทย Online

ตร.สันกำแพงเร่งจับตัวหนุ่มหัวร้อนถีบเด็กออทิสติก7ขวบเจ็บหนักเหตุฉุนเสียงหมาเห่า หลังแม่ร้องพร้อมคลิปหลักฐาน

Manager Online

LIVE FM91 คู่หูจราจร : ฝนกระหน่ำ รับเลิกงาน เดินทางกับคู่หูจราจร : 14 กรกฎาคม 2568

สวพ.FM91

Digital Bridge Camp เสริมทักษะ AI ให้นักเรียนเป็น “ผู้ใช้” ปัญญาประดิษฐ์อย่างมีคุณภาพ

TNN ช่อง16

ข่าวและบทความยอดนิยม

เปิดตัว UNO Social Club แห่งแรก ให้เล่น UNO ที่คาสิโนในลาสเวกัส

The MATTER

อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังบน TikTok ถูกปล่อยข่าวปลอมว่าตายแล้ว สะท้อนความกังวลของข่าวเท็จบนโซเชียล

The MATTER

Waking up with: ชาลส์ ดาร์วิน

The MATTER
ดูเพิ่ม
Loading...