“รฟท.” จ้าง 70 ล้าน เตรียมงานประมูล “ทางคู่ เฟส 2” 5 เส้นทาง 1 พัน กม. กว่า 2 แสนล้าน
"ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์" รายงานว่า ขณะนี้โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะ (เฟส) ที่ 2 ที่เหลืออีก 6 เส้นทาง จากทั้งหมด 7 เส้นทาง ยังคงอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมมายัง รฟท. อาทิ เรื่องความคุ้มค่าในการลงทุนฯ, การจัดลำดับการก่อสร้างแต่ละโครงการ และการรายได้เพิ่มจากการพัฒนาโครงการรถไฟทางคู่ดังกล่าว โดย รฟท. ได้ส่งข้อมูลทั้งหมดกลับไปยัง สศช. เพื่อพิจารณาแล้ว หากผ่านความเห็นชอบ กระทรวงคมนาคมจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติทั้ง 6 เส้นทางต่อไป โดยโครงการนี้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลังแล้ว
อย่างไรก็ตามในระหว่างรอการเสนอ ครม. พิจารณา ทาง รฟท. ได้เตรียมความพร้อมเตรียมเปิดประกวดราคาโครงการฯ แล้ว โดยได้ประกาศแผนการจัดซื้อจัดจ้างที่ปรึกษางานจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา และจัดการประกวดราคาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เฟสที่ 2 จำนวน 5 เส้นทาง วงเงินรวม 70 ล้านบาท ผ่านทางเว็บไซต์ รฟท. แล้ว ประกอบด้วย 1.ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 15 ล้านบาท, 2.ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม. วงเงิน 15 ล้านบาท, 3.ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม. วงเงิน 15 ล้านบาท, 4.ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 218 กม. วงเงิน 15 ล้านบาท และ 5.ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 10 ล้านบาท ส่วนช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189 กม. ยังไม่ได้เตรียมการ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) รอให้ผ่านความเห็นชอบก่อน
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟสที่ 2 มีทั้งหมด 7 เส้นทาง โดยช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 28,679 ล้านบาท ได้ผ่านความเห็นชอบจาก ครม. แล้ว และปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดย รฟท. ได้ออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงานแก่กิจการร่วมค้า ช.ทวี-เอเอส ก่อสร้าง ประกอบด้วย บริษัท ช.ทวีก่อสร้าง จำกัด, บริษัท เอ.เอส.แอสโซซิเอท เอนยิเนียริ่ง (1964) จำกัด, บริษัท ทิพากร จำกัด และ บริษัท เค เอส ร่วมค้า แล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2568 ถือเป็นการเริ่มก่อสร้างรถไฟทางคู่ เฟส 2 เส้นแรก จากทั้งหมด 7 เส้นทาง ทั้งนี้การก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย จะใช้เวลาก่อสร้าง 36 เดือน หรือ 3 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดบริการได้ในปี 2571
ส่วนอีก 6 เส้นทาง ระยะทาง 1,249 กม. วงเงินรวมประมาณ 2.9 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมเสนอ ครม. พิจารณา หากผ่านความเห็นชอบจาก ครม. ทาง รฟท. ก็พร้อมดำเนินการเปิดประกวดราคาหาผู้รับจ้างแต่ละโครงการได้เลย ซึ่งจะใช้เวลาในขั้นตอนการประมูลประมาณ 6 เดือน โดยมีแผนจะเริ่มก่อสร้างให้ได้ภายในปี 2569 ทั้งนี้เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการ จะช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบรางทั้งการขนส่งสินค้า และโดยสาร
ลดต้นทุนการขนส่งระบบโลจิสติกส์ ลดระยะเวลาในการเดินทางได้ 1-1.50 ชั่วโมง ไม่ต้องรอสับหลีก ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง และลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางเสมอระดับรถไฟ-รถยนต์ อำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าได้ทุกภูมิภาค ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศต่อไป.