โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คอนเทนต์ ‘ล่าคนเขมร’ ช่วยสนองความเกลียดชัง แต่ทำชีวิตแรงงานไทยในกัมพูชามีความเสี่ยง

The Momentum

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE MOMENTUM

เป็นเวลากว่า 2 เดือนเต็ม นับตั้งแต่เหตุปะทะกันที่ช่องบกเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ความขัดแย้งตรงแนวชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชายังคงดุเดือด กระทบผู้คนธรรมดาที่ต้องสูญเสียทรัพย์สิน กระทั่งชีวิตไปหลายราย แม้พวกเขาจะไม่ได้ข้องเกี่ยวกับความบาดหมางครั้งนี้เลยก็ตาม

ในห้วงที่การปะทะได้ดำเนินไป ไม่เพียงแต่กองทัพและรัฐบาลของ 2 ประเทศที่บาดหมางเท่านั้น แต่ในหมู่ประชาชนก็สะท้อนความโกรธแค้นต่อฝ่ายตรงข้ามผ่านโซเชียลมีเดีย ยุยงให้ออกตามล่าประชาชนที่เคยนับกันเป็น ‘เพื่อนบ้าน’ เพื่อสำเร็จความแค้นหรือความสะใจผ่านการใช้กำลัง เช่น กรณีชาวไทยทำร้ายแรงงานชาวกัมพูชาจนต้องหนีกลับประเทศ

คำถามสำคัญคือ แล้วคนไทยที่ยังต้องทำงานในกัมพูชาในห้วงเวลาแห่งความขัดแย้งนี้ ได้รับผลกระทบดังเช่นที่คนไทยบางกลุ่มปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นตามล่า ทำร้าย และแบนคนธรรมดาที่ไร้ความเกี่ยวข้องกับสงคราม

The Momentum พูดคุยกับแรงงานชาวไทยในกัมพูชาว่า พวกเขาเห็นหรือได้รับผลกระทบอะไรบ้าง ในช่วงความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา

“คนกัมพูชาเขายังคงพูดคุยกับเราปกติ ยังคงขายของให้เรา ไม่ใช่ว่าเจอคนไทยแล้วต้องทำร้ายร่างกาย” อิงแรงงานไทยที่เข้าไปทำงานคาสิโนในปอยเปต ประเทศกัมพูชา เล่าถึงบรรยากาศช่วงแรกที่ไทย-กัมพูชาเปิดฉากปะทะกันที่ช่องบก

อิงเข้าไปทำงานในเมืองปอยเปตตั้งแต่ยังไม่เกิดการปะทะ ลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน เธอจึงสามารถกล่าวได้ว่า คนกัมพูชาเปลี่ยนแปลงไปไหมหลังจากความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้น ซึ่งเธอกล่าวว่า “คนกัมพูชาไม่ได้ดูเปลี่ยนไปเลย”

“เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราทำตัวปกติ เขาก็ทำตัวปกติ พนักงานในร้านค้าบางคนร้องเพลงไทยในช่วงที่ปะทะกันด้วยซ้ำ ตอนไทยกับกัมพูชาเปิดศึกกันช่วงแรกๆ เจ้านายยังพาพนักงานคนไทยไปร้องเพลงในร้านคาราโอเกะอยู่เลย”

ไม่ต่างจากชาวไทย อิงเล่าว่า ชาวกัมพูชาก็ติดตามข่าวสารการรบอย่างใกล้ชิดผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ในจังหวะที่คนไทยเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ด้วย พวกเขาก็เลือกที่จะไม่พูดถึงข่าวความขัดแย้ง เพราะไม่อยากทำให้คนไทยอึดอัดเมื่อต้องอยู่ด้วยกัน

“วันนั้นจำได้ว่าจะไปใช้บริการตุ๊กๆ ท้องถิ่น เราเห็นว่าในโทรศัพท์คนขับเขาเปิดข่าวสู้รบกับประเทศของเราอยู่ แต่พอเขาเห็นเราที่เป็นคนไทยเดินเข้าไปใกล้ เขาก็ปิดโทรศัพท์ไม่ให้เราเห็น ไม่อยากให้เรารู้สึกไม่ดี

“เราก็ทำเหมือนกัน เวลาอยู่ใกล้ๆ ชาวกัมพูชา แล้วเผลอพูดอะไรแรงๆ เกี่ยวกับการสู้รบกับเพื่อน เราก็จะสะกิดกันตลอด แล้วบอกว่าอย่าไปพูดอะไรที่กระทบกับจิตใจเขา เราจะเห็นต่าง ก็เห็นต่างในพื้นที่ของเรา เวลาไปเจอคนกัมพูชาเราก็ไม่เคยไปปฏิบัติไม่ดีกับเขาเลย มันเหมือนเป็นสงครามโซเชียลฯ มากกว่าที่เสพกันแล้วก็อินตาม แต่ชีวิตจริงมันปกตินะ” อิงกล่าว

แต่หลังจากการยกระดับการสู้รบเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเกิดความสูญเสียจำนวนมาก การปลุกกระแสรักชาติด้วยการตามล่าคนกัมพูชาในประเทศไทยก็เริ่มรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ต่างโพสต์ข้อความยุยง บางคนออกไปทำร้ายคนกัมพูชาที่เพียงเข้ามาเป็นแรงงานในไทย

คอนเทนต์ความรุนแรงเหล่านี้ก่อตัวเป็นความแค้นในหมู่คนกัมพูชาบางส่วน และเกิดพฤติกรรม ‘เอาคืน’ คนไทยที่เข้าไปเป็นแรงงานในกัมพูชา เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองที่ มิ้ว(นามสมมติ) พนักงานชาวไทย ซึ่งทำงานเป็นผู้ดูแลการเช่าอาคารและห้องพักให้กับแรงงานหลายสัญชาติในกัมพูชา

“มีกลุ่มวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์วนดูในเมืองว่า คนไทยอยู่ตรงไหน แล้วพยายามจะลงไปตี” นอกจากนี้ยังมีกรณีของบุคคลที่ถูกเข้าใจว่า เป็นคนไทยถูกทำร้ายร่างกาย แต่แท้จริงแล้วเป็นคนจากชนชาติอื่นๆ” มิ้วกล่าว เธอชี้ว่า การตามล่าและกระทำรุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นเพราะ ‘คอนเทนต์จากฝั่งไทย’

“มันเกิดขึ้นหลังจากที่มีคนไทยทำคอนเทนต์ไปล่าตัว ล้อมคนกัมพูชาในประเทศไทย” มิ้วแสดงน้ำเสียงกังวล เนื่องจากความรุนแรงที่ถูกส่งข้ามชายแดนเข้ามาในพื้นที่ที่เธอทำงาน ทำให้ชาวไทยที่ยังอยู่ในกัมพูชามีความเสี่ยงที่จะถูกกระทำเหมือนๆ กัน

“เราเป็นห่วงคนไทยที่อายุเขายังน้อย ทำงานกะกลางคืน แล้วต้องเดินกลับบ้านช่วงระหว่างตี 3-4”

ทั้งนี้สถานการณ์ได้กลับสู่สภาวะปกติ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาจับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว โดยใช้เวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง ในขณะที่ความคิดเห็นของคนกัมพูชารอบตัวของมิ้ว ต่างแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจนต่อการกระทำของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว

“มีคนกัมพูชามาพูดว่าพวกชอบทำท่าแว้นๆ เป็นพวกไม่ได้เรื่อง คุยกับหลายๆ คนเขามองพวกนี้เป็นพวกสร้างปัญหาหมดเลย” เธอกล่าว “คอนเทนต์ตามล่าคนอะไรพวกนี้มันส่งผลกระทบกับเราแน่นอน เพราะถ้าเกิดคนในอีกประเทศทำเมื่อไร คนฝั่งนี้เขาก็จะทำเหมือนกัน”

บรรยากาศของการตามล่าคนไทยในกัมพูชาในเมืองของมิ้วหายไป ซึ่งสอดคล้องกับบรรยากาศในประเทศไทยที่กระแสการตามล่าคนกัมพูชาถูกกระแสตีกลับ วิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม เพราะคนธรรมดาไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสงคราม กระนั้นเมื่อมีเหตุการณ์เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ใช่แค่มิ้วที่ต้องระวังตัว แม้แต่อิงที่บอกว่า “การตามล่าคนไทยมันเกิดขึ้นไกลเรามาก” ก็ยังต้องใช้ชีวิตในกัมพูชาด้วยความระมัดระวังและไม่ประมาท

เพราะเมื่อไรที่คอนเทนต์ตามล่าคนกัมพูชาในประเทศไทยกลับขึ้นมาอีกครั้ง การตามล่าคนไทยในกัมพูชาก็อาจจะกลับมาอีกครั้งเช่นกัน

“ก็ระวังตัวมากขึ้น หลังจากเหตุการณ์ที่มีข่าวว่า คนไทยในกัมพูชาจะโดนทำร้ายก็ไม่ขับมอเตอร์ไซค์ไปทำงานเองแล้ว นั่งรถรับ-ส่งไปทำงานกันเยอะๆ แทน” อิงระบุ “สงครามไม่ได้มีอะไรที่ดีๆ เกิดขึ้นเลย มันเหมือนกับการต่อยกับคนข้างบ้าน”

สถานการณ์ที่ไทยและกัมพูชาในเวลานี้ยังคงเกาะกันไปบนเส้นทางของความตึงเครียดที่ไม่รู้จบ หลายคนอาจจะตีความว่า สงครามได้ทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ สายตาที่มองกันเป็นประเทศ ‘เพื่อนบ้าน’ สั่นคลอนอย่างรุนแรง แต่เรื่องราวของมิ้วและอิงสะท้อนว่า ความเห็นต่างไม่จำเป็นต้องทำให้ใครบาดเจ็บหรือล้มตาย พวกเขายังอยู่ร่วมกันได้ในกระแสของความเห็นต่าง แต่หากวันใดที่คู่ขัดแย้งในระดับประชาชนธรรมดาด้วยกัน เริ่มปฏิบัติต่ออีกฝ่ายแบบไร้มนุษยธรรม นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ความบาดหมางจะลุกลามเกินควบคุม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Momentum

‘เขากระโดง’ เป็นที่ดินของรัฐ สนามฟุตบอล-สนามแข่งรถ ผิดกฎหมาย กรมที่ดินเพิกถอนได้ตั้งแต่พรุ่งนี้

14 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กัมพูชาเรียกร้องมาเลเซียแทรกแซง ให้ไทยปล่อยตัวทหารกัมพูชา รัฐบาลย้ำ จะส่งตัวกลับหลังขั้นตอนตามกฎหมาย

20 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

แสนสิริจับมือ สจล. พัฒนาพรีคาสท์กราฟีนลดความร้อน-ลดคาร์บอน

ฐานเศรษฐกิจ
วิดีโอ

คนเก่า รู้จริง! อยู่ในยุคเขมรแดง คนไทยมีน้ำใจ มาขอก็ให้ข้าว น้ำ ที่อยู่อาศัย

BRIGHTTV.CO.TH

กองทัพบก ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจากโดรน

สำนักข่าวไทย Online

ประกาศ กองทัพภาคที่ 2 ขอความร่วมมือประชาชน งดเดินทางกลับเข้าบ้านหรือพื้นที่เสี่ยงในช่วงนี้ โดยจะมีประกาศแจ้งให้ทราบ

TOJO NEWS

ราชกิจจาฯ ประกาศกำหนดแบบใบสั่งจราจร 2568 เริ่มใช้ 4 ส.ค. นี้

ประชาชาติธุรกิจ

กองทัพบกยกระดับมาตรการรับมือโดรน หลังพบบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร

PPTV HD 36

ควันหลงสัมพันธ์ฉาว “สีกากอล์ฟ-จจ.พิจิตร”กระทบงานแข่งเรือยาวยัน “ข้าวเม่าพอกเงินล้าน วัดหาดมูลกระบือ”

Manager Online

มมส. ยกเว้นค่าเทอมทุกระดับการศึกษา แก่ครอบครัวทหารผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

กัมพูชาเรียกร้องมาเลเซียแทรกแซง ให้ไทยปล่อยตัวทหารกัมพูชา รัฐบาลย้ำ จะส่งตัวกลับหลังขั้นตอนตามกฎหมาย

The Momentum

การทูตช้า สื่อสารน้อย เหมือนรัฐราชการ สหรัฐฯ สะท้อนภาพผ่านสายตานานาชาติ ไทยกำลังเป็นรองในความขัดแย้งกับกัมพูชา?

The Momentum

ไทยต้องสื่อสารกับโลกให้ได้ ว่าเรากำลังต่อสู้กับ ชายแก่ โรคจิต ขี้งอน ‘ทอม’ แนะวิธีสู้สงครามจิตวิทยากับ ‘กัมพูชา’

The Momentum
ดูเพิ่ม
Loading...