โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เปิดแผน ‘บลูบิค’ หลังเข้า SET เจาะตลาด Virtual Bank-เพิ่มโฟกัสต่างประเทศ

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา
พชร อารยะการกุล

บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) ที่ปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ที่โลดแล่นในโลกธุรกิจมากว่า 12 ปี กำลังก้าวสู่ยุคใหม่ หลังย้ายจากตลาดหลักทรัพย์ mai เข้าซื้อขายใน SET เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา พร้อมกับตัดสินใจรีแบรนด์ขนานใหญ่ โดยปรับโลโก้ และแท็กไลน์ เป็น “Ambition to Excellence” เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการที่มีประสิทธิภาพ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

เปิดเหตุผลย้ายเข้า SET

“พชร อารยะการกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บลูบิค กรุ๊ป กล่าวว่า การจดทะเบียนซื้อขายใน SET เป็นเป้าหมายของบริษัทอยู่แล้ว แต่ที่เข้า IPO ในตลาด mai เมื่อปี 2564 ก่อน เพราะติดข้อจำกัดเรื่องเกณฑ์ทุนจดทะเบียน ถ้าจะเข้า SET ตอนนั้นต้องมีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แต่ mai ใช้แค่ 50 ล้านบาท เมื่อดูแผนการเงินโดยรวมในเวลานั้น ตลาด mai จึงเหมาะสมกว่า

แต่พอมีการปรับเกณฑ์การเข้า SET ใหม่ ให้ใช้ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ร่วมกับผลการดำเนินงานด้านอื่น ๆ ประกอบเพิ่มเติมได้ จึงตัดสินใจเพิ่มทุนจดทะเบียนให้ถึงตามกำหนด

“ในแง่รายได้ และกำไร ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง บริษัททำได้ดีมาตลอดอยู่แล้ว แต่การย้ายมาอยู่ใน SET ช่วยปลดล็อกข้อจำกัด และเพิ่มโอกาสในการระดมทุน เพราะนักลงทุนสถาบัน หรือกองทุนต่างชาติบางส่วนไม่ลงทุนในบริษัทที่อยู่ใน mai แต่ลงทุนในบริษัทที่อยู่ใน SET อย่างเดียว การเข้ามาอยู่ในตลาดที่ใหญ่ขึ้น จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้อีกทาง”

หากดูผลประกอบการปี 2567 จะพบว่าบริษัทมีรายได้ 1,507 ล้านบาท เติบโตจากปี 2566 ถึง 15% และทำสถิติกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 314 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อน 4% ขณะที่มูลค่างานที่อยู่ระหว่างรอส่งมอบ (Backlog) ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2567 อยู่ที่ 983 ล้านบาท

ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ณ วันที่ 24 ก.ค. 2568 อยู่ที่ 4,140 ล้านบาท

ปลุกพลัง “คน” เร่งโต

“พชร” กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ บริษัทจะให้ความสำคัญกับ “ความลีน” และการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่อง “คน” เพราะเป็นต้นทุนหลักที่สัมพันธ์กับปริมาณกำไร ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานราว 1,000 คน 80% เป็นทีม Tech อีก 20% เป็น Nontech ดูเรื่องกลยุทธ์ต่าง ๆ

“แผนการรับคนเพิ่มในปีนี้ยังมี แต่จะเป็นตำแหน่งที่ก่อให้เกิดรายได้จริง ๆ ไม่ใช่กลุ่ม Shared Function ที่ทำหน้าที่จัดการงานในออฟฟิศทั่วไป”

อีกทั้งปีนี้ตั้งใจที่จะเร่งพัฒนาขีดความสามารถของคนในองค์กรให้ทำงานได้มากขึ้น โดยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ได้พยายามปรับเรื่อง “Utilization” หรือการใช้ทรัพยากรของบริษัทที่เข้าไปซื้อกิจการให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลลัพธ์ของการใช้ทรัพยากรจากบริษัทเหล่านั้นค่อย ๆ ขยับจาก 50% เป็น 60% และเชื่อว่าไปถึง 70% ได้

“การเข้ามาอยู่บน SET เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ ที่จะนำไปสู่การเติบโตในอนาคต ทำให้ต้องเตรียมคนให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งการเติบโตช่วงที่ผ่านมาได้แรงหนุนจากคนเก่ง ๆ เยอะมาก โดยเฉพาะผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ทยอยเข้ามาร่วมทีมเรื่อย ๆ รวมถึงในปีนี้ เรายังทำ Training Program เปิดโอกาสให้ทาเลนต์รุ่นใหม่ได้ลองมาทำงานด้วยกัน”

ลุยงาน Virtual Bank

สำหรับแผนธุรกิจต่อจากนี้ บลูบิคจะยังใช้จุดแข็งในการให้บริการแบบ End-to-End เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น และนำ AI เข้ามาใช้ในองค์กร ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และสงครามการค้า พร้อมทั้งวางแผนอัพเซล-ครอสเซลในกลุ่มลูกค้าเดิม และกลุ่มลูกค้าของบริษัทที่บลูบิคไปร่วมทุน เช่น Sauce Skills ที่ทำเรื่องการพัฒนาหลักสูตรทักษะด้านผู้นำ เพื่อรับมือกับการที่หลายบริษัทตัดสินใจชะลอการลงทุนในบางโครงการ เพราะยังไม่อยากรับความเสี่ยงว่าจะคืนทุนได้เมื่อไร

“ในฝั่งมาตรการภาษีนำเข้า เป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้หลายบริษัทนำระบบอัตโนมัติเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต เพราะต้องการลดต้นทุนให้ได้มากที่สุด เพื่อชดเชยอัตราภาษีที่มีโอกาสจ่ายมากขึ้น ด้วยความที่บลูบิคเป็นบริษัทไทย โซลูชั่นหลายอย่างพัฒนาเอง ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้บริษัทที่ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์เลือกเรา”

ขณะเดียวกัน บลูบิคยังมองหาโอกาสใหม่ ๆ จากกลุ่ม “Local Plays” เช่น หน่วยงานภาครัฐที่ต้องปรับเปลี่ยนการทำงานตามนโยบาย Cloud-First ซึ่งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้โอกาสเข้าไปประมูลงาน และทำงานให้กับภาครัฐหลายโครงการ เช่น ระบบลงทะเบียน และการชำระเงินในโครงการ “ดิจิทัลวอลเลต” ที่ยังอยู่ระหว่างการรอส่งมอบ

รวมไปถึงในกลุ่มของ “ธนาคารไร้สาขา” (Virtual Bank) ได้ใช้ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการเงิน และธนาคาร (Banking) เข้าไปพูดคุยกับผู้ที่ได้รับใบอนุญาต เพื่อนำเสนอโปรเจ็กต์ในการพัฒนาระบบให้พร้อมใช้งานในปี 2569

“เรามีโอกาสได้งานจากผู้ที่ได้ไลเซนส์ทั้ง 3 ราย แต่เป็นคนละส่วนงาน เพื่อไม่ให้เกิด Conflict of Interest และพอมี Virtual Bank เข้ามา กลุ่มแบงก์ดั้งเดิมต้องปรับระบบเพื่อให้แข่งขันได้ เราก็น่าจะได้งานจากกลุ่มนี้เพิ่มเติมด้วย”

สัดส่วนรายได้จากงานของกลุ่ม Banking คิดเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมด

บลูบิคในต่างประเทศ

“พชร” พูดถึงธุรกิจในต่างประเทศว่า ปัจจุบันมีออฟฟิศ 4 แห่ง ได้แก่ เวียดนาม อินเดีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการขยายธุรกิจผ่านความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในประเทศนั้น ๆ โดยโปรเจ็กต์หรือลักษณะงานที่เข้าไปให้บริการในต่างประเทศยังเกาะเกี่ยวไปกับความชำนาญเดิม และการให้บริการในประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร ประกันภัย ค้าปลีก และพลังงาน เช่น ในเวียดนาม แม้จะมีศักยภาพในการเติบโตมาก ๆ แต่เรื่องสถาบันการเงินก็ยังมีหลายอย่างที่ต้องเติมเต็ม

“สัดส่วนรายได้ในต่างประเทศยังอยู่ราว ๆ 10% มีเป้าหมายที่จะขยายให้โตกว่านี้ แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ต้องโฟกัสกับตลาดในไทยที่เป็นหัวหาดสำคัญก่อน เชื่อว่าในระยะยาว 5 ปีต่อจากนี้ สัดส่วนรายได้ตลาดต่างประเทศจะโตกว่าไทย เพราะขนาดตลาดใหญ่กว่ามาก ๆ”

วางแผนส่งบริษัทลูก IPO

สำหรับแผนงานในระยะยาวมีความตั้งใจที่จะนำบริษัทลูกเข้า IPO ในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อทำให้บริษัทลูกแข็งแรงไม่ต่างจากแม่ ซึ่งบริษัทที่มีศักยภาพมาก ๆ คือ Bluebik Vulcan ทำเรื่องระบบดิจิทัลต่าง ๆ ปัจจุบันมีพนักงาน 300 คน สามารถโตด้วยตนเองได้ และ Innoviz ที่เป็นผู้นำในตลาดระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP)

“สำหรับดีล M&A หรือการควบรวมกิจการกับบริษัทที่มี Synergy ตรงกัน ยังอยู่ในแผนสร้างการเติบโตของเรา ที่ผ่านมานอกจากมีดีลใหญ่ ๆ 2 ดีล ยังมีดีลเล็ก ๆ ประปราย และใน 1-2 ปีจากนี้น่าจะมีดีลใหญ่ ๆ เกิดขึ้นอีก เพราะคุยกันมาสักพักใหญ่แล้ว”

ซีอีโอ “บลูบิค กรุ๊ป” ทิ้งท้ายด้วยว่า บริษัทมีเป้าหมายที่การสร้างรายได้ และกำไรให้ทำสถิติ “นิวไฮ” ทุกปี หรือเติบโตเฉลี่ย 20-30% ต่อปี เพื่อนำไปสู่การเติบโตแบบ “เท่าตัว” และขยับขึ้นไปอยู่ใน “SET100” หรือบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุด 100 อันดับแรกภายใน 3 ปี

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เปิดแผน ‘บลูบิค’ หลังเข้า SET เจาะตลาด Virtual Bank-เพิ่มโฟกัสต่างประเทศ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ประชาชาติธุรกิจ

เวียตเจ็ท จูงใจเดินทางภาครัฐ-องค์กร แจก Fun Coin สองเท่าทุกเส้นทางในประเทศ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สังคมหน้า 14 : มติชน “ดินเนอร์ทอล์ก” 50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 ส.ค. ย้อนหลัง 10 ปี

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘กรีนโลน’ แสนสิริ+กสิกรไทย ตอกย้ำพันธมิตรทางการเงินยาวนานกว่า 40 ปี

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

'อรรถกร'ลงพื้นที่ ตลาด อ.ต.ก.ติดตามเหตุ บุกยิงกลางตลาด ทำ รปภ.เสียชีวิต 5 ราย

กรุงเทพธุรกิจ

ธนาคารคลอดหลายมาตรการสำคัญ ช่วยลูกหนี้เหตุปะทะชายแดน-น้ำท่วมเหนือ

Businesstoday

กองทัพเตือน! ภัยไซเบอร์จากต่างชาติจ้องเจาะระบบไทย เสี่ยงกระทบมั่นคงระดับชาติ

ฐานเศรษฐกิจ

Sound of the Sea: หลากสัมผัสในหนึ่งจาน

The Bangkok Insight

CAAT มั่นใจเที่ยวบิน “ไทย-กัมพูชา” ปลอดภัย-ราบรื่น แนะเช็คข้อมูลก่อนใช้บริการ

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ธุรกิจ ‘รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย’ ส่งกำลังใจแนวรบด่านหน้า ผู้ประสบภัย

กรุงเทพธุรกิจ

‘ความเชื่อมั่น’ รากฐานสำคัญ กำหนดทิศทางธุรกิจยุค ‘Agentic AI’

กรุงเทพธุรกิจ

OpenAI เปิดตัว GPT-5 มีอะไรใหม่ เริ่มทดลองใช้ฟรี เดือนสิงหาคมนี้

SpringNews

ข่าวและบทความยอดนิยม

เปิดแผน ‘บลูบิค’ หลังเข้า SET เจาะตลาด Virtual Bank-เพิ่มโฟกัสต่างประเทศ

ประชาชาติธุรกิจ

ใต้ร่มพระบารมีกษัตริย์แห่งธรรม ปูทางสู่การตื่นรู้ ‘ธรรมนาวา วัง’

ประชาชาติธุรกิจ

สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 1 ส.ค. ย้อนหลัง 10 ปี

ประชาชาติธุรกิจ
ดูเพิ่ม
Loading...