“กองทัพ-กต.” บรรยาย “ทูต-ทหาร” นานาชาติ เปิดความเสียหาย โต้ข่าวลวงกัมพูชาปล่อย ปมเหตุปะทะแนวชายแดน
“กองทัพ-กต.” บรรยาย “ทูต-ทหาร” นานาชาติ เปิดความเสียหาย โต้ข่าวลวงกัมพูชาปล่อย ปมเหตุปะทะแนวชายแดน
วันที่ 1 ส.ค. 68 ที่ จ. อุบลราชธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก (ศปส.ทบ.) นำคณะ ผู้ช่วยทูตทหาร 23 ประเทศ และสื่อมวลชน สังเกตการณ์พื้นที่พลเรือน โรงพยาบาล ที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ ได้รับความเสียหายการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชา
โดยทันทีที่มาถึงอ. วารินชำราบ ได้มีการฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายและกรณีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝั่งกัมพูชา ซึ่งมีทั้งกรมข่าวทหารบก โฆษกกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศและ ผู้แทนแม่ทัพภาค เป็นผู้แถลงข่าว
ในเนื้อหาการแถลงบางช่วงบางตอนมีการนำเสนอภาพกลุ่มทหารกัมพูชาถ่ายด้านหน้าประสาทตาควายโดยมีการเปิดให้เห็นรายละเอียดว่ามีการเตรียมกับดักระเบิดที่กองอยู่ด้านหลัง รวมถึงถึงมีการเปิดภาพผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด เปิดภาพจุดปะทะบริเวณชายแดนไทยกัมพูชาที่กระจายอยู่ตามแนวชายแดนให้ทางฝั่งนานาชาติได้ดู รวมทั้งออกมายืนยันว่ารูปภาพที่ฝั่งกัมพูชาปล่อยว่าไทยใช้เครื่องบินปล่อยสารพิษนั้นเป็นข่าวปลอมเนื่องจาก มีการนำภาพมาเปรียบเทียบว่าเป็นการใช้ สารเคมีดับไฟป่าที่สหรัฐอเมริกาไม่ใช่ ในการสู้รบ ระหว่างไทยและกัมพูชาแต่อย่างใด
ด้านว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่า ราชการจังหวัดอุบลราชธานี เผยว่าอุบลราชธานีมีชายแดนที่มีประชากรกว่า 50,000 คน ซึ่งได้มีการอพยพประชาชนเข้ามาอยู่ที่ศูนย์พักพิงกว่า 22,000 คนตั้งแต่วันที่ 24 จนถึงปัจจุบัน ตูอพยพมาที่ 68 ศูนย์พักพิงซึ่งห่างจากเขตแดนกว่า 70 กิโลเมตร โดยกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนทำให้ประชาชนทุกข์ยากลำบากอย่างยิ่ง ถามทำให้ต้องปิดสถานพยาบาลกว่า 23 แห่งซึ่งเป็นโรงพยาบาลสามแห่งและโรงพยาบาลส่วนตำบลอีก 20 แห่ง ทั้งยังเกิดผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวอุบลราชธานีเสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บสาหัส 3รายและอาคารบ้านเรือน 31 หลังเสียหายรวมทั้งทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรอีกมากมายซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดต่อประชาชนชาวอุบลราชธานี
ซึ่งสิ่งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลชี้แจงเป็นผลกระทบจากจังหวัดอุบลราชธานีจังหวัดเดียวแต่ที่จริงแล้วได้รับผลกระทบทั้งหมดตั้งแต่จังหวัดบุรีรัมย์สุรินทร์ศรีสะเกษและอุบลราชธานี ซึ่งผลกระทบทั้งการเสียชีวิตการเจ็บป่วยบาดเจ็บและบ้านเรือนประชาชนเสียหาย
ด้านพล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก(ทบ.) เผยว่า หลักๆที่มาดูวันนี้มาดูว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากประชาชนทั้งในเรื่องของสิ่งปลูกสร้างปั๊มน้ำมันและโรงพยาบาล โรงเรียน บ้านเรือนของพลเรือนซึ่งเกิดจากการใช้อาวุธของฝ่ายกัมพูชาที่เกินขอบเขตมาสู่พื้นที่ของพลเรือนและห่างจากพื้นที่การรบบริเวณแนวชายแดนที่ไกล ซึ่งมีสามจุดใหญ่ใหญ่ก็คือสิ่งปลูกสร้างอาคารพาณิชย์ปั๊มน้ำมันโรงพยาบาล โรงเรียน และกลุ่มคนที่เคยอยู่ในพื้นที่ ที่ต้องอพยพออกมาถึงแม้จะอยู่ห่างจากชายแดนมาก ซึ่งเกิดจากการใช้อาวุธที่ผิดกติกาหลักสากลและผิดเรื่องของมนุษยธรรมด้วยเพราะพื้นที่การรบมันมีเพียงส่วนเดียว