สหรัฐฯปิดดีลภาษีเกาหลีใต้ 15% แลกเปิดตลาดรถ ลงทุนอีก 3.5 แสนล้านเหรียญ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศว่า ได้บรรลุข้อตกลงทางการค้าครั้งสำคัญกับเกาหลีใต้ โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากเกาหลีใต้ไว้ที่ 15% ซึ่งต่ำกว่าระดับที่เคยขู่ไว้ที่ 25% และถือว่าเทียบเท่ากับดีลที่สหรัฐฯ ทำไว้กับญี่ปุ่นก่อนหน้านี้
ทรัมป์โพสต์ข้อความบน Truth Social ว่า "เราตกลงกำหนดภาษี 15% กับเกาหลีใต้ โดยที่อเมริกาจะไม่ถูกเก็บภาษีตอบโต้" พร้อมระบุว่า ประธานาธิบดี อี แจ-มยองของเกาหลีใต้ จะเดินทางเยือนวอชิงตันภายในสองสัปดาห์เพื่อพบหารือแบบทวิภาคีด้วย
เปิดดีลการค้าสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ - ทุ่มลงทุน-ซื้อพลังงานในสหรัฐฯ
ข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้มาโดยง่าย เพราะรัฐบาลเกาหลีใต้ชุดนี้เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียง2 เดือน และต้องเผชิญกับแรงกดดันทั้งในและนอกประเทศ โดยเฉพาะเมื่อประเทศอื่นในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ต่างเร่งปิดดีลกับสหรัฐฯ เพื่อเลี่ยงภาษีสูง สถานการณ์เช่นนี้ก็คงไม่ต่างจากหลายประเทศที่ยังปิดดีลการค้ากับสหรัฐฯไม่สำเร็จ และความอ่อนไหวของผู้ประกอบการในประเทศก็เป็นประเด็นที่ทำให้การเจรจาของแต่ลประเทศยากง่ายต่างกันไป
ทั้งนี้เพื่อแลกกับอัตราภาษีที่ลดลง เกาหลีใต้ได้ให้คำมั่น ว่าจะลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์ โดยในจำนวนนี้มีการจัดสรรงบประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือ ขณะที่อีก 200,000 ล้านดอลลาร์จะรวมถึงการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์, พลังงานนิวเคลียร์, แบตเตอรี่ และชีวเภสัชภัณฑ์ (biologics) คิม ยงบอม (Kim Yong-beom) หัวหน้าฝ่ายนโยบายจากทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวในการแถลงข่าว
นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังตกลงจะจัดซื้อ พลังงาน เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ มูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลา 3 ปีครึ่งอีกด้วย
รถยนต์ผ่านฉลุย เปิดตลาดรถอเมริกาเข้าเกาหลีใต้
ไฮไลต์ของข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯขเกาหลีใต้ครั้งนี้คือ การเปิดตลาดรถยนต์ของเกาหลีใต้ ซึ่งทรัมป์ กล่าวว่า เกาหลีใต้ยินยอม
“ยอมรับสินค้าของอเมริกา รวมถึงรถยนต์และรถบรรทุก” ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะหมายถึง การยอมรับรถยนต์ที่ผลิตตามมาตรฐานความปลอดภัยของสหรัฐฯ โดยไม่กำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติม
ประเด็นนี้สำคัญมากเพราะรถยนต์คิดเป็นสินค้ามากกว่า 25% ของการส่งออกของเกาหลีใต้ไปยังสหรัฐฯ และบริษัทใหญ่อย่าง Hyundai Motor Group ซึ่งยังคงพึ่งพาการผลิตภายในประเทศ ต้องเผชิญความเสี่ยงจากภาษีมากกว่าคู่แข่งหากดีลล่ม
แม้ว่า รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์จะได้รับอัตราภาษีที่ลดลงเหลือ 15% แต่ เจมิสัน เกรียร์ (Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวกับสำนักข่าว Bloomberg News ว่า เหล็กและอะลูมิเนียมจะไม่ได้รับการลดหย่อนภาษีในลักษณะเดียวกัน ภายใต้ข้อตกลงการค้ากับเกาหลีใต้
เนื้อวัว-ข้าว: สินค้าอ่อนไหวทางการเมือง
แม้ทรัมป์จะระบุว่า "สินค้าเกษตร" เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง แต่ฝั่งเกาหลีใต้ โดยเฉพาะ คิม ยงบอม เลขาธิการอาวุโสประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยืนยันว่า ยังไม่มีการเปิดตลาดเพิ่มเติมสำหรับเนื้อวัวและข้าว
เขาระบุว่า “ท่านประธานาธิบดีให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการป้องกันไม่ให้มีการเปิดตลาดสินค้าเกษตรและปศุสัตว์เพิ่มเติม โดยคำนึงถึงความอ่อนไหวทางการเมืองและบริบททางประวัติศาสตร์” เนื่องจากทั้งข้าวและเนื้อวัว เคยเป็นชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในปี 2008 และยังคงเป็นประเด็นเปราะบางที่อาจทำลายความนิยมของรัฐบาลในช่วงเริ่มต้นวาระได้
สำหรับมูลค่าการส่งออกของเกาหลีใต้ในปี 2024 คิดเป็นมากกว่า 40% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และประเทศยังเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ในระดับสูงอันดับต้น ๆ ของโลก
ตลาดหุ้นตอบรับบวก เงินวอนแข็ง ค่า Kospi แกว่งเบา
หลังการประกาศข้อตกลง ตลาดหุ้นเกาหลีใต้มีปฏิกิริยาเชิงบวก โดย ดัชนี Kospi ปรับขึ้นในช่วงเปิดตลาดก่อนจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย ปิดลบประมาณ 0.2% ขณะที่ ค่าเงินวอนแข็งค่าขึ้นถึง 0.4% มาอยู่ที่ระดับ 1,388.69 วอนต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนความคาดหวังของตลาดต่อความชัดเจนในกรอบการค้าระยะสั้น
นักวิเคราะห์มองว่า การปิดดีลการค้ากับสหรัฐฯสำเร็จ เป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น แต่ต้องจับตาความเสี่ยงระยะยาว
ซังยอง ซอ (Sang-Young Seo) นักวิเคราะห์จาก Mirae Asset Securities ระบุว่า “สำหรับตลาดหุ้น ข้อตกลงนี้สร้างมุมมองเชิงบวกในระยะสั้น แต่หากต้องการให้แนวโน้มขาขึ้นเดินหน้าต่อ เราจำเป็นต้องติดตามผลประกอบการของบริษัทและตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด”
ขณะที่บทวิเคราะห์จาก Bloomberg Economics เตือนว่า แม้ข้อตกลงจะช่วยบรรเทาความไม่แน่นอนในทันทีให้กับผู้ส่งออกและตลาดการเงินเกาหลีใต้ แต่ก็ทำให้เกิดคำถามใหม่เกี่ยวกับความเสี่ยงด้านยุทธศาสตร์ในระยะยาว