ค่าก่อสร้างบ้านขึ้นต่อ กระเบื้องพุ่งเกือบ 14% ตามด้วยไฟฟ้า ประปา
ราคาค่าก่อสร้างบ้านยังเดินหน้าเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/2568 แม้เศรษฐกิจจะยังเปราะบาง โดยได้แรงหนุนจากความต้องการวัสดุที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากโครงการก่อสร้างภาครัฐ และการซ่อมแซมบ้านเรือนจากเหตุแผ่นดินไหวช่วงปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังพบว่า “แรงงาน-ค่าไฟฟ้า-วัสดุตกแต่ง” คือหมวดที่ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ “เหล็ก” ยังคงถูกกดดันจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีน
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน หรือ HCCI ไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 141.0 จุด เพิ่มขึ้น 0.6% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และเพิ่มขึ้น 1.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) สะท้อนต้นทุนที่ยัง “ขยับขึ้นต่อเนื่อง” ท่ามกลางปัจจัยต้นทุนหลายด้านที่ปรับตัวขึ้น
“ราคาวัสดุก่อสร้างยังทรงตัวในแนวขาขึ้น โดยเฉพาะวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการตกแต่งและระบบไฟฟ้า ขณะเดียวกันต้นทุนแรงงานยังขยับขึ้นจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ”
กระเบื้องพุ่งเกือบ 14% – ไฟฟ้า-ประปาตามมา
หมวดวัสดุก่อสร้างซึ่งมีน้ำหนักสูงสุดในต้นทุนการปลูกสร้างบ้าน ยังคงเป็นตัวผลักดันสำคัญของดัชนีในไตรมาสนี้ โดยวัสดุที่มีการปรับราคาขึ้นสูงสุดคือ “กระเบื้อง” ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 13.9% YoY และ 6.4% QoQ รองลงมาคือ อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา ที่เพิ่มขึ้น 5.4% YoY
ขณะเดียวกัน หมวดวัสดุก่อสร้างอื่น ๆ เช่น ไม้ และวัสดุก่อสร้างเบ็ดเตล็ด ต่างก็มีการปรับเพิ่มขึ้นในอัตราไม่มากนัก สอดคล้องกับอุปสงค์ที่กระจายตัวมากขึ้นจากภาคเอกชนและครัวเรือน
“เหล็ก-คอนกรีต” ปรับราคาลดลง
ในด้านตรงข้าม หมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กกลับปรับราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยลดลงถึง 9.1% YoY สาเหตุหลักมาจาก “อุปทานส่วนเกิน” จากประเทศจีน ซึ่งยังไม่สามารถฟื้นตัวจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ได้ ส่งผลให้เหล็กจากจีนไหลทะลักสู่ตลาดโลก กดราคาตลาดให้ลดลงตาม
เช่นเดียวกับ ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ที่ลดลงเล็กน้อย 0.3% YoY โดยสะท้อนอัตราการใช้ที่ชะลอตัวลงในภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มโครงการแนวสูงที่มีการเปิดตัวน้อยลง
ค่าแรงขยับตามนโยบายรัฐ
ในหมวดแรงงาน ค่าจ้างได้มีการปรับขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยปรับขึ้นจาก 363 บาท/วัน เป็น 372 บาท/วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ส่งผลให้ต้นทุนแรงงานโดยรวมปรับเพิ่มขึ้น 1.7% YoY ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันต่อราคาบ้าน และโครงการก่อสร้างในกลุ่มราคาประหยัด
“ต้นทุนแรงงานและวัสดุบางกลุ่มยังคงเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องบริหารให้ดี โดยเฉพาะในตลาดที่อ่อนไหวต่อราคา เช่น บ้านเดี่ยวระดับกลาง-ล่าง”
เทรนด์ต้นทุนยัง “ขึ้นแบบชะลอ”
ดัชนีต้นทุนค่าก่อสร้าง (HCCI) ที่ยังปรับเพิ่มขึ้นทั้งรายไตรมาสและรายปี แม้ในอัตราที่ชะลอลง บ่งชี้ว่าโครงสร้างต้นทุนก่อสร้างในระยะกลางยังมีแนวโน้มขยับขึ้นต่อเนื่องในบางหมวด โดยเฉพาะวัสดุตกแต่ง และระบบไฟฟ้า–สื่อสาร ซึ่งมีความต้องการเพิ่มจากทั้งภาครัฐและเอกชน
หากเศรษฐกิจกลับมาเติบโตในช่วงครึ่งหลังปีนี้ หรือมีมาตรการกระตุ้นการก่อสร้างเพิ่มเติม อาจทำให้ต้นทุนก่อสร้างปรับขึ้นอีกระลอก ซึ่งผู้ประกอบการควรจับตาอย่างใกล้ชิด