‘เอเชีย’ โล่งใจ! รู้ผลอัตรา ‘ภาษีทรัมป์’ มองเชิงบวก เห็นโอกาสลดได้อีก

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงเส้นตาย ที่สหรัฐจะเริ่มเก็บ "ภาษีตอบโต้" ต่อบรรดาคู่ค้า ในวันนี้ (1 ส.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐได้ประกาศอัตรา "ภาษีทรัมป์" ที่เขาจะเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากหลายสิบประเทศ

นิกเคอิ เอเชีย รายงานว่า อัตราภาษีใหม่นี้รวมถึง 25% สำหรับอินเดีย 20% สำหรับไต้หวัน และ 19% สำหรับไทย มาเลเซีย และกัมพูชา

ประเทศที่ขาดดุลการค้าสินค้ากับสหรัฐ เช่น สิงคโปร์ จะถูกเรียกเก็บในอัตราพื้นฐานที่ 10% แต่ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กที่สุดในเอเชียบางประเทศ ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ได้แก่ ลาว และเมียนมาร์ ซึ่งต่างเผชิญกับอัตราภาษี 40%

นายซาฟรูล อาซิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้ามาเลเซีย แสดงความยินดีกับผลการเจรจาครั้งนี้ โดยกล่าวว่า สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ที่แน่นแฟ้น และยั่งยืนระหว่าง 2 ประเทศ

"ทั้งยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความน่าเชื่อถือของมาเลเซีย ในฐานะพันธมิตรทางการค้า และการลงทุนที่เชื่อถือได้ เราขอขอบคุณคู่ค้าในสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ และกระทรวงพาณิชย์ สำหรับความร่วมมือ และการสนับสนุนอย่างสร้างสรรค์ตลอดกระบวนการเจรจา"

ขณะที่ นายไบรอัน แมคฟีเตอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานสภาธุรกิจสหรั-อาเซียน กล่าวว่า เนื่องจากอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ สำหรับสินค้าส่งออกจากหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังสหรัฐ อยู่ในระดับ "เท่าเดิม หรือใกล้เคียงกัน" จึงไม่นาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ในการย้ายฐานการผลิตแต่อย่างใด

เขาบอกด้วยว่า ชาติสมาชิกอาเซียนได้เจรจาอย่างสร้างสรรค์ กับรัฐบาลสหรัฐ และอาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับภาษีศุลกากรเพิ่มเติม หรือการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ทางด้าน ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในไทย กล่าวว่า ภาษีนำเข้าจากสหรัฐที่ 19% ถือเป็น "ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดี" สำหรับประเทศไทย

"อัตราภาษีนำเข้าระดับนี้ ช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันควบคู่ไปกับการบริหารจัดการต้นทุนการปรับตัว เนื่องจากอัตราภาษีนำเข้าของไทย อยู่ในระดับใกล้เคียงกับคู่แข่งในภูมิภาค"

อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า อุตสาหกรรมส่งออกสำคัญของไทยหลายอุตสาหกรรม เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องจักร และอาหารแปรรูป จะเผชิญกับแรงกดดันอย่างมาก

"อัตราภาษีนำเข้าระดับนี้ ช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันควบคู่ไปกับการบริหารจัดการต้นทุนการปรับตัว แต่ในขณะเดียวกัน กุญแจสำคัญคือ ธุรกิจไทยจะสามารถปรับตัวได้เร็วเพียงใด ผ่านการกระจายตลาด การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และการปรับตำแหน่งห่วงโซ่คุณค่า"

ขณะที่ นายซุน จันทอล รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ผู้นำการเจรจากับทำเนียบขาว กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะยินดีกับการลดอัตราภาษีนำเข้า แต่รัฐบาลจะยังคงร่วมมือกับสหรัฐ เพื่อลดอัตราภาษีนำเข้าลงอีก

ขณะที่ นายเคน ลู โฆษกสมาคมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และสินค้าสำหรับเดินทางในกัมพูชา กล่าวว่า ภาษีศุลกากรดังกล่าว น่าจะส่งผลกระทบต่อการส่งออก แม้ว่ากัมพูชาจะอยู่ในขอบเขตเดียวกับคู่แข่งผู้ที่เป็นส่งออกเครื่องนุ่งห่มบางราย เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และบังกลาเทศ ก็ตาม

"แน่นอนว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกในระยะสั้น เพราะผมคิดว่า จะส่งผลให้กำไรลดลง หรือราคาสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้นโดยรวม"

นายสตีเฟน โอลสัน นักวิจัยอาวุโสจากสถาบัน ISEAS-Yuosf Ishak และอดีตผู้เจรจาการค้าของสหรัฐ แสดงความเห็นว่า โดยพื้นฐานแล้ว ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เขียนกฎเกณฑ์การค้าโลกขึ้นใหม่โดยพื้นฐาน"

"แทนที่สหรัฐจะเป็นผู้นำระบบ ที่สร้างขึ้นเพื่อลดอุปสรรคทางการค้า และดำเนินความสัมพันธ์ทางการค้าตามกฎเกณฑ์ที่คาดการณ์ได้ และตกลงร่วมกัน กลับกลายเป็นว่า ประเทศ และดินแดนต่าง ๆ ที่ต้องการค้าขายกับสหรัฐ จะต้องเผชิญกับภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นอย่างมาก"

นอกจากนี้ อัตราภาษีดังกล่าว ยังอาจเพิ่มขึ้นอีกตามอำเภอใจของประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้ที่นายโอลสัน ระบุว่า เป็นคนที่แสดงให้เห็นถึงความไม่เคารพต่อกฎเกณฑ์การค้า และข้อตกลงทางการค้า แม้กระทั่งข้อตกลงที่ตนเองได้ลงนามไปแล้วก็ตาม

เขาเตือนว่าการประกาศล่าสุดนี้ ไม่น่าจะเป็นจุดจบของเรื่องนี้

"ทรัมป์มองว่า นี่เป็นรายการเรียลลิตี้โชว์ที่กำลังดำเนินอยู่ ข้อตกลง หรือการขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่มเติมเกือบจะแน่นอนว่าจะตามมา ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่หวังจะพัฒนาโดยเน้นการส่งออก จะได้รับผลกระทบอย่างหนักเป็นพิเศษ"

อ่านข่าวเพิ่มเติม

• ปิดดีล 'ภาษีทรัมป์' สำเร็จ!! สหรัฐประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทยที่ 19%
• 2 ชาติเอเชียเฮ! ปิดดีล 'ภาษีทรัมป์' ฟิลิปปินส์จ่าย 19% ญี่ปุ่นที่ 15%
• สำเร็จอีกราย! 'อินโดนีเซีย' บรรลุข้อตกลง 'ภาษีทรัมป์' ได้อัตรา 19% แลกจัดเก็บ 0%

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X:https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg