เนื้อสัตว์ 3 ส่วนที่ควรกินให้น้อยที่สุด อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ แต่คนไทยชอบกินมาก!

ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหน เนื้อสัตว์ 3 ส่วนนี้ควรกินให้น้อยที่สุด อย่าเสียดาย เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งครอบครัว

มีคำกล่าวว่า “โรคภัยเกิดจากปาก” หมายถึง ปัญหาสุขภาพมากมายมักเริ่มต้นจากพฤติกรรมการกินของเราเอง

เนื้อสัตว์เป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเนื้อทุกส่วนจะปลอดภัยสำหรับการบริโภค แม้คุณจะมีงบจำกัด ก็ควรหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ 3 ส่วนนี้ เพราะยิ่งกินบ่อย ค่าใช้จ่ายเรื่องยาก็อาจสูงกว่าค่าอาหารหลายเท่า

1. หัวไก่ หัวเป็ด สะสมโลหะหนักสูง

ฟังดูอาจเหลือเชื่อ แต่ในอดีต ผู้เฒ่าผู้แก่เคยห้ามลูกหลานกินหัวไก่อย่างเด็ดขาด ถึงขั้นต้องสับแยกหัวไก่ไปฝังไว้ต่างหาก

คำเตือนที่ว่า “กินหัวไก่ 10 ปี พิษร้ายเท่ากับกินสารหนู” ไม่ใช่คำกล่าวลอย ๆ เพราะในบริเวณศีรษะของสัตว์ปีกมักเป็นจุดสะสมโลหะหนักและสารตกค้างต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายเมื่อสะสมในระยะยาว

ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า เนื่องจากไก่ เป็ด หรือนกต่าง ๆ มักใช้ปากจิกหาอาหารและคุ้ยเขี่ยดินอยู่ตลอดเวลา ทำให้บริเวณศีรษะของสัตว์เหล่านี้มีแนวโน้มสะสมโลหะหนักจากสิ่งแวดล้อม เช่น ตะกั่ว และแคดเมียม ซึ่งเป็นสารพิษที่ร่างกายขจัดออกได้ยาก และจะยิ่งสะสมมากขึ้นตามอายุของสัตว์ หากบริโภคเป็นประจำ อาจเสี่ยงต่อการทำลายระบบประสาท ไต และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง

2. คอไก่ คอเป็ด แหล่งสะสมของต่อมน้ำเหลืองและฮอร์โมน

แม้หลายคนจะหลงใหลในรสชาติของคอไก่ คอเป็ด อบเครื่องเทศหรือย่างกรอบ แต่ภายใต้กลิ่นหอมน่ากินนั้น ซ่อนความเสี่ยงต่อสุขภาพไว้ไม่น้อย

เหตุผลก็คือ บริเวณคอของไก่และเป็ดมีต่อมน้ำเหลืองจำนวนมาก ซึ่งเป็นแหล่งรวมของเซลล์ภูมิคุ้มกันที่มีหน้าที่ช่วยกำจัดแบคทีเรียและไวรัสในร่างกาย อย่างไรก็ตาม เมื่อเซลล์เหล่านี้ทำหน้าที่เสร็จแล้ว สารพิษและเชื้อโรคบางส่วนจะยังคงค้างอยู่ในต่อมน้ำเหลืองโดยไม่ถูกขับออก

ดังนั้นเมื่อเรารับประทานส่วนคอเหล่านี้ โดยเฉพาะหากกินเป็นประจำ ก็อาจเผลอรับสารพิษและฮอร์โมนที่สะสมอยู่เข้าไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งหากสะสมในระยะยาว อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับ ไต และระบบภูมิคุ้มกันได้

3. ตูดไก่ มันอร่อยแต่อันตรายแฝง

ส่วนตูดไก่เป็นชิ้นที่หลายคนโปรดปราน เพราะเนื้อนุ่มและมีมันเยอะ แต่รู้หรือไม่ว่า ตรงจุดนี้คือแหล่งสะสมของ "มาโครฟาจ" หรือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งที่มีหน้าที่กลืนกินแบคทีเรีย ไวรัส และสารพิษต่าง ๆ

แม้จะดูไม่น่าเป็นอันตราย แต่การที่เซลล์เหล่านี้สะสมของเสียเอาไว้มาก ทำให้เนื้อบริเวณนี้มีแนวโน้มจะมีสารตกค้าง หากกินบ่อยอาจเป็นการรับสารพิษเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว

สิ่งที่น่ากังวลคือ สารพิษที่มาโครฟาจกำจัดไว้ ไม่ได้สลายหรือถูกขจัดออกแม้จะผ่านการปรุงสุกอย่างดีแค่ไหนก็ตาม หากรับประทานบ่อย ๆ สารพิษเหล่านี้อาจสะสมในร่างกาย ทำลายระบบย่อยอาหาร และเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะอาหารและตับ

ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งสูง การกินแบบไม่ให้เหลืออาจดูเป็นเรื่องสมเหตุสมผล แต่บางส่วนของเนื้อสัตว์แฝงไว้ด้วยภัยสุขภาพที่คาดไม่ถึง อย่าปล่อยให้เศษเนื้อไม่กี่ชิ้นกลายเป็นต้นเหตุของโรคร้ายโดยไม่รู้ตัว