เปิดผลสำรวจครัวเรือนไทย เครียดเรื่องการเงิน ค่าครองชีพสูง แต่รายได้เท่าเดิม
ผลสำรวจล่าสุดของมาร์เก็ตบัซซ (Marketbuzzz) เผยว่า 42% ของประชาชนคนไทยมีความกังวลเกี่ยวกับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น โดยคนไทยกำลังเผชิญกับความตึงเครียดทางการเงินที่เพิ่มขึ้นจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น
จากการศึกษาของ Marketbuzzz ที่สำรวจคนไทย 865 คนทั่วประเทศ พบว่า หลายครอบครัวกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก จากค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้น ในขณะที่ค่าแรงยังคงทรงตัว ความไม่สอดคล้องกันระหว่างตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการกับความเป็นจริงในชีวิตประจำวันนั้นเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะในกลุ่มต่างๆ เช่น
- แรงกดดันตามช่วงชีวิต : คู่แต่งงานที่มีบุตร จะมีความกังวลสูงสุด อยู่ที่ 46% เมื่อเทียบกับกลุ่มคนโสด ซึ่งความกังวลอยู่ที่ 39%
- ความตึงเครียดตามช่วงอายุ : คนไทยสูงวัย อายุ 55 ปีขึ้นไป จะมีความกดดันทางการเงินมากที่สุดถึง 59% ซึ่งมักเกิดจากการที่ต้องดูแลสมาชิกในครอบครัวขยาย
- ความแตกต่างในแต่ละภูมิภาค : พื้นที่ในเมือง เช่น ผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มักมีความกังวลที่ค่าครองชีพสูงถึง 54% ซึ่งสูงกว่าผู้ที่อาศัยในต่างจังหวัดที่กังวลอยู่ที่ 37% เนื่องด้วยปัจจัยในการดำเนินชีวิต และค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) ปี 2567 ที่อ้างถึงในงานวิจัย ชี้ให้เห็นถึงภาระทางการเงินที่ครัวเรือนไทยต้องเผชิญ โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครัวเรือนต่อเดือนอยู่ที่ 18,207 บาท (ณ เดือนธันวาคม 2567) ในจำนวนนี้ กว่า 8,000 บาท (หรือ 42%) ถูกใช้ไปกับอาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่อาหารสูงกว่า 10,000 บาท (หรือ 58%) และที่น่ากังวลคือ หนี้ครัวเรือนเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 606,378 บาท
จากค่าแรงขั้นต่ำรายวันที่ปรับขึ้นอยู่ระหว่าง 337-400 บาท ครัวเรือนไทยจำนวนมากต้องเผชิญกับช่องว่างที่มีมากขึ้นระหว่างรายได้และค่าครองชีพขั้นพื้นฐานที่สูงขึ้น
ด้านนายแกรนท์ บาร์โทลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาร์เก็ตบัซซ (Marketbuzzz) เน้นย้ำว่า “ผลสำรวจนี้ แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่แท้จริง ไม่ใช่แค่เรื่องอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำเท่านั้น แต่เป็นเรื่องราคาที่สูงขึ้นของสินค้าและบริการที่จำเป็น เช่น ที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภค การรักษาพยาบาล และการขนส่ง”
“เราจำเป็นต้องมีมาตรวัดความเป็นอยู่ที่ดีทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมมากขึ้น แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมอาจคงที่หรือติดลบ แต่ความจริงคือ ค่าครองชีพที่จำเป็นยังคงสร้างแรงกดดันต่อรายจ่ายของครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อกลุ่มประชากรที่แตกต่างกันอย่างไม่สมดุลอีกด้วย”
ปัจจุบันคนไทยหลายคนกำลังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย ซึ่งบางครอบครัวอาจต้องตัดสิ่งที่จำเป็นออกไป ในขณะที่บางครอบครัวอาจยังคงก่อหนี้เพิ่ม เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น หากค่าครองชีพยังคงเพิ่มสูงขึ้นในขณะที่รายได้ไม่เปลี่ยนแปลงหรือลดลง ภาระต่อบุคคลและโดยเฉพาะอย่างยิ่งครอบครัวมีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลง ความเสี่ยงด้านหนี้สินเพิ่มขึ้น และความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่กว้างขึ้นในระยะยาว