เกษตรกรสหรัฐฯเผชิญวิกฤติถั่วเหลือง-ข้าวโพด จากฝนหนัก–ภาษีทรัมป์

ปริมาณฝนที่ตกเกินพอดีได้กระตุ้นให้เกิดโรคและแมลงศัตรูพืชในไร่ถั่วเหลืองของรัฐโอไฮโอ ในขณะที่สงครามการค้ากับจีนได้สร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดส่งออกหลักของเกษตรกรสหรัฐฯ

ปีที่แล้ว พื้นที่แถบ Eastern Corn Belt สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เพียง 20% เนื่องจากภัยแล้งที่แทบไม่มีฝนตกในช่วงมิถุนายนถึงตุลาคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรภูมิอากาศที่มีทั้งภัยแล้ง คลื่นความร้อน และไฟป่า ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชเสียหายรวมทั่วประเทศถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์

ปีนี้กลับตรงกันข้าม ฝนตกหนักเกินไปทำให้เกิดโรคและแมลงศัตรูพืชอย่างรุนแรงในพื้นที่ถั่วเหลืองและข้าวโพดหลายพันเอเคอร์ที่ปลูกตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ

พายุลูกใหม่ สภาพอากาศผันผวน ต้นทุนพุ่ง ตลาดโลกหดตัว

การเก็บเกี่ยวข้าวโพดและถั่วเหลืองปี 2025 กำลังใกล้เข้ามา ซึ่งเป็นสองพืชหลักของสหรัฐฯ เกษตรกรเผชิญโจทย์หนักจากความผันผวนของอากาศ ต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูง และอุปสงค์ต่างประเทศที่ลดลง ส่วนหนึ่งเกิดจากนโยบายรัฐบาลในรูปแบบภาษี

ในปี 2023-24 จีนซื้อถั่วเหลือง 24.9 ล้านเมตริกตัน คิดเป็นมูลค่า 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่ใช้เลี้ยงฝูงสุกร 427 ล้านตัว ขณะที่ตลาดใหญ่อันดับสองคือเม็กซิโก มีเพียงไม่ถึง 6 ล้านเมตริกตัน

นับตั้งแต่ปี 2017 ที่ทรัมป์เริ่มเก็บภาษี เกษตรกรผู้ปลูกพืชก็เผชิญปัญหาตลาดจีนซึ่งเคยเป็นผู้ซื้อถั่วเหลืองรายใหญ่ และยังเป็นตลาดสำคัญของข้าวโพดที่หดตัวลงอย่างมาก

เมื่อเดือนที่แล้ว มีรายงานว่าส่งออกถั่วเหลือง ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุดของสหรัฐฯ ตกต่ำสุดในรอบ 20 ปี

แม้เผชิญความยากลำบาก หลายคนในชนบทสหรัฐฯ ยังคงสนับสนุนทรัมป์ โดยไม่ผูกโยงท่าทีทางการเมืองกับปัญหาภาษีเพียงประเด็นเดียว

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์แทบไม่เคยเอ่ยถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร แม้ฐานเสียงชนบทเป็นหัวใจสำคัญ เมื่อ 10 สิงหาคม เขาโพสต์ใน Truth Social เรียกร้องให้จีนซื้อถั่วเหลืองสหรัฐฯ เพิ่ม 4 เท่า โดยอ้างว่าจีนกังวลการขาดแคลนถั่วเหลือง ทั้งที่จีนตั้งเป้าเพิ่มผลผลิตถั่วเหลืองในประเทศ 38% ภายในปี 2034

นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่าโพสต์ดังกล่าวแทบไม่ได้รับความสนใจในโซเชียลมีเดียจีน ซึ่งอาจหมายถึงผู้นำการเมืองจีนไม่เคยเห็นข้อความนั้นเลย

ความเสี่ยงฤดูกาลใหม่ จีนยังไม่สั่งซื้อ ขายแข่งบราซิลไม่ออก

การเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองในมิดเวสต์จะเริ่มอีกเพียงหนึ่งเดือน และข้าวโพดตามหลัง ความกังวลว่าจีนอาจไม่ซื้อแม้แต่เรือสินค้าลำเดียวในฤดูกาลนี้กำลังเพิ่มขึ้น

เพื่อเอาใจฐานเสียงเกษตรกร รัฐบาลทรัมป์เพิ่งประกาศเงินอุดหนุน 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในรอบ 10 ปี ผ่านร่างกฎหมายภาษี แต่ถูกวิจารณ์ว่า เกษตรกรไม่ควรได้รับการอุดหนุนด้วยภาษีประชาชน อีกทั้งยังมีข้อร้องเรียนว่าเงินส่วนใหญ่ถูกส่งตรงไปยังผู้ผลิตรายใหญ่ในบางภูมิภาค มากกว่าจะถึงมือเกษตรกรครอบครัว

ซ้ำเติมด้วยราคาพืชเกษตรที่ลดลงต่อเนื่องสามปี จากฝูงโคที่ลดลงและการผลิตเอทานอลที่ถดถอย

เศรษฐกิจเกษตรตึงตัวกว่าครั้งสงครามการค้าปี 2018

เศรษฐกิจเกษตรอยู่ในสภาพตึงเครียดกว่าปี 2018 ช่วงสงครามการค้ากับจีนครั้งก่อน ราคาพืชตกต่ำ ขณะที่ต้นทุนปัจจัยการผลิต เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย สารเคมี ที่ดิน และเครื่องจักร ยังคงพุ่งสูง

ในขณะเดียวกัน สภาพอากาศที่ไม่แน่นอนทำให้การวางแผนยากขึ้น ตลอดฤดูร้อนที่ผ่านมา เกิดพายุฝนเกือบทุกบ่ายในรัฐอินเดียนา โอไฮโอ และพื้นที่อื่น ๆ ใน Eastern Corn Belt จนเกิดน้ำท่วมขังที่ทำลายการเจริญเติบโตของพืช โรคพืชอย่าง Northern Corn Leaf Blight, Gray Leaf Spot และ Tar Spot ก็แพร่ระบาดตามมา

แม้จะมีการใช้ยารักษาโรคพืชแล้วก็ตาม แต่ความร้อนและความชื้นสูงผิดปกติในฤดูร้อนปีนี้ก็ยังทำให้สารป้องกันเชื้อราไม่สามารถควบคุมได้เต็มที่ อีกทั้งยังต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อโพรเพนอบข้าวโพดให้แห้งก่อนจำหน่าย เนื่องจากความชื้นสูงเกินไป