พปชร. ห่วงการเจรจา GBC ไร้ผล กัมพูชาไม่เก็บกู้วัตถุระเบิด
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 8 สิงหาคม 2568 เวลา 21.20 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกทม. 8 ส.ค.-พปชร. ห่วงการเจรจา GBC ไร้ผล กัมพูชาไม่มีความรับผิดชอบเก็บกู้วัตถุระเบิดที่วางไว้ จี้รัฐบาล เร่งดำเนินคดี “ฮุนเซน” ตามกฎหมายไทยและอาชญากรสงคราม
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเจรจา GBC ที่ผ่านมา ว่า มีความเป็นห่วงในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นความจริงใจของประเทศกัมพูชาในการแก้ไขปัญหา ว่าจะมีการหยุดยิงจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมากัมพูชารับปากอะไรไปแล้ว บิดพริ้วโดยตลอด และที่สำคัญ ข้อตกลง 2 ข้อ กัมพูชาไม่ยอมเอาลงในบันทึกการประชุม GBC ในครั้งนี้ คือ ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด ที่ประเทศกัมพูชาได้นำไปวางไว้ในเขตพื้นที่ต่างๆและ การให้ความร่วมมือในการปราบปรามแก็งค์คอลเซนเตอร์ ซึ่งทั้งสองข้อนี้ มีผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก
พล.ต.ท.ปิยะ ระบุอยากให้พี่น้องประชาชน และสื่อมวลชน จับตามองรัฐบาลในการเจรจาต่อไป และให้กำลังใจทหารขอให้ยืนยันการใช้มาตราส่วน 1: 50,000 ซึ่งเป็นสากล และใช้ในทุกประเทศในปัจจุบันนี้ มากกว่า 1:200,000 ตามแนวทางที่ประเทศกัมพูชาต้องการ หากมีการยินยอมให้ใช้ มาตราส่วน 1:200,000 ประเทศไทยอาจจะเสียพื้นที่ แผ่นดินไทยเหมือนกับที่เคยเสียดินแดนใกล้กับพระวิหาร เมื่อปีพ.ศ. 2556
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ในส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การสูญเสียชีวิต และการได้รับบาดเจ็บ ของทหารและประชาชน ในการสู้รบในครั้งนี้ ความเสียหายของบ้านเรือนที่เกิดขึ้น ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการอพยพพี่น้องประชาชนในช่วงที่ผ่านมา ทางตระกูลฮุน และตระกูลชิน จะมีส่วนในการรับผิดชอบอย่างไร
”การที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยกล่าวแก้ตัวว่า การเจรจาส่วนตัวระหว่างลุงกับหลาน ตัวเองไม่ได้อะไร และประเทศชาติก็ไม่เสียหายอะไร ตอนนี้ นายกฯ คงตระหนักดีแล้วว่า ประเทศชาติเสียหายอะไรบ้าง ทหาร และประชาชนเสียชีวิตไปจำนวนเท่าไหร่ เกิดความเสียหายในภาพรวมของประเทศอย่างไร ซึ่งกรณีดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญสามารถนำผลจากการเจรจาของ น.ส.แพทองธารกับนายฮุนเซน ที่เป็นต้นเหตุของปัญหา ไปเป็นพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีได้อย่างชัดเจน“พล.ต.ท.ปิยะ กล่าว
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ทางรัฐบาลต้องเป็นแกนกลาง ในการดำเนินคดีกับนายฮุนเซนฯ ในคดีอาญาของไทย และอาชญากรสงคราม พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้น จากนายฮุนเซนฯ และ ประเทศกัมพูชาโดยเร็ว นอกจากนี้ การเตรียมความพร้อมในการรองรับปัญหาแรงงานชั้นต่ำ เพื่อทดแทนแรงงานจากประเทศกัมพูชา โดยใช้แรงงานทดแทนจากเมียนม่า บังคลาเทศ หรือประเทศอื่นๆ มาทดแทน เพื่อไม่ให้ภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจมีผลกระทบ ซึ่งในขณะนี้ทางกระทรวงแรงงาน ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรเป็นรูปธรรมเลย.-315.-สำนักข่าวไทย