รอเลย! คืนวันที่ 7 ก.ย. 68 รอชม “พระจันทร์สีเลือด”
ตั้งตารอชมปรากฏการณ์ธรรมชาติในเดือนกันยายนนี้
นับวันรอได้เลย! วันที่ 7-8 ก.ย. 68 ที่จะถึงนี้ จะเกิด “จันทรุปราคาเต็มดวง” ในเดือนกันยายนได้เพียงครั้งเดียวในรอบปีนี้ ซึ่งมองเห็นได้ในประเทศไทยรวมทั้งทวีปยุโรป แอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สังเกตได้ตั้งแต่เวลา 23:27 น. เมื่อดวงจันทร์เริ่มสัมผัสเงามืด จันทรุปราคาเต็มดวงเกิดขึ้นระหว่างเวลา 00:31 – 01:53 น. โดยบังลึกที่สุดเวลา 01:12 น. ช่วงที่ถูกเงามืดของโลกบดบังทั้งดวง ดวงจันทร์ไม่ได้มืดสนิท แต่มีสีแดงเนื่องจากแสงอาทิตย์เกิดการกระเจิงและหักเหผ่านบรรยากาศโลก ดวงจันทร์จะกลับมาสว่างเต็มดวงเมื่อดวงจันทร์ทั้งดวงออกจากเงามืดในเวลา 02:57 น. ขณะเกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์อยู่ในกลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ มองเห็นดาวเสาร์อยู่ห่างดวงจันทร์ประมาณ 15°
ดูได้คืนวันที่ 7 ถึงรุ่งเช้าวันที่ 8 ก.ย. 68
-23.27 น. เริ่มเห็นดวงจันทร์แหว่ง
– 00.30 น. จันทรุปราคาเต็มดวง
– 01.12 น. ดวงจันทร์โดนเงาบังลึกสุด #พระจันทร์สีเลือด
– 01.53 น. สิ้นสุดจันทรุปราคาเต็มดวง
– 02.56 น. ดวงจันทร์ค่อย ๆ กลับมาเต็มดวง
– 03.55 น. สิ้นสุดปรากฏการณ์
ใครที่รอติดตามก็สามารถเซฟข้อมูลได้ตามนี้เลยนะคะ งั้นเดี๋ยว ‘อีจัน’ จะขอนำข้อมูลเกี่ยวกับดวงดาวที่ว่ามาเป็นข้อมูลให้ความรู้กับทุกคนพร้อมกับการคาดการณ์ว่าจะเกิดปรากฏการณ์อะไรกันต่อจากนี้ค่ะ นับตั้งแต่ พ.ศ. 2568 มีสุริยุปราคาและจันทรุปราคาเกิดขึ้นอย่างละ 2 ครั้ง ประเทศไทยสังเกตจันทรุปราคาเต็มดวงในเดือนกันยายนได้เพียงครั้งเดียวในรอบปีนี้
1. จันทรุปราคาเต็มดวง 14 มีนาคม 2568 อุปราคาครั้งแรกของปีเกิดขึ้นในวันที่ 14 มีนาคม 2568 เป็นจันทรุปราคาเต็มดวง แต่ไม่สามารถสังเกตได้ในประเทศไทย บริเวณที่เห็นจันทรุปราคาครั้งนี้ ได้แก่ ส่วนใหญ่ของทวีปอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และมหาสมุทรแปซิฟิก ขณะเกิดจันทรุปราคาดวงจันทร์อยู่บริเวณแนวคั่นระหว่างกลุ่มดาวสิงโตกับหญิงสาว เกิดขึ้น 3 วัน ก่อนที่ดวงจันทร์จะผ่านจุดไกลโลกที่สุด (17 มีนาคม 23:37 น.) ทำให้วันนี้ดวงจันทร์มีเส้นผ่านศูนย์กลางปรากฏประมาณ 29.8 ลิปดา ซึ่งเล็กกว่าค่าเฉลี่ย (31.1 ลิปดา) ที่กึ่งกลางของปรากฏการณ์ซึ่งเป็นเวลาที่ดวงจันทร์เข้าไปในเงาของโลกลึกที่สุด ดวงจันทร์จะอยู่เหนือศีรษะของผู้สังเกตในมหาสมุทรแปซิฟิก ขอบด้านทิศใต้ของดวงจันทร์อยู่ใกล้ศูนย์กลางเงาโลก จึงคาดว่าพื้นที่ด้านทิศเหนือจะสว่างกว่าด้านทิศใต้
2. สุริยุปราคาบางส่วน 29 มีนาคม 2568 วันที่ 29 มีนาคม 2568 เกิดสุริยุปราคาบางส่วนซึ่งมีเพียงเงามัวของดวงจันทร์เท่านั้นที่สัมผัสผิวโลก สังเกตเห็นได้ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกาเหนือ ยุโรป ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา และตอนเหนือของรัสเซีย เงามัวเริ่มสัมผัสผิวโลกเวลา 15:51 น. จุดที่เห็นดวงอาทิตย์แหว่งลึกที่สุดอยู่ทางเหนือของรัฐควิเบกในแคนาดา ซึ่งเกิดขึ้นเวลา 17:47 น. ด้วยความลึก 93.8% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของดวงอาทิตย์ จากนั้นสิ้นสุดสุริยุปราคาเมื่อเงามัวออกจากผิวโลกในเวลา 19:44 น.
3. จันทรุปราคาเต็มดวง 7-8 กันยายน 2568 คืนวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568 (ต่อเนื่องถึงก่อนเช้ามืดวันจันทร์ที่ 8 กันยายน) เกิดจันทรุปราคาซึ่งมองเห็นได้ในประเทศไทย รวมทั้งทวีปยุโรป แอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ สังเกตได้ตั้งแต่เวลา 23:27 น. เมื่อดวงจันทร์เริ่มสัมผัสเงามืด จันทรุปราคาเต็มดวงเกิดขึ้นระหว่างเวลา 00:31 – 01:53 น. โดยบังลึกที่สุดเวลา 01:12 น. ช่วงที่ถูกเงามืดของโลกบดบังทั้งดวง ดวงจันทร์ไม่ได้มืดสนิท แต่มีสีแดงเนื่องจากแสงอาทิตย์เกิดการกระเจิงและหักเหผ่านบรรยากาศโลก ดวงจันทร์จะกลับมาสว่างเต็มดวงเมื่อดวงจันทร์ทั้งดวงออกจากเงามืดในเวลา 02:57 น. ขณะเกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์อยู่ในกลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ มองเห็นดาวเสาร์อยู่ห่างดวงจันทร์ประมาณ 15°
จันทรุปราคาครั้งนี้เกิดขึ้น 2-3 วันก่อนที่ดวงจันทร์จะผ่านจุดใกล้โลกที่สุด (10 กันยายน เวลา 19:10 น.) ทำให้ดวงจันทร์มีเส้นผ่านศูนย์กลางปรากฏประมาณ 32.7 ลิปดา ซึ่งใหญ่กว่าค่าเฉลี่ย (31.1 ลิปดา) ที่กึ่งกลางของปรากฏการณ์ซึ่งเป็นเวลาที่ดวงจันทร์เข้าไปในเงาของโลกลึกที่สุด ดวงจันทร์จะอยู่เหนือศีรษะของผู้สังเกตในมหาสมุทรอินเดีย ขอบด้านทิศเหนือของดวงจันทร์อยู่ใกล้ศูนย์กลางเงาโลก จึงคาดว่าพื้นที่ด้านทิศใต้จะสว่างกว่าด้านทิศเหนือ
4. สุริยุปราคาบางส่วน22 กันยายน2568วันที่ 22 กันยายน 2568 เกิดสุริยุปราคาบางส่วนซึ่งเป็นอุปราคาครั้งสุดท้ายของปี มีเพียงเงามัวของดวงจันทร์เท่านั้นที่สัมผัสผิวโลก สังเกตเห็นได้ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก นิวซีแลนด์ และบางส่วนของแอนตาร์กติกา เงามัวเริ่มสัมผัสผิวโลกเวลา 00:30 น. จุดที่เห็นดวงอาทิตย์แหว่งลึกที่สุดอยู่ในมหาสมุทรซึ่งเกิดขึ้นเวลา 02:42 น. ด้วยความลึก 85.5% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของดวงอาทิตย์ จากนั้นสิ้นสุดสุริยุปราคาเมื่อเงามัวออกจากผิวโลกในเวลา 04:54 น.
ที่มา: สมาคมดาราศาสตร์ไทย https://thaiastro.nectec.or.th/skyevent/article/eclipses2025/