หนุ่มจีนโดนวิจารณ์ยับ หลังอวดว่าจับน้องหมาสักลายโดยไม่วางยาสลบ
สำนักข่าวเซาท์ไชนา มอร์นิงโพสต์รายงานวานนี้ (27 ส.ค. 2568) เกี่ยวกับเหตุการณ์ของเจ้าของสุนัขรายหนึ่งที่โดนห้ามเข้าร่วมงานแสดงสัตว์เลี้ยงชื่อดังระดับเอเชีย ทั้งยั้งสร้างกระแสความไม่พอใจต่อสาธารณชน
สุนัขดังกล่าวเป็นสุนัขไร้ขนพันธุ์เม็กซิกัน จุดเด่นของสุนัขพันธุ์นี้คือผิวหนังที่มีขนสั้นมากหรือไม่มีขนเลย จากคลิปวิดีโอที่มีผู้ถ่ายไว้และโพสต์เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นภาพของสุนัขที่ตกเป็นข่าวมีลายสักสีสันสดใสตลอดลำตัวของมัน โดยเฉพาะรอยสักมังกรที่ทอดยาวจากหลังไปยังแขนขาด้านบน นอกจากนี้สุนัขยังสวมสร้อยคอทองคำและนาฬิกาข้อมืออีกด้วย
แม้มันจะตกเป็นเป้าสายตาในงานเพ็ทแฟร์ เอเชียที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน แต่ก็ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชน หลังจากเจ้าของสุนัขอ้างว่า เขาสักลายให้มันโดยไม่ใช้ยาสลบ
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เจ้าของสุนัขได้คะยั้นคะยอให้ผู้คนถ่ายรูป และอ้างว่าการสักตัวสุนัขไม่ได้วางยาสลบเลยแม้แต่น้อย เขาถึงขั้นยกคอสุนัขขึ้นพร้อมกับพูดกับผู้ที่มามุงดูว่า “เห็นไหม? มันไม่เจ็บเลย มันไม่รู้สึกอะไรเลย”
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มาร่วมงานต่างออกมาแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่าสุนัขดูหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดตลอดเวลา “มันดูหวาดกลัวตลอดเวลาเลย” ชาวเน็ตรายหนึ่งแสดงความเห็น ส่วนอีกคนเสริมว่า “มันไม่ยอมกินขนมที่บูธอื่นยื่นให้เลย” บางคนยังอ้างว่าเห็นรอยบาดเจ็บที่ขาของสุนัขด้วย
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้จัดงานจึงสั่งห้ามเจ้าของสุนัขที่ถูกสักลายเข้าพื้นที่จัดงานทันที
ด้านนายลวี่ ช่างสักที่รับงานนี้ ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวจาก Phoenix Publishing and Media Group ว่ารอยสักบนตัวสุนัขนี้ สักไว้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ในตอนแรกเขาจะปฏิเสธที่จะทำให้ แต่เจ้าของสุนัขยืนกรานและอ้างว่าสุนัขพันธุ์นี้มีความรู้สึกเจ็บปวดน้อยกว่าพันธุ์อื่นๆ หลังจากที่โดนขอร้องหลายครั้ง เขาจึงตกลงที่จะสักให้ โดยไปสักลายที่คลินิกสัตว์แห่งหนึ่ง
“เขาบอกว่าสุนัขตัวนี้เหมือนลูกของเขา และการมีรอยสักจะทำให้มันดูเท่ขึ้น” ช่างสักกล่าว พร้อมยอมรับว่าในตอนนั้นเขาไม่ได้คิดว่านี่คือการทารุณกรรมสัตว์ แม้จะกังวลเรื่องการฟื้นตัวของสุนัขหลังจากนั้นก็ตาม
ลวี่เปิดเผยว่ามีการใช้เข็มสักแบบใช้แล้วทิ้งซึ่งเขาก็ทิ้งทันทีหลังทำเสร็จ และบอกว่าสุนัขได้รับยาชาแบบน้ำก่อนเริ่มขั้นตอน โดยตลอดกระบวนการ เจ้าของจะคอยปลอบสุนัข ในขณะที่สัตวแพทย์ดูแลเรื่องการฆ่าเชื้อและให้คำแนะนำ
“ผมขอโทษอย่างจริงใจหากเกิดเหตุร้ายใดๆ กับสุนัขและผู้ที่ได้เห็นภาพออนไลน์ มันเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจ” ลวี่กล่าวเสริม
ขณะเดียวกัน ช่างสักอีกคนหนึ่งแสดงความเห็นว่า เขาไม่เชื่อว่าสุนัขจะสามารถทนต่อการถูกเข็มทิ่มแทงซ้ำ ๆ ได้ “บริเวณที่ผิวหนังบางกว่า เช่น ข้อเท้า จะเจ็บปวดมากกว่า เพราะมีไขมันและกล้ามเนื้อน้อยกว่า แต่มีปลายประสาทมากกว่า การสักในบริเวณเหล่านั้นจึงเจ็บมากกว่าที่อื่น”
ภาพของสุนัขตัวนี้กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดียของจีน โดยมีชาวเน็ตจำนวนมากประณามการกระทำของเจ้าของ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าเขาอวดอ้างว่า “สุนัขไม่เจ็บ” ตอนที่สัก
ชาวเน็ตคนหนึ่งแสดงความเห็นอย่างโกรธเคืองว่า “คุณหมายความว่าอย่างไรที่ว่าไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย? ถ้าฉันฉีดยาชาให้คุณแล้วเฉือนคุณเล่น มันจะโอเคไหม?”
“นี่มันคือการทารุณกรรมชัดๆ แม้จะต้องทนความเจ็บปวดระดับต่ำ แต่มันก็ยังเจ็บอยู่ดี คุณแค่ฉวยโอกาสที่สุนัขพูดไม่ได้!” ชาวเน็ตอีกคนกล่าว
ส่วนรายที่ 3 เขียนว่า “เจ้าของคนนี้ไร้มนุษยธรรม ช่างเป็นคนเลวร้ายอะไรเช่นนี้ สุนัขผู้น่าสงสารนี่ช่างโชคร้ายจริงๆ ที่ได้เจอคนแบบนี้”
ข้อมูลจากรายงานของ iiMedia Research ระบุว่า อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงของจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดถึง 811,000 ล้านหยวน (ราว 3,672 ล้านบาท) เมื่อสิ้นปี 2568 นี้
ส่วนกฎหมายคุ้มครองสัตว์ของจีนในปัจจุบันนั้น ให้ความคุ้มครองทางกฎหมายเฉพาะสัตว์ป่าเท่านั้น ทำให้สัตว์เลี้ยงและสัตว์จรจัดส่วนใหญ่ไม่ได้รับการปกป้องดูแลตามกฎหมาย
ที่มา : scmp.com
เครดิตภาพ : Xiaohongshu