โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สว.ให้ฉายางบ69พ่อคิดลูกไม่ทำ

ไทยโพสต์

อัพเดต 2 กันยายน 2568 เวลา 7.18 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ขุนคลัง" มั่นใจไม่เกิน 2 วัน งบฯ 69 ผ่านสว.ฉลุย เชื่อนักลงทุนต่างชาติเข้าใจสถานการณ์การเมือง เพราะเกิดบ่อยไม่กระทบความเชื่อมั่น ประธาน กมธ.งบฯ แนะคำนึงถึงการจัดเก็บรายได้ เพื่อลดการกู้ชดเชยขาดดุล "สว.สีน้ำเงิน" ให้ฉายางบฯ 69 “คนขอไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ขอ” นโยบาย "พ่อคิด แต่ลูกไม่ทำ" เหตุ "แพทองธาร" หลุดนายกฯ "สว.ชญาน์นันท์" เตือนรายรับไม่ตรงเป้า การคลังอยู่ในขั้นวิกฤต จี้รัฐบาลชุดใหม่รัดเข็มขัดหวั่นหนี้ท่วม

เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ยังมั่นใจว่าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวนเงิน 3.78 ล้านล้านบาท จะยังคงเดินหน้าต่อไปได้ แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การเมืองภายในประเทศจะเข้าสู่ช่วงสุญญากาศ แต่ไม่น่าจะมีผลกระทบ โดยขณะนี้กระบวนการอยู่ในชั้นการพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว เชื่อว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 วัน ดังนั้นหลังจากนี้ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล งบประมาณก็จะยังเดินหน้าต่อไปได้อย่างแน่นอน

"สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติมากนัก ส่วนหนึ่งเพราะที่ผ่านมาประเทศไทยเกิดปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในลักษณะนี้ค่อนข้างบ่อย จนต่างชาติก็อาจจะเริ่มคุ้นชินพอสมควรแล้ว โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้อาจจะมีลักษณะพิเศษกว่าที่ผ่านมาบ้าง แต่ก็อยากให้มองว่าไม่ใช่แค่ประเทศไทย หากทุกประเทศเกิดปัญหาลักษณะนี้ก็เชื่อว่าจะต้องมีสะดุดเหมือนกันหมด" นายพิชัยกล่าว

ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภาที่มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.การคลัง แถลงรายงานต่อที่ประชุมว่า การจัดทำงบประมาณ พ.ศ. 2569 มีหลักการและแนวทางที่สำคัญ ดังนี้ 1.ดำเนินการตามนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล ทั้งนโยบายเร่งด่วน นโยบายระยะกลาง และนโยบายระยะยาว ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติแผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 2.จัดทำงบประมาณที่สนับสนุนการพัฒนาประเทศ โดยมุ่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วน พร้อมสร้างความเสมอภาคและโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมต่อภาคการผลิต และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

3.เพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำงบประมาณ โดยพิจารณาลำดับความสำคัญตามความจำเป็นและเร่งด่วนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งพิจารณาทบทวนเพื่อชะลอปรับลดหรือยกเลิกการดำเนินโครงการที่หมดความจำเป็นหรือมีความสำคัญในระดับต่ำ 4.ดำเนินให้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 รวมถึงกฎหมายมติและระเบียบของคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

จากนั้นเวลา 10.10 น. นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สว. ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบฯ 2569 วุฒิสภา รายงานสรุปผลการพิจารณาศึกษาว่า มีข้อสังเกตว่าปีงบประมาณ 2569 การตั้งงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลังเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พื้นที่งบประมาณถูกจำกัดลง และต้องขยายเพดานวงเงินอย่างสูงเพิ่มเติม ทำให้ต้องกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลสูงขึ้น รวมถึงมีหนี้สาธารณะสูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันหนี้สาธารณะ ณ วันที่ 31 ม.ค. 2568 อยู่ที่ 11.95 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 64.1 ของ GDP ซึ่งตัวเลข GDP อยู่ที่ 18.63 ล้านล้านบาท ดังนั้นรัฐบาลจึงควรคำนึงถึงการจัดเก็บรายได้เพื่อลดการกู้ชดเชยขาดดุล และพยายามตั้งงบประมาณให้สอดคล้องกับความต้องการเพื่อลดการใช้จ่ายจากเงินคงคลัง

นพ.ประพนธ์กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรปรับลดทั้งสิ้น 8,920.78 ล้านบาท ในส่วนที่ปรับลดสูงสุดคือกระทรวงมหาดไทย จำนวน 2,148 ล้านบาท และเมื่อสภาปรับลดงบประมาณแล้ว จะนำกลับไปเพิ่มให้หน่วยรับงบประมาณต่างๆ ตามยอดที่ปรับลด 8,920.78 ล้านบาท ตามข้อเสนอสองส่วน ครม.เสนอเพื่อเพิ่มให้ส่วนราชการหรือหน่วยงาน และการแปรญัตติขอเพิ่มโดยรัฐสภา ศาล องค์กรอิสระ และองค์กรอัยการ

ภาพรวมการพิจารณาศึกษาสรุปตามภารกิจคือ 1. กลุ่มภารกิจด้านเศรษฐกิจ วงเงิน 965,754 ล้านบาท มีข้อเสนอแนะ เช่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 9 กระทรวงควรนำงบฯ ที่ได้ไปดำเนินการให้เกิดประสิทธิภาพโดยเฉพาะเรื่องปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ การส่งเสริมการออม การจัดหารายได้โดยนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษีและเศรษฐกิจใต้ดินเข้ามาอยู่ในระบบภาษี การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ เป็นต้น

2.กลุ่มภารกิจด้านสังคม งบฯ 1,029,600 ล้านบาท ข้อสังเกต เช่น กลุ่มด้านสังคมเป็นกลุ่มที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุด แต่ก็ยังพบปัญหาซึ่งจะเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยี โดยเฉพาะช่องว่างรายได้ระหว่างคนรวยกับคนจนซึ่งยังคงขยายตัว โดยมีข้อเสนอแนะ เช่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรนำงบฯ ที่ได้รับจัดสรรไปดำเนินการให้ประชาชนได้รับประโยชน์ด้านสังคมเพิ่มยิ่งขึ้น

3.กลุ่มภารกิจด้านความมั่นคง งบฯ 680,374 ล้านบาท มีข้อสังเกต เช่น ปัญหาด้านความมั่นคงยังมีลักษณะที่หลากหลาย ซับซ้อน ทั้งความมั่นคงชายแดน ความตึงเครียดในบางพื้นที่ชายแดนจากสถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการระบาดของยาเสพติด กระบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ มีข้อเสนอแนะเช่น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมาย การอำนวยความยุติธรรม การบริการประชาชน พร้อมทั้งตรวจสอบ ป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ

4.ด้านการแก้ไขภัยพิบัติและทรัพยากรธรรมชาติ มีข้อเสนอแนะ อาทิ ในงานที่เกี่ยวข้องต้องบูรณาการวางแผน และงบประมาณร่วมกัน และรัฐบาลควรมีส่วนเข้าไปช่วยเหลือหาแนวทางเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนให้เกิดความยั่งยืน รวมถึงควรจัดสรรงบประมาณให้แก่ อปท. ที่ใช้จ่ายแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในปีงบประมาณต่อไปให้เพิ่มสูงขึ้น เพื่อชดเชยการขาดโอกาสที่ต้องนำเงินงบประมาณไปพัฒนาพื้นที่

และ 5.กลุ่มภารกิจด้านบริหารและอื่นๆ โดยแบ่งออกเป็นด้านบริหาร 119,221 ล้านบาท แผนงานบูรณาการ 98,767 ล้านบาท และงบประมาณเชิงพื้นที่ จังหวัดและกลุ่มจังหวัด 26,525 ล้านบาท อปท. 202,613 ล้านบาท โดยมีข้อสังเกตว่า ปัญหาการบริหารระดับพื้นที่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น และความสามารถในการพัฒนาพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบว่าหน่วยงานระดับพื้นที่มีอำนาจน้อย ไม่สามารถตัดสินใจเอง รวมถึงการจัดสรรงบประมาณยังไม่ตอบโจทย์คนในพื้นที่

จากนั้นที่ประชุมเปิดให้สมาชิกอภิปรายเนื้อหาในร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 2569 อย่างกว้างขวาง

โดยนายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. อภิปรายว่า ตนได้เห็นชอบกับร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ทั้งหมด แต่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ก็เป็นการกระตุ้นสภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ รวมไปถึงการใช้จ่ายภาครัฐขับเคลื่อนนโยบายสำคัญๆ แต่ขอพาดพิงไปถึงงบปี 68 เพราะนโยบายที่นายกฯ ได้แถลงไว้ไม่ได้ทำ แต่ไปทำในเรื่องที่ไม่ได้แถลง จนต้องเรียกว่านโยบาย "พ่อคิด แต่ลูกไม่ทำ" ลูกเน้นไปทำโครงการซอฟต์พาวเวอร์ ใช้งบเป็นพันๆ ล้านบาท เป็นนโยบายตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ และรัฐบาลทำอะไรไม่มีแบบแผน คิดอะไรไม่รอบคอบ สุกเอาเผากินมั่วไปเรื่อยๆ อย่างโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เป็นโครงการแจกเงินแห่งความฝัน หลอกลวงให้ประชาชนลงทะเบียน สุดท้ายไม่แจก จบลงด้วยการแจกเงินสด จากที่กล่าวว่าพายุหมุนเศรษฐกิจ 4 รอบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตอนนี้เหลือเพียงลมผายเบาๆ ถือว่าเป็นโครงการที่ล้มเหลวสุดๆ ยังไม่รวมนโยบาย 20 บาทตลอดสาย

"คงไม่หวังอะไรมากจากรัฐบาลชุดใหม่ หวังแค่เพียงให้ประชาชนมีกินมีใช้ก็พอ แต่ไม่ต้องไปขายศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของชาติ แล้วถือเอาประโยชน์ส่วนตัวเหนือกว่าประโยชน์ของชาติ"

นายพิสิษฐ์กล่าวด้วยว่า งบฯ ที่ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญที่สุดของรัฐบาล จึงขอตั้งชื่องบปี 69 ว่างบประมาณ "คนขอไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ขอ" เพราะรัฐบาลถูกเปลี่ยน ส่วนวงเงินกู้ชดเชยการขาดดุลประมาณ 8.6 แสนล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับงบลงทุน 8.64 แสนล้านบาท ไม่ต่างจากกู้มาลงทุน จึงหวังว่ารัฐบาลใหม่จะใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล

ผูัสื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายในภาพรวมงบกลางและเงินคงคลัง โดย สว.ต่างเสนอความเห็นให้รัฐบาลและหน่วยงานรับงบฯ พิจารณาใช้งบฯ อย่างระมัดระวัง คุ้มค่า และตอบโจทย์การแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะปัญหาด้านเศรษฐกิจ ปากท้อง ที่มีผลกระทบมาจากนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และการแข่งขันของประเทศต่างๆ

โดย น.ส.ชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย สว. อภิปรายว่า งบฯ 69 เสี่ยงต่อรายรับไม่ตรงเป้า และจะทำให้จีดีพีลดต่ำลง การนำส่งคลัง 9 เดือนที่ผ่านมาพบอัตราเพียง 14.4% ของจีดีพี แต่ตนให้เต็มปีอยู่ที่ 15% ของปีนี้ เงินกู้เท่าเดิม หากพิจารณาหนี้สาธารณะปี 69 คงค้างกว่า 69% ต่อจีดีพี ถือว่าอันตรายมาก เพราะไม่เหลือพื้นที่การเงินการคลังที่จะบริหารจัดการต่างๆ ได้ หากถึงเวลาที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย จะเท่ากับ 12% ของรายรับที่ได้ เท่ากับว่าประเทศจะเข้าสู่วิกฤต และไม่ได้สวยหรูเหมือนที่เขียนอยู่ในงบประมาณ

“รัฐบาลชุดใหม่ไม่ว่าใครมา หากตระหนักในเรื่องเหล่านี้ต้องรัดเข็มขัด เพราะหากเป็นเงินของเราเองยังต้องรัดเข็มขัด แต่นี่เป็นเงินแผ่นดินจึงต้องรัดเข็มขัดให้ดี หากปีนี้ใช้เงินไม่หมดขอให้คืนคลัง หากรัดเข็มขัดได้ 5 หมื่นล้านบาทในปีนี้ และปีหน้ารัดเข็มขัดได้อีก 6 หมื่นล้านบาท ขณะที่รายได้การคลังต้องเพิ่มประสิทธิภาพ เก็บภาษีให้อยู่ในระดับ 15% ของจีดีพี และกู้เงินให้น้อยลง ปีที่แล้วกู้ไป 8 แสนล้านบาท ปีนี้ไม่ควรติดลบ ดังนั้นควรกู้ 1 แสนล้านบาท ทำให้การบริหารจัดการหนี้สาธารณะเหลือ 68.5% ก็จะมีพื้นที่หายใจให้ประเทศไทย” น.ส.ชญาน์นันท์กล่าว.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘ปู กนกวรรณ’ โพสต์ครั้งแรกหลังสามีป่วยหนัก

47 นาทีที่แล้ว

พรรคส้มอย่าเหลิง

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เรียกร้องอยากชม?

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“สบายกว่าเยอะ”

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ฮูตีบุกรุกอาคารสหประชาชาติในเยเมน ควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ หลังอิสราเอลสังหารนายกฯ

JS100

ILO เสี่ยงเลิกจ้างเพิ่มเติม เหตุทรัมป์ลดเงินสนับสนุน

JS100

การทูตมุ่งยุติสงครามยูเครนของ‘ทรัมป์’ สะท้อนข้อจำกัดของยุทธศาสตร์ใหญ่สหรัฐฯ

Manager Online

ชายวัย 48 ซดยาดอง ซิ่งกระบะชนชาวกัมพูชาดับ ลูก-เมีย ร่ำไห้แทบขาดใจ

Khaosod

อุกอาจ! “อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน” สุดฉุน “รัสเซีย” แอบแจมสัญญาณ GPS เครื่องที่นั่งมาในบัลแกเรียเกือบบินลงไม่ได้ ก่อนเปิดแผนจับมือ "ทรัมป์" ส่ง “ทหารรับจ้างอเมริกัน” นำกำลังนานาชาติเข้า “ยูเครน” เพื่อสันติภาพ

Manager Online

สภาพอากาศวันนี้ -7 ก.ย.ไทยฝนตกต่อเนื่อง พื้นที่เสี่ยงระวังน้ำท่วมฉับพลัน

ฐานเศรษฐกิจ

ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้บันทึกฤดูร้อนที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ ในปีนี้

JS100

น่ากลัว! แผ่นดินไหว6.0เขย่าอัฟกานิสถาน ยอดดับกว่า800-เจ็บอย่างต่ำ2800

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...