IBM จับมือ AMD ร่วมสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ควอนตัมยุคหน้า
สองยักษ์ใหญ่อย่างไอบีเอ็ม (IBM) และเอเอ็มดี (AMD) ประกาศจับมือกันพัฒนา “สถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์แห่งอนาคต” ที่เรียกว่า Quantum-Centric Supercomputing หรือซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ผสานพลังระหว่างควอนตัมคอมพิวเตอร์ เข้ากับ high-performance computing หรือการประมวลผลประสิทธิภาพสูงแบบเป็นเนื้อเดียว
ถามว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ควอนตัมยุคหน้า จะแตกต่างจากคอมพิวเตอร์ทั่วไปอย่างไร? คำตอบคือปกติแล้วคอมพิวเตอร์ใช้บิตที่เป็นเลข 0 หรือ 1 แต่ควอนตัมคอมพิวเตอร์ใช้ Qubit ที่ทำงานตามกฎของกลศาสตร์ควอนตัม ทำให้มีมิติการคำนวณที่ซับซ้อนและทรงพลังมากขึ้น สามารถแก้ปัญหายาก ๆ ที่คอมพิวเตอร์แบบเดิมทำไม่ได้
ตัวอย่างงานหินที่คอมพิวเตอร์ยุคปัจจุบันทำได้ติดขัด คืองานด้านการค้นหายาใหม่ การออกแบบวัสดุ การจัดการโลจิสติกส์ หรือการแก้โจทย์ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพที่ซับซ้อน
***พลังแห่งอนาคต
อารวินด์ กฤษณะ (Arvind Krishna) ประธานและซีอีโอของ IBM กล่าวว่าการนำควอนตัมกับไฮเพอร์ฟอร์แมนซ์คอมพิวติ้งมาทำงานร่วมกัน จะเป็นโมเดลไฮบริดที่ทรงพลังเกินขีดจำกัดเดิม ๆ ของโลกคอมพิวเตอร์
“การประมวลผลควอนตัมจะจำลองโลกอย่างเป็นธรรมชาติและแสดงข้อมูลในรูปแบบใหม่ทั้งหมด เราจะสามารถสร้างโมเดลไฮบริดที่ทรงพลังซึ่งจะก้าวข้ามขีดจำกัดของการประมวลผลแบบเดิม ผ่านการสำรวจว่าควอนตัมคอมพิวเตอร์จาก IBM และเทคโนโลยีการประมวลผลประสิทธิภาพสูงขั้นสูงของ AMD จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร”
ด้าน ดร. ลิซ่า ซู (Lisa Su) ซีอีโอของ AMD กล่าวเสริมว่าการประมวลผลทรงพลัง high-performance computing คือรากฐานในการแก้ปัญหาสำคัญของโลก และการร่วมมือครั้งนี้จะเร่งการค้นพบและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างก้าวกระโดด
“การประมวลผลประสิทธิภาพสูงเป็นรากฐานสำคัญในการแก้ปัญหาที่สำคัญที่สุดของโลก การที่เราเป็นพันธมิตรกับ IBM เพื่อสำรวจการบรรจบกันของการประมวลผลประสิทธิภาพสูงและเทคโนโลยีควอนตัม ทำให้เรามองเห็นโอกาสมหาศาลในการเร่งการค้นพบและนวัตกรรม”
แกนหลักของแนวคิดนี้คือการแบ่งงานให้ตรงจุด โดยควอนตัมคอมพิวเตอร์ จะจำลองอะตอมหรือโมเลกุล ขณะที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์และ AI วิเคราะห์ข้อมูลขนาดมหาศาล ซึ่งเมื่อรวมกัน จึงจะได้พลังการคำนวณที่เร็วและใหญ่เกินกว่าที่โลกเคยมี
ทั้ง AMD และ IBM ต่างกำลังทดสอบการเชื่อม CPU, GPU และ FPGA ของ AMD เข้ากับควอนตัมคอมพิวเตอร์ของ IBM เพื่อสร้างอัลกอริธึมใหม่ ที่ไม่มีใครทำได้มาก่อน และยังช่วยผลักดันเป้าหมายของ IBM ในการสร้างควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่ “ทนทานต่อความผิดพลาด” ภายในสิ้นทศวรรษนี้
ทั้ง 2 ยักษ์ใหญ่ย้ำว่าการสาธิตครั้งแรกจะเกิดขึ้นภายในปีนี้ 2025 และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ระดับโลกเลยทีเดียว เนื่องจากความร่วมมือนี้ไม่ใช่แค่ความร่วมมือของ 2 บริษัท แต่คือการวางรากฐาน อนาคตของการคำนวณ ที่จะช่วยแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ.
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO