โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“เพลงชาติกัมพูชา” กับการรำลึกอดีตอันยิ่งใหญ่ ทั้ง 4 เวอร์ชันล้วนมีปราสาทหิน-เมืองพระนคร

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพวาดนครวัดจากหนังสือ Voyage d'exploration en Indo-Chine เมื่อ ค.ศ. 1866

“เพลงชาติกัมพูชา” กับการรำลึกอดีตอันยิ่งใหญ่ของชนชาติเขมร ด้วยการกล่าวถึงปราสาทนครวัดและเมืองพระนคร

เพลงชาติกัมพูชาในปัจจุบันคือเพลง “นครราช”(นโกร์เรียช) ซึ่งมีมาตั้งแต่ได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส แต่กัมพูชายังมีเพลงชาติอีก 3 เพลงที่เคยใช้ในอดีต ได้แก่ เพลงชาติสมัยสาธารณรัฐ, เพลงชาติสมัยรัฐบาลเขมรแดง และเพลงชาติสมัยการปกครองของเวียดนาม ตามลำดับ ก่อนจะกลับมาใช้เพลงนครราชอีกครั้ง

ข้อสังเกตคือ แม้เพลงชาติแต่ละเวอร์ชันจะเกิดจากลัทธิการเมืองที่แตกต่าง แต่เพลงเหล่านี้ล้วนเล่าถึงสิ่งหนึ่งร่วมกัน นั่นคือ อดีตอันยิ่งใหญ่สมัยพระนคร

“นครราช” หรือ นครแห่งราชา เพลงชาติเพลงแรกที่กัมพูชาใช้หลังได้รับเอกราชเมื่อ พ.ศ. 2496 และใช้สืบเนื่องมาถึง พ.ศ. 2513 เริ่มต้นจากพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระนโรดมสุรามฤต (พระราชบิดาสมเด็จพระนโรดมสีหนุ) ประพันธ์เนื้อและทำนองโดยสมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี (ชวน-ณาต) พระสังฆนายก

เนื้อเพลงนครราชแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ บทสรรเสริญพระบารมีพระมหากษัตริย์เขมร บทสรรเสริญการสร้างปราสาทโบราณ และบทสรรเสริญคุณค่าของการนับถือพระพุทธศาสนาของชาวเขมร

ในส่วนหนึ่งการสรรเสริญปราสาทโบราณ คือ ปฺราสาทสิลา(ปราสาทศิลา) กํบำงกณฺฎาลไพฺร(กำบังอยู่ท่ามกลางไพร) ควรโอยสฺรมัย(ควรให้แว่วเสียง) นึกฎล่ยสสกฺฎิ์มหานคร(นึกถึงยศศักดิ์มหานคร)

เพลงชาติสมัยสาธารณรัฐเขมร ภายใต้กลุ่มการเมืองที่สหรัฐอเมริกาสนับสนุน เพลงชาติยุคนี้มีทำนองเดียวกับเพลงของกลุ่มประเทศสังคมนิยม แต่งโดยกลุ่มมหาวิทยาลัยวิจิตรศิลปะของกัมพูชา (เทียบได้กับมหาวิทยาลัยศิลปากรของไทย)

แม้เพลงชาติเวอร์ชันดังกล่าวจะไม่มีการกล่าวถึงกษัตริย์เขมร แต่ปราสาทหินแห่งเมืองพระนครยังเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองของชาติอยู่ ดังว่า ชนชาติแขฺมร(ชนชาติเขมร) ลฺบีพูแกมวยกฺนุงโลก(ลือชื่อเก่งที่หนึ่งในโลก) มานชัยโชค(มีชัยโชค) กสางปฺราสาทสิลา(ก่อสร้างปราสาทศิลา) อารฺยธรฺมขฺพส่(อารยธรรมสูง) บวรชาติสาสนา(บวรชาติศาสนา) เกรฺติ์ฎูนตา(มรดกยายตา) ทุกเลีกภพแผนฎี(ไว้ยกภพแผ่นดิน)

เพลงข้างต้นใช้ถึง พ.ศ. 2518 ก็ถูกยกเลิกไป เมื่อกองกำลังเขมรแดงยึดกรุงพนมเปญ

“17 เมษา มหาโชคชัย” เพลงชาติสมัยเขมรแดงมีเนื้อหาเพลงสนับสนุนการปลดปล่อยและสละเลือดเนื้อเพื่อมาตุภูมิ ซึ่งต่อต้านแนวคิดจักรวรรดินิยมอย่างสุดโต่ง มีตอนหนึ่งกล่าวถึง “สมัยพระนคร” ว่า ฎบ่ปฺรำพีรเมสา(สิบเจ็ดเมษา) โชคชัยมหาอสฺจารฺย(โชคชัยมหาอัศจรรย์) มานนัยธํเธง (มีความหมายยิ่งใหญ่) เลีสสมัยองฺคร(ยิ่งกว่าสมัยพระนคร)

จะเห็นว่าแม้เขมรแดงชี้นำประเทศด้วยลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่ยุคพระนคร (จักรวรรดินิยมแบบจารีต) ยังถูกนำมาใช้ในทางการเมือง เพื่อเปรียบว่าพวกเขาจะสร้างสังคมใหม่ให้ “ยิ่งใหญ่” กว่าสมัยเมืองพระนคร

แต่สุดท้ายความสุดโต่งดังกล่าวได้นำพาประเทศไปสู่หายนะ

เพลงชาติสมัยสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาเป็นเพลงชาติช่วงที่กองทัพเวียดนามเข้ามาขับไล่เขมรแดงออกจากกัมพูชา หลังโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในแผ่นดินเขมร เมื่อ พ.ศ. 2522 สู่ยุคที่การเมืองกัมพูชาแบ่งเป็นหลายฝ่าย

แม้เพลงชาติสมัยนี้จะไม่กล่าวถึงยุคพระนครตรง ๆ แต่ยังกล่าวถึง “ปราสาท” ที่ปรากฏอยู่บนธงชาติ ดังนี้ วีรกมฺพุชาบุตร (วีรกัมพูชาบุตร) เมาะมุตกฺนุงสงฺคฺราม (มุ่งมั่นในสงคราม) เปฺฏชฺญาสงฌามนึงขฺมำงสตฺรู(ปฏิญาณตอบแทนกับศัตรู) ทง่ชัยปฺราสาทพรฺณฌาม(ธงชัยปราสาทสีเลือด)

แน่นอนว่าปราสาทดังกล่าวคือ “นครวัด” ตัวแทนความอดีตอันรุ่งโรจน์สมัยพระนครนั่นเอง

เมื่อกัมพูชากลับมาเป็น ราชอาณาจักรกัมพูชาจึงเปลี่ยนกลับมาใช้เพลงนครราชอีกครั้ง ซึ่งในบรรดาเพลงชาติที่เขมรเคยใช้ นี่คือเพลงที่รำลึกถึงอดีตอันยิ่งใหญ่ของราชอาณาจักรเขมรโบราณและเมืองพระนคร (พระนครศรียโศธรปุระ) อย่างเด่นชัดที่สุด เพราะเพลงจงใจนำเสนอความรุ่มรวยปราสาทหินในดินแดนเขมร และกล่าวถึงกษัตริย์เขมรโบราณในฐานะผู้สร้างความยิ่งใหญ่ของเมืองพระนคร

ว่าง่าย ๆ คือการถวิลหาการสร้างรัฐที่ยิ่งใหญ่ให้ได้อย่างที่กษัตริย์เมืองพระนครเคยทำมาแล้ว

อีกนัยหนึ่ง แม้ “นครราช” เพลงชาติกัมพูชาจะสร้างความรู้สึก “ภาคภูมิใจ” ต่อความยิ่งใหญ่ครั้งอดีตและมรดกที่บรรพบุรุษสร้างไว้ แต่ก็ก่อความรู้สึก “น้อยเนื้อต่ำใจ” ในชะตากรรมของชาวเขมรในปัจจุบันด้วยเช่นกัน

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

หมายเหตุ : เนื้อหานี้สรุปและเก็บความจาก “เพลงชาติกัมพูชา ความแตกต่างทางการเมืองในจุดร่วมแห่งอดีตที่รุ่งเรืองของ ‘พระนคร’ ”เขียนโดย ศานติ ภักดีคำ ในศิลปวัฒนธรรม ฉบับกันยายน 2547

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 18 กุมภาพพันธ์ 2568

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “เพลงชาติกัมพูชา” กับการรำลึกอดีตอันยิ่งใหญ่ ทั้ง 4 เวอร์ชันล้วนมีปราสาทหิน-เมืองพระนคร

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ศิลปวัฒนธรรม

ปฐมเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร และนัยที่สะท้อนว่า ร.3 ทรงรัก “เจ้าสัวโต” สหายของพระองค์ยิ่ง

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

พระยาจ่าแสนบดีศรีบริบาล ขุนนางสยามคนสำคัญ ผู้เรียบเรียงพงศาวดารเขมร สมัยรัชกาลที่ 4-5

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

เคล็ดลับเลือกอาหารมื้อเที่ยง กินยังไงให้อิ่มแต่ไม่ง่วง

สยามรัฐวาไรตี้

กรดไหลย้อนเรื้อรัง สัญญาณเตือนอาจนำไปสู่ "มะเร็งหลอดอาหาร"

Thai PBS

สรรพคุณเด่นของใบมะยม สมุนไพรใกล้ตัวเพื่อผิวเนียนนุ่ม ลดกลิ่นเท้า

sanook.com

ปักหมุดเที่ยว "ทุ่งคอสมอส" บานสะพรั่งที่สวนรถไฟ กรุงเทพ

Manager Online

ใช้มาตรา 51 หยุดภัยคุกคามกัมพูชา ?

ประชาชาติธุรกิจ

8 สูตรลับแต่งตัวผู้ชายให้ดูดีแบบง่ายๆ เรียบๆ แต่หล่อเป๊ะ!

sanook.com

ชม “Vernissage” ก่อนประมูลภาพซีรีส์ดัง “สงครามส่งด่วน”

เดลินิวส์

Kendall Jenner ขึ้นแคมเปญ Luxury Is Wellness ของ Alo Yoga

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

“เพลงชาติกัมพูชา” กับการรำลึกอดีตอันยิ่งใหญ่ ทั้ง 4 เวอร์ชันล้วนมีปราสาทหิน-เมืองพระนคร

ศิลปวัฒนธรรม

ปฐมเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร และนัยที่สะท้อนว่า ร.3 ทรงรัก “เจ้าสัวโต” สหายของพระองค์ยิ่ง

ศิลปวัฒนธรรม

พระยาจ่าแสนบดีศรีบริบาล ขุนนางสยามคนสำคัญ ผู้เรียบเรียงพงศาวดารเขมร สมัยรัชกาลที่ 4-5

ศิลปวัฒนธรรม
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...