“อายิโนะโมะโต๊ะ” เปิดแผนธุรกิจปี 68 หนุนคนไทย “กินดี มีสุข”
เมื่ออาหารไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติ แต่คือเครื่องมือสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในยุคที่ความยั่งยืน สุขภาพ และพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “อายิโนะโมะโต๊ะ” แบรนด์อาหารคู่ครัวไทย เดินหน้าเติมเต็มบทบาทใหม่ที่มากกว่าแค่ความอร่อย พร้อมเปิดแผนธุรกิจปี 2568 ด้วยเป้าหมายชัดเจน คือ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และส่งมอบสุขภาพที่ดีผ่านโภชนาการที่มีคุณภาพ
‘มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย)’ จำกัด เผยว่า ปีที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความท้าทาย ทั้งเงินเฟ้อ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และแรงกดดันเรื่อง ESG แต่เราปรับตัวทันทุกสถานการณ์ และเดินหน้าใช้จุดแข็งด้าน ‘AminoScience’ ในการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพ เพื่อสร้างคุณค่าใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอาหารไทย”
จากความสำเร็จใน ปี 2567 บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ทำรายได้รวมกว่า 32,663 ล้านบาท ขึ้นแท่นอันดับ 6 ของกลุ่มผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของประเทศ พร้อมเสิร์ฟอาหารเพื่อสุขภาพกว่า 248 ล้านมื้อ ไม่ใช่แค่ปริมาณ แต่คือการเติบโตถึง 24% ในกลุ่ม นวัตกรรมอาหาร ที่สะท้อนชัดว่าแบรนด์อาหารยุคใหม่ต้องตอบทั้ง “รสชาติ” และ “คุณภาพชีวิต”
โดยผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้หลักและครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดคือ ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ 90% รสดี80% และกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ 50% โดยกลุ่มที่มีการเติบโตที่โดดเด่น คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมกรดอะมิโน 30% อาหารแช่แข็ง 80%
นอกจากนี้ แบรนด์ยังมุ่งเน้นเรื่องของความยั่งยืน เช่น
- ลดการปล่อยคาร์บอน Scope 1 และ 2 ได้ถึง 92%
[* ลดของเสียจากอาหาร 82% คิดเป็นกว่า 1,600 ตัน , * ลดการใช้น้ำ 92%เก็บพลาสติกกลับจากการใช้ซ้ำผ่านแคมเปญ Upcycling ได้กว่า 1.5 ล้านชิ้น , * เปลี่ยนยูนิฟอร์มพนักงานโรงงานและฝ่ายขายเป็นชุดที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล , * ติดตั้งหลังคา โซลาร์เซลล์ เกือบ 100% ครอบคลุมโรงงานทั้งหมด ]
[ ภาพรวมธุรกิจอาหารปี 2567 มีหัวใจหลักๆ 3 ข้อ ]
1) ปัญหาเงินเฟ้อ ที่ส่งผลราคาของวัตถุดิบ ที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของค่าเงิน
2) ESG บริษัททั่วโลกกำลังมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือ “Net Zero” และการดำเนินงานตามกรอบมาตรฐาน
3) พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค ผู้บริโภคมองหาผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่า มีราคาเหมาะสม หรือโปรโมชั่นที่โดนใจ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่สร้างความท้าทายให้กับทุกธุรกิจ
สำหรับ ปี2568 อายิโนะโมะโต๊ะ มุ่งยกระดับการสร้างความกินดีมีสุขไปอีกขั้น ผู้นำธุรกิจอาหารในประเทศไทย กางแผนการดำเนินงานปี 68 กระตุ้นเศรษฐกิจไทย เสิร์ฟ 3 กลยุทธ์พิชิตใจ คนรุ่นใหม่ ตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย
1)ขยายตลาดและสร้างการเติบโต เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมและต่อยอดนวัตกรรมใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ กลุ่มเครื่องปรุงรส สร้างประสบการณ์ความสนุกและความอร่อยในการทำอาหาร พร้อมการสร้างสุขภาพที่ดีให้แก่นักชิม ปรับการสื่อสาร กาแฟเบอร์ดี้ พลิกโฉมแบรนด์ให้ทันสมัยเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ อาหารแช่แข็งสไตล์ญี่ปุ่น ที่กินง่ายและดีต่อสุขภาพ เมนูพร้อมทาน (Ready-to-eat) เจาะคนเมืองที่ต้องการความสะดวกแต่ไม่ลดคุณภาพชีวิต อาหารเสริมกรดอะมิโน ด้วยวิทยาศาสตร์ “AminoScience” เพื่อตอบโจทย์การดำเนินชีวิตของคนในทุกไลฟ์สไตล์ เช่น กลุ่มสายฟิต สายเฮลธ์ สายบิวตี้
พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน ผสานบริการจากธนาคาร ประกัน โค้ชสุขภาพ และ telemedicine แบบครบวงจร
2) หนุนโภชนาการกีฬาให้ทัพนักกีฬาและคนไทย มุ่งสานต่อโครงการ Thailand Victory Project เป็นปีที่ 7 ผ่านการสนับสนุนกีฬาซีเกมส์ 2025 ภายใต้แนวคิด “โภชนาการคือพลังแห่งชัยชนะ” บริษัทฯ ได้นำองค์ความรู้ด้าน AminoScience จากญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ผ่านแผนมื้ออาหารแห่งชัยชนะ ที่ออกแบบเฉพาะเพื่อเสริมศักยภาพของนักกีฬา พร้อมด้วย เจลพลังงานอะมิโนไวทัล ที่อุดมด้วยกรดอะมิโนจำเป็น นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัว Ajinomoto Victory Canteen ห้องอาหารนักกีฬายุคใหม่ ที่ไม่เพียงให้โภชนาการครบถ้วน แต่ยังเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจ เสริมพลัง และพัฒนาศักยภาพอย่างรอบด้านให้กับทัพนักกีฬาไทย
3) ใช้เทคโนโลยี FarmAI ช่วยลดคาร์บอนสร้างความยั่งยืน ตั้งเป้าลดใช้คาร์บอน พร้อมเพิ่มปริมาณการตรวจสอบกลับ จากโครงการ “Thai Farmer Better Life Partner” ขึ้นเป็น 45,000 ตัน หรือประมาณ 30% โดยมีแอปพลิเคชัน FarmAI เป็นเครื่องมือใหม่ที่จะเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพในการตรวจสอบกลับการดำเนินงานในระบบ ecosystem พร้อมเดินหน้าโมเดล Ajinomoto FD Green one-stop service ด้วยการสร้างเครือข่ายเพื่อการเกษตรกับพาร์ตเนอร์อย่างครบวงจร ผ่านการใช้เทคโนโลยีในการยกระดับการเกษตร เพิ่มผลผลิตและให้ความรู้แก่เกษตรกรมันสำปะหลังและกาแฟเพื่อผลผลิตที่มีคุณภาพ ควบคู่กับการลดคาร์บอนตามเป้าหมายใน Scope 3
จากกลยุทธ์ดังกล่าว บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในการสนับสนุนความ “กินดี มีสุข” แก่สังคมไทยผ่านโภชนาการที่ดี ด้วยนวัตกรรมอาหารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ควบคู่ไปกับแนวทางการดำเนินงานที่ดีและลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งจะช่วยดูแลคุณภาพชีวิตที่ดีแก่คนไทยและสิ่งแวดล้อมให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันอย่างยั่งยืน
[ ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับคนรุ่นใหม่ ]
นอกจากนี้ แบรนด์ยังพร้อมปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้เข้าถึงง่ายและเป็นมิตรมากขึ้น
- สื่อสารด้วย “AjiPanda” ในฐานะ Brand Ambassador ของกลุ่มบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะทั่วโลก โดยได้เริ่มมีการสื่อสารกับคนไทย เพื่อเป็นตัวแทนความสุขในการกินและชีวิตที่มีสุขภาพดี
[* รสดี : พัฒนาสินค้าเพื่อเป็นทางเลือกสุขภาพให้กับผู้บริโภค เช่น “รสดีเมนู แป้งชุบทอดปรุงรสสำเร็จ” สูตรลดการอมน้ำมัน 30% และลดโซเดียม “รสดีมายด์” ลดเกลือลง 15% ให้รสนุ่มนวลเค็มพอดี แต่คงเอกลักษณ์ความเข้มข้น รวมทั้งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ช่วยให้การทำอาหารสะดวกขึ้น เช่น “รสดีซุปก้อน ฮอทพอท รสซุปหม่าล่า , * เบอร์ดี้ : เปิดตัวสูตรเพื่อสุขภาพตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และเปิดตัว “เบอร์ดี้คาเฟ่” แบบขวด PET สุดเทรนดี้ หนุนชาวไร่กาแฟไทย ]
อย่างไรก็ตาม อายิโนะโมะโต๊ะไม่เพียงยืนหยัดในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารของไทย แต่ยังขยับบทบาทสู่ผู้ขับเคลื่อน “สุขภาพที่ดี ความยั่งยืน และคุณภาพชีวิต” ผ่านกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและโลกอย่างสมดุล