โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

‘หุ้นไทย’ เดือน ก.ค. ติดอันดับพุ่งแรงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ถึงเวลาลงทุนแล้วหรือยัง

TODAY Bizview

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • workpointTODAY

เดือน ก.ค. 2568 กลายเป็นเดือนทองของตลาดหุ้นไทย เมื่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ดีดกลับแรงถึง 9.96% ทำสถิติสูงสุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 (ข้อมูลระหว่าง 1-17 ก.ค. 2568) เป็นรองเพียงตลาดหุ้นปากีสถาน (KSE-100 Index) ที่ให้ผลตอบแทน 10.45%

ท่ามกลางภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกที่ยังคลุมเครือ ด้วยนโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา ความผันผวนในยุโรป และดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูงหลายประเทศ

คำถามสำคัญจึงเกิดขึ้นว่า… ‘นี่คือจุดเปลี่ยน หรือแค่รีบาวด์?’ นักลงทุนควรเข้า หรือรอ?

[ คลื่นใหญ่จากอเมริกาสะเทือนโลก ]

นักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (ASPS) ระบุว่า ตลาดการเงินโลกในไตรมาส 3 ยังคงขับเคลื่อนด้วยสองแรงหลักคือ ‘นโยบายภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff)’ ของสหรัฐฯ และ ‘ทิศทางดอกเบี้ย’ ที่ยังค้างอยู่ในโหมดไม่แน่นอน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสหรัฐฯ เตรียมประกาศสรุปภาษีจีนในวันที่ 1 และ 12 ส.ค. ซึ่งอาจนำไปสู่ความวุ่นวายในการตรวจสอบต้นทางสินค้า ชะลอซัพพลายเชน และผลักดันสินค้าเกินความจำเป็นเข้าตลาดเกิดใหม่อย่างไทย

ถึงกระนั้น เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังอยู่ในโหมด ‘Soft Landing’ หรือชะลอตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเติบโตต่อเนื่อง อัตราการว่างงานต่ำ และภาคบริโภค-บริการยังแข็งแรง

โดยสำนักข่าวต่างประเทศ ‘บลูมเบิร์ก’ (Bloomberg) ปรับลดโอกาสเกิดเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ของสหรัฐฯ จาก 45% เหลือ 35% ในเดือน ก.ค. ขณะที่กำไรต่อหุ้น (EPS) ของดัชนีหุ้น S&P 500 ยังเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ (New High)

ขณะที่ตลาดจีน แม้ผ่านช่วงขัดแย้งหนักกับสหรัฐฯ แต่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว ทั้งในเชิงเศรษฐกิจจริงและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ โดยบริษัทหลายแห่งกลับมาให้ทิศทาง (Guidance) อีกครั้ง สะท้อนความชัดเจนที่เริ่มก่อตัว

[ SET กลับมายืนได้ในเดือน ก.ค. ]

ก่อนหน้าจะพุ่ง 9.96% ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับการปรับฐานต่อเนื่องถึง -23% จากต้นปี สาเหตุหลักมาจาก:

• สงครามตะวันออกกลาง ที่แม้จะสงบชั่วคราวแต่ยังไม่มีจุดจบ

• ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กระทบภาคการค้าอัญมณีและทองคำ

• ความไม่แน่นอนทางการเมือง ที่ทำให้ พ.ร.บ.งบประมาณล่าช้า

• ภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ต่อไทย (36%) ที่เป็นความเสี่ยงต่อเม็ดเงินลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) และการเติบโตเศรษฐกิจ

ถึงกระนั้น ตลาดกลับพบแรงซื้อในเดือน ก.ค. จากหลายแรงบวก ได้แก่ ความชัดเจนของผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีเกินคาด หลายกลุ่มประกาศซื้อหุ้นคืน (Buyback) การลดลงของบัญชีมาร์จิ้น และค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพดึงดูดเงินทุนกลับเข้ามา

[ หุ้นไทยถึงจุดต่ำสุดแล้วจริงหรือ ]

กำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยในครึ่งปีแรกยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มการเงิน ขนส่ง โรงพยาบาล และอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการกลับมาของหุ้นการบินไทย (THAI) และการขายเงินลงทุนของหุ้นปูนใหญ่ (SCC) ที่อาจหนุน EPS ของตลาดให้ทะลุ 90 บาทต่อหุ้นในครึ่งปีหลัง

แม้จะมีความกังวลเรื่องภาษีของทรัมป์ แต่ผลกระทบต่อกำไรภาพรวมประเมินว่าอยู่เพียง ~1% เท่านั้น ขณะที่ราคาหุ้นได้ซึมซับข่าวลบไปมากแล้ว ตลาดจึงน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วที่ระดับ 1,100 จุดในเดือน มิ.ย.

[ 6 หุ้นเด่นประจำไตรมาส 3 ]

หุ้นเด่นประจำไตรมาส 3 ปี 2568

• PLANB ราคาเหมาะสม 10.60 บาทต่อหุ้น

• CPALL ราคาเหมาะสม 66.50 บาทต่อหุ้น

• BDMS ราคาเหมาะสม 30.00 บาทต่อหุ้น

• TRUE ราคาเหมาะสม 15.20 บาทต่อหุ้น

SCC ราคาเหมาะสม 210.00 บาทต่อหุ้น

• PTT ราคาเหมาะสม 35.00 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ หุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นอันดับต้นๆ ของแต่ละอุตสาหกรรม มีโอกาสได้เม็ดเงินจากกระแสเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) พร้อมกับมีความผันผวนน้อยกว่าหุ้นตัวอื่นๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน

[ นักลงทุนต่างชาติกำลังจะกลับมา ]

การขายของต่างชาติในช่วงครึ่งปีแรกดูเหมือนจะจบลงแล้ว เมื่อไม่มีแรงขายใหม่เข้ามาอย่างมีนัยสำคัญ และหลายบริษัทเริ่มประกาศซื้อหุ้นคืน ยิ่งไปกว่านั้น กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ใกล้ครบกำหนดไถ่ถอนก็มีแนวโน้มทยอยหมด ส่งผลให้แรงขายภายในประเทศน่าจะลดลง

นอกจากนี้ การรีบาวด์แรงของ SET ทำให้มีลุ้นโอกาสที่ดัชนีหุ้นโลก ไม่ว่าจะเป็น MSCI และ FTSE อาจพิจารณาปรับน้ำหนักหุ้นไทย ซึ่งเป็นบวกต่อกระแสเงินต่างชาติ

[ สรุป: ถึงเวลาลงทุนแล้วหรือยัง? ]

หากดูจากปัจจัยทั้งหมด จะเห็นว่าตลาดไทยกำลัง ‘ฟื้นตัวจากฐานต่ำ’ ราคาหุ้นหลายตัวสะท้อนข่าวร้ายไปมากแล้ว ขณะที่กำไรครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ และมีโอกาสที่แรงขายจะลดลงจาก LTF และนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามา

เป้าหมาย SET Index จาก ASPS คือ 1,376 จุด ภายใต้สมมติฐาน EPS ปี 2568 ที่ 86 บาท หากข่าวภาษีของทรัมป์ไม่แย่เกินคาด ตลาดไทยอาจมีโอกาสขาขึ้น (Upside) อีกมากกว่า 15-20% จากจุดต่ำสุด…

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TODAY Bizview

“อายิโนะโมะโต๊ะ” เปิดแผนธุรกิจปี 68 หนุนคนไทย “กินดี มีสุข”

20 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การบินไทยจัดการประชุมสายการพาณิชย์ประจำปี 2568THAI Commercial Conference 2025 “Aim Further: Strive for New Heights”

1 วันที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

มีลุ้นครึ่งหลังปี 68 ทุนต่างชาติไหลกลับเข้าไทย จับตาการค้า-การเมือง

ฐานเศรษฐกิจ

เปิดวิสัยทัศน์ “ธีร์” ประธานมาสด้า

เดลินิวส์

ไทยเสี่ยงเสียศูนย์! "ดร.กอบศักดิ์"ห่วงความขัดแย้ง-ภาษีสหรัฐทำหลุดเกมเศรษฐกิจโลก

PostToday

กรมชล ลงพื้นที่ติดตามโครงการคลองยม–น่าน วาง แผนระบายน้ำ ในช่วงฤดูฝน

Khaosod

แบงก์รัฐ-พาณิชย์ ออกมาตรการช่วยลูกหนี้ จากเหตปะทะชายแดน-พายุวิภา

Thai PBS

"อดีต รมว.คลัง" โพสต์ชี้ไทยต้องใช้โอกาสทรัมป์ เป็นตัวกลางคลี่คลายไทย-กัมพูชา

PPTV HD 36

นักวิชาการ ห่วง หากศึกไทย-กัมพูชาไม่จบ หวั่นกระทบ SMEs- สหรัฐอาจกดดันภาษีนำเข้า

MATICHON ONLINE

10หุ้น! ไตรมาส3

หุ้นวิชั่น

ข่าวและบทความยอดนิยม

ถอดบทเรียน KTC เมื่อกู้เงินมาเล่นหุ้น แต่ราคาดันดิ่งหนัก

TODAY Bizview

หุ้นไทยเสี่ยงร่วงต่ำกว่า 1,000 จุด นักวิเคราะห์เตือนยุบสภา-แย่สุดรัฐประหาร

TODAY Bizview

SET ทำเงินยังไง? เจาะรายได้-กำไรตลาดหุ้นไทยปีละพันล้านแบบเข้าใจง่าย

TODAY Bizview
ดูเพิ่ม
Loading...