กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ แถลงความพร้อม ม็อบ 28 มิ.ย. ไล่ "นายกฯ" พ้นตำแหน่ง

กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ แถลงความพร้อม ม็อบ 28 มิ.ย. นี้ ไล่นายกฯ พ้นตำแหน่ง ปมคลิปเสียง-ทองคำ-ดีลลับเขย่าชาติ เผย งานนี้ จับตาม้วนเดียวจบ!

วันที่ 27 มิ.ย. 2568 ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ , นายนิติธร ล้ำเหลือ , นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , นายพิชิต ไชยมงคล และแกนนำคนอื่นๆ กว่า 40 คน ร่วมกันแถลงข่าว ในการเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วันพรุ่งนี้ 28 มิ.ย. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการขับไล่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางข้อกล่าวหารุนแรงถึงการ “ทุจริต-ทรยศต่อแผ่นดิน” และ “แบล็คเมลทางการเมือง” ระหว่างตระกูลชินวัตรกับผู้นำกัมพูชาวนมาก และมาถึงตอนเช้า กิจกรรมจะมีตั้งแต่ 10.00 น.เป็นต้นไป ทั้งทำบุญ และเปิดเวทีปราศรัย พร้อมแนะนำให้เดินทางมาด้วยรถสาธารณะ

ทั้งนี้ทาง กลุ่มได้มีการประสานกับกทม.และตำรวจ ถือว่าการชุมนุมตอนนี้มีความพร้อมแล้ว และการจัดตั้งการ์ดจะร่วมกับทางตำรวจด้วย

ด้าน นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีความพร้อมทั้งด้านกำลังคนและงบประมาณ โดยระบุว่าเงินบริจาคจากประชาชนทั่วประเทศเพียงพอสำหรับการจัดกิจกรรม โดยหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะมอบส่วนหนึ่งให้กับกองทัพภาคที่ 2 มากกว่า 20 ล้านบาท เพื่อ “เสริมศักยภาพกองทัพในการปกป้องอธิปไตย”

“ แม้ผู้เข้าร่วมจะมาจากหลากหลายกลุ่มความเชื่อและประสบการณ์ในอดีต แต่วันนี้เป้าหมายเดียวของเราคือการปกป้องแผ่นดิน บูรณภาพแห่งดินแดน และสร้างความสามัคคีในชาติ ” นายปานเทพกล่าว

ขณะที่นายจตุพร ‘เดินหน้าเปิดโปง’ ขบวนการฟอกเงิน-แบล็คเมลระดับชาติ เชื่อ ทองคำ 27,000 ล้านซุกในกัมพูชา

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า ตนได้รับข้อมูลจากผู้นำระดับสูงว่า มีความเคลื่อนไหวจากผู้มีอำนาจบางกลุ่มที่ต้องการใช้มวลชนแฝงตัวเป็นนักเลงหัวไม้เข้าก่อกวนการชุมนุม โดยมีเจ้าหน้าที่บางคนในฝ่ายความมั่นคงให้การสนับสนุนลับ ๆ จึงได้ทำการแจ้งเตือนให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว ซึ่งเขายืนยันว่า “ได้หยุดไปเป็นจำนวนมาก”

นายจตุพร ยังได้เปิดเผยข้อมูลที่เขาเรียกว่า “ลับระดับชาติ” โดยกล่าวหา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า มีการลักลอบนำทองคำมูลค่ากว่า 27,000 ล้านบาทไปเก็บไว้ในประเทศกัมพูชา เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและฟอกเงิน โดยมีบุคคลต่างชาติที่เชี่ยวชาญด้านการฟอกเงินคอยให้การช่วยเหลือ ซึ่งบุคคลดังกล่าวยังเคยถูกออกหมายจับในหลายประเทศ และปัจจุบันอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลสำคัญในพรรคเพื่อไทยเดิม

“ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ปัญหาชายแดนช่องบก แต่มีเบื้องหลังเรื่องผลประโยชน์และความมั่นคงระดับชาติ คลิปเสียงที่หลุดออกมา ไม่ได้มีแค่เรื่องดินแดน แต่ยังมีดีลลับที่อาจทำให้ประเทศกลายเป็นเมืองขึ้นกัมพูชา ” นายจตุพร กล่าว

กิจกรรมในวันที่ 28 มิถุนายน จะเริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. ด้วยพิธีสงฆ์ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับทหารผ่านศึกที่จารึกชื่อไว้ในอนุสาวรีย์ รวมถึงผู้ที่สละชีพในสมรภูมิต่าง ๆ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากนั้นจะเริ่มการปราศรัยใหญ่ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ไปจนถึง 21.00 น.

นายจตุพร กล่าวว่า ตนเคลื่อนไหวเพราะเห็นว่านายกรัฐมนตรีขาดความกระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงที่ชายแดน โดยเฉพาะเหตุปะทะที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ซึ่งในขณะที่ชายแดนระอุ น.ส.แพทองธารกลับเลือกไปตรวจราชการที่ จ.สุรินทร์ และกาญจนบุรีแทน

นายกฯ ควรเรียกประชุม ครม. หรือฝ่ายความมั่นคงทันที แต่กลับนิ่งเฉยราวกับไม่เข้าใจสถานการณ์ คลิปเสียงกับสมเด็จฮุนเซนก็ชัดเจนว่า ไม่ใช่แค่เรื่องอาณาเขต แต่มีการตกลงบางอย่างที่สะเทือนถึงความมั่นคงของชาติ นายจตุพร ยังตั้งข้อสังเกตต่อความเงียบของรัฐบาลต่อการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและการควบคุมข้อมูล ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นความพยายาม “ตบตาประชาชน”

ส่วน ‘นายประพันธ์-นายสมชาย’ เสริมหนัก จี้ศาลรับคำร้องหยุด “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้นายกฯ

นายประพันธ์ คูณมี อดีต สว. กล่าวถึง คลิปเสียงที่หลุดว่า เป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยกำลังถูก “จับเป็นตัวประกันทางการเมือง” โดยระบุว่า สมเด็จฮุนเซนใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวกับอดีตนายกฯ และนายกฯ คนปัจจุบันเป็นเครื่องต่อรองผลประโยชน์

คนสองคนนี้ (ทักษิณและแพทองธาร) เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการปกป้องแผ่นดิน หากยังอยู่ ประเทศไทยจะตกเป็นหลักประกันของต่างชาติ กลายเป็นโฉนดที่เอาไปจำนอง นายประพันธ์ ระบุ พร้อมเรียกร้องให้ผู้นำกัมพูชาเปิดเผยข้อมูลเบื้องหลังเกี่ยวกับคาสิโนชายแดนและการฟอกเงินอย่างชัดเจน

ด้านนายสมชาย แสวงการ อดีต ส.ว. กล่าวว่า วันชุมนุม 28 มิ.ย. อาจเป็น “ม้วนเดียวจบ” เนื่องจากวันที่ 1 ก.ค. ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้องของ ส.ว. ชุดใหม่ ที่ยื่นให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่ จากกรณีคลิปเสียงหลุดดังกล่าว

หากศาลรับคำร้อง นายกฯ ต้องหยุดหน้าที่ทันที ตามแบบเดียวกับที่นายเศรษฐา ทวีสิน เคยถูกวินิจฉัยไว้แล้ว จึงไม่มีข้ออ้างที่จะไม่พิจารณา เพราะเรื่องร้ายแรงเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ

นายสมชาย ยังแสดงความกังวลต่อความสามารถของนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวว่า น.ส.แพทองธารขาดทั้งความรู้และประสบการณ์ แต่กลับควบคุมตำแหน่งสำคัญของความมั่นคงหลายตำแหน่ง เช่น ประธาน สมช., ผอ.กอ.รมน., ประธาน ก.ตร. และหัวหน้า ครม. จึงไม่อาจปล่อยให้อยู่แม้แต่วันเดียว เพราะความลับของชาติอาจรั่วไหลไปถึงต่างชาติ

แกนนำทั้งหมดเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกทันที และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากรัฐบาลชุดนี้ โดยชี้ว่ามีเพียงพรรคภูมิใจไทยเท่านั้นที่แสดงท่าทีจะถอยห่าง ส่วนพรรคอื่นยังคงสนับสนุน จึงเหลือเพียงข้อเรียกร้องสุดท้ายคือ “การปกป้องอธิปไตย” โดยย้ำว่า ถึงแม้ขณะนี้จะยังไม่เสียแผ่นดินอย่างเป็นทางการ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการถูกบ่อนทำลายจากภายใน

“ หากฮุนเซนยังไม่เปิดข้อมูล เราเชื่อว่าเขาจะใช้คลิปเสียงข่มขู่รัฐบาลนี้ต่อไป ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยไม่ต่างจากเมืองขึ้นของกัมพูชา ” จตุพร ทิ้งท้าย