โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

จุลพันธ์ ชี้การเมืองไม่ถึง "ทางตัน" มั่นใจงบ 1.15 แสนล.ดัน GDP โตเกิน 2%

PostToday

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "เชื่อมั่นประเทศไทย : โจทย์ใหญ่รัฐบาล?" โดยยืนยันว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราว แต่กลไกรัฐธรรมนูญยังทำหน้าที่ได้เต็มที่ และสถานการณ์ในขณะนี้ "ไม่ใช่ทางตันทางการเมือง" อย่างที่หลายฝ่ายกังวล

การขับเคลื่อนประเทศต้องอาศัย ความเชื่อมั่น เป็นพื้นฐาน และเรายังเดินต่อได้ เพราะกลไกรัฐธรรมนูญไม่ได้หยุดอยู่ตรงนี้ โดยคณะรัฐมนตรียังทำงานได้เต็มที่ โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่รักษาการแทน และสามารถบริหารงานต่อได้ตามปกติ

ขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์ใดที่บ่งชี้ว่าเป็นภาวะทางตันจริง เพราะรัฐธรรมนูญยังมีช่องทางรองรับ เช่น หากศาลมีคำวินิจฉัยออกมาในทางลบ พรรคเพื่อไทยก็ยังสามารถเสนอชื่อบุคคลอื่นที่อยู่ในบัญชารายชื่อนายกรัฐมนตรี เช่น นายชัยเกษม นิติสิริ เข้าสู่กระบวนการโหวตได้ตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน

นายจุลพันธ์ยังกล่าวด้วยว่า แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากบางฝ่ายให้ตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ หรือสลับขั้วทางการเมือง แต่รัฐบาลยังมีเสียงเกินครึ่งในสภาผู้แทนราษฎร และสามารถบริหารประเทศได้โดยไม่ต้องพึ่งพาฝ่ายค้าน วันนี้เรายังไม่มีเหตุการณ์ใดที่ต้องนำไปสู่การยุบสภาหรือเปลี่ยนแปลงขั้วการเมือง สิ่งสำคัญคือต้องไม่ปล่อยมือจากพวงมาลัย เพราะปัญหาประชาชนยังรอการแก้ไข

แม้สถานการณ์ทางการเมืองจะมีความไม่แน่นอน แต่สิ่งที่นายจุลพันธ์เน้นย้ำคือ การเดินหน้าเศรษฐกิจยังคงเป็นภารกิจหลักของรัฐบาลในเวลานี้ โดยยืนยันว่า รัฐบาลยังตั้งเป้าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้ไว้ที่ 5% แม้จะยอมรับว่า เป็นเป้าหมายที่ท้าทาย และมีโอกาสยากที่จะบรรลุผลเต็ม 100% หากถ้าได้ถึง 2% ก็ดีแล้ว อย่างน้อยเรายังพยายามขับเคลื่อน นโยบายยังไม่หยุด

พร้อมกันนี้ชี้ว่า งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 115,000 ล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีไปแล้ว จะนำไปใช้ในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ระบบน้ำ และสาธารณูปโภคพื้นฐาน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80–90% ของงบทั้งหมด ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการจ้างงานในระดับท้องถิ่น และช่วยเพิ่มการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

ขณะนี้ยังไม่มีเหตุการณ์ใดที่บ่งชี้ว่าเป็นภาวะทางตันจริง เพราะรัฐธรรมนูญยังมีช่องทางรองรับ เช่น หากศาลมีคำวินิจฉัยออกมาในทางลบ พรรคเพื่อไทยก็ยังสามารถเสนอชื่อบุคคลอื่นที่อยู่ในบัญชารายชื่อนายกรัฐมนตรี เช่น นายชัยเกษม นิติสิริ เข้าสู่กระบวนการโหวตได้ตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน

นายจุลพันธ์ยังกล่าวด้วยว่า แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากบางฝ่ายให้ตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจ หรือสลับขั้วทางการเมือง แต่รัฐบาลยังมีเสียงเกินครึ่งในสภาผู้แทนราษฎร และสามารถบริหารประเทศได้โดยไม่ต้องพึ่งพาฝ่ายค้าน วันนี้เรายังไม่มีเหตุการณ์ใดที่ต้องนำไปสู่การยุบสภาหรือเปลี่ยนแปลงขั้วการเมือง สิ่งสำคัญคือต้องไม่ปล่อยมือจากพวงมาลัย เพราะปัญหาประชาชนยังรอการแก้ไข

แม้สถานการณ์ทางการเมืองจะมีความไม่แน่นอน แต่สิ่งที่นายจุลพันธ์เน้นย้ำคือ การเดินหน้าเศรษฐกิจยังคงเป็นภารกิจหลักของรัฐบาลในเวลานี้ โดยยืนยันว่า รัฐบาลยังตั้งเป้าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ปีนี้ไว้ที่ 5% แม้จะยอมรับว่า “เป็นเป้าหมายที่ท้าทาย” และมีโอกาสยากที่จะบรรลุผลเต็ม 100% หากถ้าได้ถึง 2% ก็ดีแล้ว อย่างน้อยเรายังพยายามขับเคลื่อน นโยบายยังไม่หยุด

พร้อมกันนี้ชี้ว่า งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 115,000 ล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีไปแล้ว จะนำไปใช้ในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ระบบน้ำ และสาธารณูปโภคพื้นฐาน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80–90% ของงบทั้งหมด ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการจ้างงานในระดับท้องถิ่น และช่วยเพิ่มการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PostToday

ThaiBMA หั่นเป้ายอดออกหุ้นกู้ปี 68 เหลือ 8 แสนล้าน ครึ่งหลังยังน่ากังวล

24 นาทีที่แล้ว

ด่วน! เจรจาภาษีไทย-สหรัฐยังปิดดีลไม่ได้ เตรียมยื่นข้อเสนอใหม่ก่อนเส้นตาย

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ถ่ายทอดสด มวย วัน ลุมพินี 115 ONE Championship วันนี้ 4 ก.ค.68

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เปิดภาพ กรมการปกครอง จับ "บ่อนสะพานใหม่" รวบนักพนันกว่า 60 คน

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าว ธุรกิจ-เศรษฐกิจ อื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...