เจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ เผ่นหนี เช้ามืด หลังคณะสงฆ์สั่งปลด ยักยอกเงินวัด 28 ล้านบ.
เจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ เผ่นหนี ช่วงเช้ามืด หลังคณะสงฆ์สั่งปลดฐานยักยอกเงินวัด28ล้าน
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดประชุมราษฎร์ ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา ไม่มีนักแสวงบุญ หรือนักเสี่ยงโชคเข้ามากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดแต่อย่างใด หลังตกเป็นข่าวดังกรณีเจ้าอาวาสวัดยักยอกเงินเกือบ 30 ล้านบาทไปก่อนหน้านี้
จากการสอบถามคุณลุงหม่อง เจ้าของร้านกาแฟที่ขายอยู่ในวัด บอกว่าไม่มีคนเข้ามากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเลย เงียบเหงามาก แม้วันนี้จะเป็นวันหวยออกก็ตามคนยังไม่มีเลย ซึ่งผิดปกติ จะมีคนเข้ามากราบไหว้เป็นจำนวนมาก ร้านค้าแต่ละร้านต่างขายดีแต่นี่กลับเงียบเหงา จึงอยากวอนชาวบ้านว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับวัด ขอให้คนเข้ามาทำบุญในวัดเหมือนเดิม
นายกวี ไทยสมัคร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 กล่าวว่า มีชาวบ้านได้แจ้งตนมาว่าท่านเจ้าอาวาสไม่อยู่แล้ว จึงเข้ามาดูพร้อมชาวบ้าน โดยได้ตั้งข้อสงสัยว่าท่านไปไหน แต่เห็นพระลูกวัดแจ้งว่าท่านเจ้าอาวาสได้นำพัดยศที่ท่านได้เลื่อนสมณศักดิ์นำติดตัวไปด้วย จึงตั้งข้อสงสัยว่าท่านไปไหนทำไมไม่แจ้งพระลูกวัดและชาวบ้าน
พระครูปลัดวรเชษฐ์ สุรเตโช พระลูกวัดประชุมราษฎร์ กล่าวว่า ท่านเจ้าอาวาสได้ออกจากวัดไปตั้งแต่เช้ามืดโดยไม่บอกกับพระลูกวัดแต่อย่างใด มีเพียงคนขับรถของท่านมาแจ้งว่าท่านจะเดินทางกลับบ้านเพียงเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินข้าวของต่างๆ อาตมาก็ไม่ทราบว่าขนไปด้วยหรือไม่ เพราะไม่มีคนเห็น
ด้านพระครูโสภณภัทรเวทย์ ดร. เจ้าคณะอำเภอลำลูกกา กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวอาตมาได้เร่งรัดในการสอบสวน พบว่า พระครูไพโรจน์ธรรมคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ มีความผิดจริง ทางคณะสงฆ์จึงได้มีหนังสือสั่งปลดจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ ลงนามโดยพระราชสุทธิธรรมาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี
ซึ่งพระครูไพโรจน์ธรรมคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ นั้นปฏิบัติหน้าที่ผิดจริยาพระสังฆาธิการและบกพร่องต่อหน้าที่ หย่อนความสามารถในการบริหารจัดการจนทำความเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงต่อคณะสงฆ์ จึงอาศัยมาตราข้อที่ 55 (4) ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ว่าด้วยการแต่งตั้งและถอดถอน
จากการสอบสวนเงินที่หายไปทราบว่าเป็นจำนวนเงิน 28 ล้าน ที่เป็นเงินบริหารค่าเช่าของเคหะชุมชนวัดประชุมราษฎร์ใน 28 ปีที่ผ่านมา โดยอดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ได้ชี้แจงกับอาตมาว่าค่าเช่าในเคหะวัดประชุมราษฎร์หายไปไม่ถึง 28 ล้าน เพราะเก็บค่าเช่าได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะคนที่อาศัยอยู่ในชุมชนฐานะไม่ดี อีกทั้งเงินปัจจัยที่ได้มาทั้งหมดในสมัยเป็นเจ้าอาวาส เงินปัจจัยที่ได้มาก็ใช้ไป เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบริหารจัดการภายในวัดและบูรณปฏิสังขรณ์ภายในวัด ซึ่งอาตมาดูแล้วมันไม่มีอะไรที่ชัดเจน ทั้งเอกสารและบิลต่างๆ ไม่สามารถนำมายืนยันได้
ส่วนในด้านคดีทางคณะสงฆ์จะดำเนินการตรวจสอบต่อไปว่าสิ่งต่างๆ ที่ท่านบริหารภายในวัด ทรัพย์สินและเงินทองวัดเหลือจำนวนเท่าไหร่ ก็ต้องเข้าไปตรวจสอบเรื่องบัญชีวัด พื้นที่ธรณีสงฆ์ว่ามีการยักยอกไปหรือไม่ ก็จะออกมาชี้แจงอีกครั้งว่าเป็นอย่างไร โดยหากมีการยักยอกทรัพย์สินของวัดไปก็จะมีความผิดทางอาญา ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับญาติโยมที่ไปแจ้งความดำเนินคดีเอาไว้
ทั้งนี้ทราบว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่วัดแล้ว และก็ไม่ทราบว่าท่านย้ายไปอยู่ที่วัดไหน ซึ่งอาตมาคิดว่าหากท่านจะกลับมาอยู่ที่วัดประชุมราษฎร์ในฐานะพระลูกวัดอีก คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะว่าพระต้องมีหิริโอตตัปปะ เพราะต้องมีความละอายที่ต้องกลับมาอยู่ที่วัด อาตมาติดว่าท่านคงไปอยู่ที่วัดอื่นที่ท่านรู้จักมากกว่า
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เจ้าอาวาสวัดประชุมราษฎร์ เผ่นหนี เช้ามืด หลังคณะสงฆ์สั่งปลด ยักยอกเงินวัด 28 ล้านบ.
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th