สุดสลด พ่อใจเหี้ยม ปลิดชีพลูกนักกีฬา เพียงแค่อายที่ลูกหาเงินเก่งกว่า (ตปท.)
เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา สํานักงานข่าวต่างประเทศ Times of India รายงานข่าวสะเทือนใจชาวอินเดีย เมื่อนักเทนนิสหญิงหน้าตาดีและมีชื่อเสียง รติกา ยาดาฟ วัย 25 ปี ถูกฆาตกรรมในบ้านพักที่เมืองกูรูกรัม ใกล้กรุงนิวเดลี โดยคนร้ายคือ ดีปัก ยาดาฟ พ่อแท้ๆ ของเธอเอง ซึ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกโม่ .32 ยิงลูกสาวจากด้านหลัง 4 นัด ขณะกำลังทำอาหารให้แม่ที่ป่วย
รติกาเป็นนักกีฬาเทนนิสหญิงที่เคยมีอันดับสูงสุดในประเภทหญิงคู่ของ ITF ถึงอันดับ 113 ของโลก และเคยเป็นดาวรุ่งระดับท็อป 20 ของอินเดียในรุ่นเยาวชน u-16 แม้ต้องเลิกเส้นทางนักกีฬาระดับโลกเพราะบาดเจ็บที่ไหล่ แต่เธอผันตัวมาเป็นโค้ชสอนเทนนิสให้เด็กๆ ในชุมชน และสร้างคอนเทนต์ลงอินสตาแกรมจนมีผู้ติดตามจำนวนมาก นอกจากนี้ เธอเคยรับบทนางเอกในมิวสิควิดีโอเพลง คาร์วาน ของศิลปิน อินาม อุลฮัค
วันเกิดเหตุ ดีปักเปลี่ยนหน้าที่ให้ลูกชายออกไปซื้อนมแทนตนเองเพื่อให้ลูกสาวอยู่บ้านเพียงลำพัง จากนั้นเข้าไปก่อเหตุในครัว น้าชายที่ได้ยินเสียงปืนรีบพารติกาไปโรงพยาบาลมาเรงโก้ เอเชีย แต่ไม่ทันการณ์ รติกาเสียชีวิตเพราะบาดแผลสาหัส ตำรวจจับกุมผู้เป็นพ่อทันทีพร้อมอาวุธปืนและหลักฐานชัดเจน
แรงจูงใจของดีปักที่สารภาพกับตำรวจคือความอับอายที่ถูกชาวบ้านเยาะเย้ยว่าเป็นผู้ชายแต่กลับต้องพึ่งพารายได้จากลูกสาว อีกทั้งไม่พอใจที่รติกาไปเล่นมิวสิควิดีโอที่มีฉากกอดกับนักแสดงชายซึ่งเป็นชาวมุสลิม และยังคงยืนยันจะเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์และโค้ชเทนนิส แม้เขาจะสั่งให้เลิกทำเพราะทำให้ครอบครัวโดนดูถูก
แม้ดีปักไม่ได้มีฐานะยากจน แต่เขายืนยันว่าการที่ลูกสาวไม่ยอมเชื่อฟังและยังสามารถเลี้ยงตัวเองได้ กระทบต่อ ศักดิ์ศร ในฐานะผู้เป็นพ่ออย่างรุนแรง จนเกิดการทะเลาะกันหลายวัน สุดท้ายรติกายอมลบอินสตาแกรม แต่ปฏิเสธจะเลิกสอนเทนนิส ทำให้เขาตัดสินใจฆ่าเธอ
คดีนี้สร้างความสะเทือนใจและตอกย้ำปัญหาความรุนแรงต่อผู้หญิงในอินเดียอีกครั้ง ซึ่งในปี 2018 ผลสำรวจของสถาบันทอมสันรอยเตอร์ชี้ว่า อินเดียเป็นประเทศที่อันตรายต่อผู้หญิงมากที่สุดในโลก เหนือกว่าอัฟกานิสถานและซีเรีย ทั้งที่โลกพัฒนาไปไกลแล้ว แต่แนวคิดกดขี่ผู้หญิงยังคงฝังรากลึกในบางพื้นที่จนเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า