"สุชาติ"เร่งคลอด พ.ร.บ.สงฆ์ เพิ่มโทษ "พระนอกรีต" ทั้งจำ-ปรับ
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ซึ่งมีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากระทู้ถาม เรื่องวิกฤติศรัทธาในพุทธศาสนา พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่มั่วสีกา ทำลายศรัทธาของชาวไทยพุทธ ของนายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สว. ที่ถามนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบกระทู้แทน
นายปริญญาเปิดฉากตั้งคำถามอย่างดุเดือดถึงสถานการณ์วิกฤติศรัทธาในวงการพุทธศาสนาของไทย โดยระบุว่าจากเดิมที่เคยเห็นแต่พระลูกวัดมั่วสีกา หรือเสพยา วันนี้กลับพบว่าพระชั้นผู้ใหญ่ไปจนถึงระดับราชาคณะมีพฤติกรรมเลวทราม ทำลายศาสนาอย่างร้ายแรง และทำลายความรู้สึกของคนไทยเป็นอย่างมาก
"ตอนนี้มีสีกาชื่อดัง คือ สีกากอล์ฟ ตนอยากได้สีกากอล์ฟแบบนี้อีก 100 คน เพื่อมาขุดพระเลวๆ พระชั่วๆ จะได้รื้อศาสนาให้กลับมาดีได้อีกครั้งหนึ่ง" นายปริญญากล่าวอย่างเผ็ดร้อน และตั้งข้อสังเกตว่า "พวกเรากราบแทบตาย กราบเท้าท่าน แต่วันนี้ท่านไปกราบตีนเมียเรียบร้อยแล้ว สภาพที่เห็นทำร้ายจิตใจพี่น้องชาวไทยพุทธแค่ไหนที่เราอุตส่าห์ไว้ใจในศาสนา สิ่งที่เราสังเกตเห็นเวลานี้ผู้หญิงเขาไม่ไปอาเสี่ยแล้ว เขามาหาเจ้าอาวาสดีกว่ารวยกว่าเสี่ยเป็นไหนๆ ทุกวันนี้เรามีพระดีแค่พระพุทธรูปเท่านั้น"
นายปริญญาจึงได้ซักถามรัฐบาลถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. แผนการแก้ไขปัญหาร่วมกับมหาเถรสมาคม 2. การดำเนินคดีกับ "สมี" ที่มีเพศสัมพันธ์และยักยอกเงิน 3. แผนการตรวจสอบเงินวัดอย่างจริงจังในอนาคต และ 4. การผลักดัน พ.ร.บ.คุ้มครองพระพุทธศาสนา เพื่อกำหนดโทษอาญาจำคุกสำหรับพระที่กระทำความผิดและทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย
ด้าน นายสุชาติ ตันเจริญ ได้ชี้แจงถึงปัญหาในวงการสงฆ์ว่าเป็นเรื่องที่สะเทือนใจและสร้างความเสื่อมเสียอย่างมาก แต่ไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้มีคนแบบ "สีกากอล์ฟ" เยอะๆ เพื่อปราบปรามพระไม่ดี เพราะจะยิ่งทำให้เสื่อมเสียมากยิ่งขึ้น โดยย้ำว่าต้องแยกแยะระหว่างศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า กับพฤติกรรมของพระสงฆ์แต่ละบุคคล
นายสุชาติเผยว่า ได้ให้นโยบายกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้ทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยให้ไปหาข้อมูลข่าวสารจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชาวบ้านในพื้นที่ เนื่องจากชาวบ้านมักจะรู้เห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ เช่น การยักยอกเงินวัด หรือการเสพเมถุน แต่ พศ. กลับไม่รับรู้
สำหรับมาตรการควบคุมพระสงฆ์ นายสุชาติระบุว่าเป็นการดำเนินการของมหาเถรสมาคม แต่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายใดเอาผิดพระภิกษุสงฆ์ที่เสพเมถุน หรือแม้แต่สีกาที่ร่วมกระทำผิดได้โดยตรง ดังนั้น จึงต้องเร่ง ร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ โดยด่วน เพื่อเพิ่มโทษพระที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยให้ถึงขั้นจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ ในอัตราหลายหมื่นบาทถึงหลักแสนบาท ส่วนสีกาหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่อลวง หรือข่มขู่ ก็จะสามารถเอาผิดตามกฎหมายอาญาอื่น ๆ ได้
นายสุชาติกล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ได้เริ่มร่างกฎหมายแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเสนอแก้ไขกฎหมายได้ภายใน 3-4 เดือน โดยอาจรวมถึงการเอาผิดเรื่องการเรี่ยไรหรือการบริจาคด้วย ซึ่งในส่วนของการบริจาคเงินให้วัดนั้น มหาเถรสมาคมได้ออกเป็นกฎกระทรวงแล้ว และจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นี้ โดยกำหนดให้ทุกวัดที่มีเงินบริจาคต้องนำเงินเข้าบัญชีธนาคารในพื้นที่ที่วัดตั้งอยู่ และวัดห้ามถือเงินสดเกิน 1 แสนบาท รวมถึงต้องมีการจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาไปได้ส่วนหนึ่ง