ศาลสั่งจำคุกหนุ่มโรคจิตอ้าง “คลายเครียด” แอบเข้าบ้านไปเจาะเลือดหญิงสาว
วันนี้ (28 ส.ค. 2568) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกรณีชายชาวจีนโดนตัดสินโทษจำคุกสองปี หลังจากบุกรุกบ้านหญิงสาวคนหนึ่ง จากนั้นก็วางยาสลบและเจาะเลือดเธอโดยอ้างว่าทำไปเพื่อ “คลายเครียด”
การกระทำของเขาที่ก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความไม่พอใจบนโลกโซเชียลมีเดียของจีนนี้เกิดขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 1 มกราคม 2567 เมื่อชายที่ระบุเพียงชื่อสกุลว่า “หลี่” บุกเข้าไปในบ้านของหญิงคนหนึ่งซึ่งระบุเพียงชื่อสกุลว่า “อวี้” ในเมืองหยางโจว มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน
ขณะนั้น อวี้กำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอน ส่วนสามีของเธอไม่อยู่บ้าน หลี่เข้าไปในบ้านของเธอได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ผลักประตูเปิดออก เมื่อเขาพบอวี้ก็ใช้ผ้าสีดำโปะยาสลบเธอ จากนั้นจึงเจาะเลือดจากแขนของเหยื่อสาว
แต่เหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวนี้ก็โดนขัดจังหวะ เมื่อสามีของอวี้เกิดกลับมาถึงบ้านโดยไม่มีใครคาดคิด รายงานข่าวระบุว่า สามีของเธอใช้กาต้มน้ำฟาดหลี่ ทำให้ผู้บุกรุกรีบหลบหนีไป
หลังจากฟื้นคืนสติ อวี้กล่าวว่า “ฉันเจอสายรัดบนเตียง ซึ่งเป็นแบบที่ใช้ในโรงพยาบาลสำหรับเจาะเลือด ฉันยังรู้สึกเจ็บที่แขนซ้าย มีรอยเข็มและคราบเลือดด้วย”
รายงานนิติวิทยาศาสตร์จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ของสำนักงานความมั่นคงสาธารณะหยางโจว ระบุว่า พบร่องรอยของยาสลบเซโวฟลูเรนและไอโซฟลูเรนบนผ้าสีดำที่หลี่ทิ้งไว้
เพื่อนบ้านซึ่งระบุเพียงชื่อสกุลว่า “สวี่” กล่าวว่าหลังจากรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่ที่หวาดกลัวได้พากันติดตั้งกล้องวงจรปิดตามบ้าน
เมื่อนายหลี่โดนส่งตัวขึ้นศาล เขาอ้างว่าการกระทำของเขามีจุดประสงค์เพื่อ “คลายเครียด”
“ผมแค่ชอบแอบเข้าไปในบ้านของคนอื่น มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นและช่วยลดความรู้สึกกดดันของผม” เขากล่าว
ข้อมูลจากบันทึกของศาลระบุว่า หลี่เคยถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานลักทรัพย์ ข่มขืน และบุกรุก เขายังโดนควบคุมตัวทางปกครองในข้อหาละเมิดความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
ในที่สุด หลี่ก็ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานบุกรุกเข้าไปในที่พักอาศัยโดยมิชอบด้วยกฎหมายและต้องรับโทษจำคุกสองปี
หลังจากสำนักข่าวเรดสตาร์ นิวส์รายงานข่าวนี้ก็ได้ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทางออนไลน์ มีชาวเน็ตรายหนึ่งแสดงความเห็นว่า “เรื่องนี้น่าสะพรึงกลัวมาก เขาได้ยาสลบมาจากไหน? เขาเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร? ยิ่งคิดถึงความผิดของเขามากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นเท่านั้น”
ส่วนชาวเน็ตอีกรายแสดงความเห็นว่า “การกระทำของเขามีการวางแผนไว้อย่างชัดเจน แล้วแบบนี้จะไม่ถือว่าเป็นการทำร้ายร่างกายโดยเจตนาได้อย่างไร? เหยื่อไม่ได้รับบาดแผลทางร่างกายหรือจิตใจเลยหรือไร? พฤติกรรมของเขายังไม่ถือว่ามีความอาฆาตมาดร้ายมากพออีกหรือ?
“ชายคนนี้มีประวัติอาชญากรรมข้อหาลักทรัพย์และข่มขืนด้วย ได้มีการนำเรื่องทั้งหมดนี้มาพิจารณาก่อนที่จะตัดสินจำคุกเขาเพียงสองปีหรือไม่? ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขามีโอกาสก่ออาชญากรรมซ้ำอีกหลายครั้ง ฉันพูดไม่ออกเลย”
ที่มา : scmp.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES