ตลาดหุ้นเอเชีย ปิดสวนทางกัน จีน-ฮ่องกงบวกแรงรับความหวังรัฐบาล ขณะนิกเกอิ-KOSPI ร่วงหนักจากแรงเทขาย
ตลาดหุ้นเอเชีย วันนี้ (20 ส.ค.) ปิดตลาดในทิศทางที่สวนทางกัน โดยตลาดจีนและฮ่องกงปรับตัวขึ้นจากความหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญจากแรงเทขาย
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุน เทขายหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีอย่างรุนแรง ท่ามกลางความกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจมีบทบาทมากขึ้นในอุตสาหกรรมชิป อีกทั้งยังเป็นการขายทำกำไรหลังจากราคาหุ้นกลุ่มนี้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- ดัชนีนิกเกอิ 225 ปิดที่ 42,888.55 จุด ลดลง 657.74 จุด หรือ -1.51%
ตลาดหุ้นจีนปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% โดยสามารถแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ได้สำเร็จหลังธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติ คงอัตราดอกเบี้ย LPR ไว้ตามคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อรับมือกับข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง
- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ปิดที่ 3,766.21 จุด เพิ่มขึ้น 38.92 จุด หรือ +1.04%
ตลาดฮ่องกงดีดตัวขึ้น หลังจากปิดลบติดต่อกัน 4 วัน โดยได้รับแรงหนุนจาก การคงอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน ซึ่งทำให้ตลาดมีความหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม นอกจากนี้ หุ้นรายตัวยังปรับขึ้นโดดเด่นจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
- ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดที่ 25,165.94 จุด เพิ่มขึ้น 43.04 จุด หรือ +0.17%
ดัชนี KOSPI ปิดลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงกดดันจากการ เทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ตามทิศทางตลาดสหรัฐฯ หลังจาก ซีอีโอของ OpenAI ออกมาเตือนถึงภาวะฟองสบู่ในตลาด AI นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาการประชุมประจำปีของ Fed ที่แจ็กสัน โฮล อย่างใกล้ชิด
- ดัชนี KOSPI ปิดที่ 3,130.09 จุด ลดลง 21.47 จุด หรือ -0.68%