โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

หมอเมืองนอกเผย สัญญาณที่มองเห็นได้ของ "มะเร็งตับอ่อน" แต่หลายคนมักมองข้าม

sanook.com

เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Sanook
การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังลักษณะนี้ อาจเป็นสัญญาณของหนึ่งในมะเร็งที่ร้ายแรงที่สุด

การเปลี่ยนแปลงของผิวหนังลักษณะนี้ อาจเป็นสัญญาณของหนึ่งในมะเร็งที่ร้ายแรงที่สุด

มะเร็งตับอ่อนเป็นโรคที่ลุกลามรวดเร็ว เกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเซลล์ในตับอ่อน ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญที่มีบทบาทในการย่อยอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

มะเร็งตับอ่อนถือเป็นหนึ่งในมะเร็งที่ร้ายแรงที่สุด โดยทั่วไปมีผู้ป่วยเพียง 13% เท่านั้นที่มีชีวิตอยู่ได้เกิน 5 ปีหลังจากได้รับการวินิจฉัย เนื่องจากตรวจพบได้ยากในระยะแรกเริ่ม

ดร.ไดแอน ซิเมโอเน ผู้อำนวยการศูนย์มะเร็งมูร์ส (Moores Cancer Center) ที่ UC San Diego Health และเป็นผู้ก่อตั้งโครงการ Pancreatic Cancer Early Detection (PRECEDE) Consortium อธิบายกับ The Post ว่า

“ตับอ่อนเป็นอวัยวะที่อยู่ลึกในช่องท้อง อาการเริ่มต้น เช่น ปวดหลัง อ่อนเพลีย น้ำหนักลด หรือแน่นท้อง มักไม่ชัดเจนและมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโรคเล็กน้อยอื่น ๆ”

ส่วนอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ถือเป็นสัญญาณที่เด่นชัดกว่าของมะเร็งตับอ่อน ซึ่งดร.ซิเมโอเนชี้ให้เห็นว่า ทำไมผู้ป่วยจำนวนมากจึงมีอาการนี้โดยไม่รู้ตัว และเหตุใดการตรวจคัดกรองจึงมีความสำคัญมาก

ดีซ่านคืออะไร?

ดีซ่านเกิดจากระดับบิลิรูบินในเลือดสูงกว่าปกติ ซึ่งบิลิรูบินเป็นสารสีเหลืองที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายย่อยสลายเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ

โดยปกติ ตับจะทำหน้าที่หลักในการกำจัดบิลิรูบินออกจากร่างกาย

หากมีเนื้องอกไปอุดตันท่อน้ำดีหรือรบกวนการทำงานของตับ ก็จะทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดบิลิรูบินได้ตามปกติ ส่งผลให้สารสีเหลืองนี้สะสมในร่างกาย

อาการสังเกตแรกมักเริ่มจากตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ตามด้วยผิวหนังและเยื่อบุภายในปากที่อาจเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเช่นกัน

ดีซ่านยังอาจทำให้ปัสสาวะมีสีเข้ม อุจจาระซีด และบางรายอาจมีอาการคันหรือปวดท้องร่วมด้วย

ดร.ซิเมโอเนอธิบายว่า “เมื่อมีบิลิรูบินมากเกินไป ไตจะพยายามขับออกทางปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะมีสีเข้ม และเมื่อบิลิรูบินไม่ไปถึงลำไส้ อุจจาระจึงซีดลง”

“อาการคันก็เกิดจากกรดน้ำดีที่ไม่ถูกขับออกตามปกติไปสะสมในผิวหนัง และกระตุ้นปลายประสาท”

ส่วนอาการปวดท้อง อาจมาจากเนื้องอกที่ไปอุดตันท่อน้ำดีโดยตรง

ดีซ่านอาจเป็นสัญญาณของมะเร็งตับอ่อน แล้วอาจบ่งบอกโรคอะไรได้อีก?

ระดับบิลิรูบินที่สูงผิดปกติมักบ่งชี้ว่าตับกำลังมีปัญหา เช่น ตับอักเสบ (hepatitis), ตับแข็ง (cirrhosis) หรือแม้แต่มะเร็งตับ

สาเหตุอื่นที่อาจทำให้เกิดดีซ่าน ได้แก่ นิ่วในท่อน้ำดี โรคเลือดบางชนิด การติดเชื้อจากไวรัสหรือแบคทีเรีย ยาบางประเภท หรือภาวะทางพันธุกรรม โดยทารกแรกเกิดก็อาจมีดีซ่านได้เช่นกัน เนื่องจากตับยังพัฒนาไม่สมบูรณ์

สำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อน ดีซ่านมักเกิดขึ้นเมื่อเนื้องอกอยู่ที่ส่วนหัวของตับอ่อน และไปอุดกั้นท่อน้ำดีส่วนกลาง

การวินิจฉัยมะเร็งตับอ่อนทำอย่างไร?

โดยทั่วไป การตรวจคัดกรองมะเร็งตับอ่อนจะแนะนำสำหรับผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคนี้ ผู้ที่มีการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรมที่เพิ่มความเสี่ยง หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับอ่อน เช่น ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง

วิธีตรวจวินิจฉัย ได้แก่ การทำ MRI, CT Scan และอัลตราซาวนด์ผ่านกล้องส่องภายใน (endoscopic ultrasound) เพื่อดูภาพตับอ่อนและบริเวณโดยรอบว่ามีเนื้องอกหรือไม่

หากพบสิ่งผิดปกติ แพทย์จะเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อหรือเซลล์มาตรวจเพื่อดูว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ และหากใช่ จะประเมินระยะของโรคต่อไป

ดร.ซิเมโอเนอธิบายว่า “มีการตรวจเลือดบางประเภทที่ช่วยในการวินิจฉัย เช่น การตรวจการทำงานของตับ การตรวจเลือดทั่วไป และสารบ่งชี้มะเร็งอย่าง CA 19-9” โดย CA 19-9 คือโปรตีนที่เซลล์มะเร็งตับอ่อนอาจปล่อยออกมาสู่กระแสเลือด

PRECEDE Consortium

“เป้าหมายของโครงการ PRECEDE คือการค้นหาตัวบ่งชี้ระยะเริ่มต้น เช่น การตรวจเลือดที่สามารถตรวจเจอมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรกที่สุด”

ดร.ซิเมโอเน เป็นผู้อำนวยการผู้ก่อตั้งโครงการ PRECEDE ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านการตรวจหามะเร็งตับอ่อนระยะเริ่มต้น โดยกำลังศึกษาในกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงกว่า 9,500 คน เพื่อพัฒนาวิธีตรวจคัดกรองให้แม่นยำยิ่งขึ้น

เป้าหมายของโครงการคือ การเพิ่มอัตราการอยู่รอด 5 ปีของผู้ป่วยจากเดิม 13% ให้สูงขึ้นถึง 50% ผ่านการวิจัยร่วมกัน การกำหนดแนวทางการตรวจคัดกรองให้เป็นมาตรฐาน และการพัฒนาเครื่องมือตรวจหามะเร็งระยะเริ่มต้น

การรักษามะเร็งตับอ่อนทำอย่างไร?

ขึ้นอยู่กับระยะของโรคในขณะที่ตรวจพบ ตัวเลือกในการรักษาอาจประกอบด้วย การผ่าตัด เคมีบำบัด การฉายแสง การรักษาแบบตรงเป้าหมาย ภูมิคุ้มกันบำบัด และการดูแลแบบประคับประคอง

“การผ่าตัดเพื่อนำเนื้องอกออก มักได้ผลดีเฉพาะในระยะที่มะเร็งยังไม่ลุกลาม” ดร.ซิเมโอเนกล่าว

“นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมการตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจึงมีความจำเป็น และเป็นภารกิจหลักของโครงการ PRECEDE”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก sanook.com

ปลา 1 ชนิดที่ถูกยกย่องว่า "ปลาดีที่สุดในโลก" คนไทยรู้จักดี แถมชอบกินกันมาก!

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เศรษฐีวัย 39 อยากแต่งงานกับแอร์ฯ เจอแม่สื่อดึงสติให้เลิกเพ้อฝัน เผยเหตุผลเบื้องหลัง

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม

เศรษฐีวัย 39 อยากแต่งงานกับแอร์ฯ เจอแม่สื่อดึงสติให้เลิกเพ้อฝัน เผยเหตุผลเบื้องหลัง

sanook.com

ชวนรู้จัก รมว.ยุติธรรมเกาหลี สุดฮอต! อวดกล้ามจนเป็นไวรัล ปชช.เรียกร้องให้ใส่แขนสั้น

sanook.com

หญิงกัดลิ้นไอ้หื่นขาด เป็นเหยื่อแต่ติดคุกเพราะป้องกันตัว รอความยุติธรรมนาน 61 ปี!

sanook.com
ดูเพิ่ม
Loading...