โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ครม.รับทราบความคืบหน้าแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท

สวพ.FM91

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ครม.รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท และการใช้วงเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจส่วนที่เหลือ

วันนี้ (วันอังคารที่ 26 สิงหาคม 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท และการใช้วงเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจส่วนที่เหลือ โดยมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 5/2568 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ซึ่งมีความคืบหน้าดังนี้

รายงานความคืบหน้าการขอรับจัดสรรและผลการอนุมัติจัดสรรโครงการ/ รายงานกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการพิจารณาอนุมัติงบประมาณให้หน่วยงานได้รับงบประมาณแล้วทั้งสิ้น 49 หน่วยรับงบประมาณ รวม 8,431 รายการ วงเงินรวม 109,800.17 ล้านบาท โดยพิจารณาตามหลักฐาน และข้อเท็จจริงที่หน่วยงานรับงบประมาณจัดส่งให้ ตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง

รายงานผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการกำกับและติดตาม ผลการดำเนินงานตามแผนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างความเข้มแข็งของระบบเศษฐกิจ พร้อมทั้งเห็นชอบให้ใช้ระบบ DASHBOARD แผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท

การใช้วงเงินงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ส่วนที่เหลือ ประมาณ 26,000 ล้านบาท แต่เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีข้อเสนอโครงการเพื่อขอรับการจัดสรรงบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นช่วงใกล้สิ้นปีงบประมาณ ทั้งนี้เพื่อการใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสอดคล้องกับสถานการณ์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ สามารถโอนงบกลางรายการดังกล่าว ไปเพิ่มในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยเสนอขออนุมัตินายกรัฐมนตรีตามมาตรา 36 พระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561

ทั้งนี้ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในปัจจุบัน ตามพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีจำนวน 96,556.71 ล้านบาท โดยหากมีการโอนงบดังกล่าวมาสมทบ จะทำให้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น มีจำนวน 122,556.71 ล้านบาท

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สวพ.FM91

นราธิวาสป่วน! คนงานเหยียบกับระเบิด เจ็บ 2 ราย ระหว่างช่วยเคลียร์พื้นที่ เหตุคนรัายลอบเผารถบรรทุก

42 นาทีที่แล้ว

รถกระบะเสียหลักหมุน! ถ.ราชพฤกษ์ ขาออก มุ่งหน้า รัตนาธิเบศร์ จนท.เร่งเคลื่อนย้าย รถติดยาว

48 นาทีที่แล้ว

PEA รับเกียรติบัตรจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

51 นาทีที่แล้ว

กปน. พร้อมรับมือแม่น้ำเจ้าพระยาความขุ่นสูง มั่นใจไม่กระทบการผลิตและคุณภาพน้ำประปา

53 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

สภาพัฒน์ ชี้ เอกชนไทย กว่า 25% จ่อปลดพนง.ประจำ-ลดค่าแรง หันจ้างชั่วคราวแทน

MATICHON ONLINE

ดัชนีหุ้นปิดลบ 11.41 จุด ตลาดยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่

เดลินิวส์

CertiK เตือน "สงครามกับแฮกเกอร์คริปโตไม่มีวันจบสิ้น" หลังยอดขโมยพุ่งแตะ 2.5 พันล้านดอลลาร์

Manager Online

หนุนโคราชศูนย์กลางกีฬา-ท่องเที่ยว เปิดสิทธิเที่ยวฟรีผู้ถือบัตรวอลเลย์บอลโลก

ประชาชาติธุรกิจ

จุดต่ำสุดใกล้ผ่านไปแล้ว หุ้นไทยกำลังจะฟื้น คาดสิ้นปีมีลุ้นแตะ 1,280 จุด

TODAY

“ฝ่ายค้าน ฝรั่งเศส” รวมพลังโหวตไม่ไว้วางใจนายกฯ เสี่ยงรัฐบาลล้มกลางกันยายน

การเงินธนาคาร

กฟผ.เปิดขายซองประกวดราคาโซลาร์ทุ่นลอยน้ำเขื่อนศรีนครินทร์

The Better

เปิดโครงสร้าง “ธนาคารกลางสหรัฐ” กับความท้าทายภายใต้ทรัมป์ วาระ 2

การเงินธนาคาร

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...