“ทรัมป์” ขู่เก็บภาษีนำเข้าจากจีน 200% หากไม่ส่งออกแม่เหล็กหายาก
"ทรัมป์" ขู่เก็บภาษีนำเข้าจากจีน 200% หากไม่ส่งออกแม่เหล็กหายาก พร้อมอ้างสหรัฐมีอำนาจต่อรองด้วยการชะลอส่งออกชิ้นส่วนโบอิ้งให้จีน
วันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 09.54 น. สำนักข่าว CNBC รายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวเตือนว่าจะเก็บภาษีศุลกากรจากจีนในอัตราที่สูงขึ้น หากจีนจำกัดการส่งออกแม่เหล็กหายาก (rare-earth magnets) ซึ่งเป็นการคุกคามต่อความเปราะบางของข้อตกลงพักรบทางการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการพบกับประธานาธิบดีเกาหลีใต้ อี แจ มยอง ที่ทำเนียบขาวว่า “จีนจำเป็นต้องส่งแม่เหล็กให้สหรัฐ ถ้าไม่ส่ง เราก็ต้องเก็บภาษี 200% หรืออะไรสักอย่าง”
ทรัมป์ยังระบุว่า ชิ้นส่วนเครื่องบินถือเป็นอาวุธต่อรองสำคัญที่สหรัฐใช้กดดันจีน โดยกล่าวว่า “เครื่องบินของสหรัฐ 200 ลำไม่สามารถบินได้ เพราะสหรัฐไม่ยอมส่งชิ้นส่วนจากโบอิ้งให้ เนื่องจากจีนไม่ยอมส่งแม่เหล็กมาให้”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ขณะนี้โบอิ้งกำลังเดินหน้าเจรจาข้อตกลงขายเครื่องบินมากถึง 500 ลำให้กับจีน โดยทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการหารือรายละเอียดเกี่ยวกับรุ่นเครื่องบิน ประเภท และกำหนดการส่งมอบ ซึ่งตอกย้ำถึงบทบาทของอุตสาหกรรมการบินในฐานะปัจจัยสำคัญของข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีน
คำกล่าวของทรัมป์มีขึ้นในช่วงที่การส่งออกแม่เหล็กหายากของจีนฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับก่อนที่จีนจะใช้มาตรการจำกัดการส่งออกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตามข้อมูลรัฐบาลล่าสุด การส่งออกแม่เหล็กไปสหรัฐ ในเดือนมิถุนายนพุ่งขึ้นกว่า 7 เท่า หรือเพิ่มขึ้น 660% จากเดือนก่อนหน้า และยังขยายตัวต่อเนื่องอีก 76% ในเดือนกรกฎาคม
จีนครองความเป็นผู้นำในตลาดแม่เหล็กหายาก โดยมีส่วนแบ่งการผลิตถึง 90% ของตลาดโลก และยังควบคุมการถลุงแร่ที่ใช้ผลิตแม่เหล็กเหล่านี้ ซึ่งทำให้จีนมีอำนาจต่อรองสูงในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ เนื่องจากสหรัฐต้องพึ่งพาแม่เหล็กหายากอย่างมากสำหรับภาคการผลิต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และพลังงานหมุนเวียน
เฮนรี หวัง ผู้ก่อตั้งและประธานศูนย์วิจัย China & Globalization ในกรุงปักกิ่ง ให้ความเห็นว่า คำพูดของทรัมป์เป็นเพียงวาทะเล่นใหญ่ และไม่ควรตีความเกินจริง “เขามักจะพูดโอ้อวดเกี่ยวกับภาษีและการลงโทษ แต่สิ่งสำคัญกว่าคือการดูว่าทั้งสองฝ่ายจะปฏิบัติตามข้อตกลงที่มีอยู่หรือไม่”
ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สหรัฐและจีนได้ตกลงกรอบการค้า ที่รวมถึงการผ่อนคลายข้อจำกัดการส่งออกแม่เหล็กหายากของจีน และการลดข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีบางส่วนของสหรัฐที่ใช้กับการส่งออกไปจีน โดยทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะลดอัตราภาษีศุลกากรระหว่างกันลงเหลือประมาณ 55% และ 32% ตามลำดับ แต่ข้อตกลงพักรบดังกล่าวจะหมดอายุในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า หลี่ เฉิงกัง หัวหน้าคณะเจรจาการค้าระดับอาวุโสของจีน เตรียมเดินทางไปสหรัฐในสัปดาห์นี้เพื่อพบกับผู้แทนการค้าสหรัฐ เจมีสัน เกรียร์ และเจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงการคลัง ตามรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อวันอังคาร
อัลเฟรโด มอนตูฟาร์-เฮลู กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษา GreenPoint ให้ความเห็นว่า ความเป็นไปได้ที่การพักรบทางการค้าจะขยายออกไปหลังพ้นกำหนดเดือนพฤศจิกายนขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องของการหารือระหว่างสองฝ่าย โดยการเยือนวอชิงตันของหลี่อาจเป็นการปูทางไปสู่การเจรจาระดับสูงและการหาทางออกที่ยั่งยืนเพื่อลดความตึงเครียดทางการค้า
อ้างอิง : www.cnbc.com