BANPU หวังขยายตัวในสหรัฐจากนโยบาย “ทรัมป์”
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 19 สิงหาคม 2568 เวลา 0.39 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทกรุงเทพฯ 18 ส.ค. – BANPU หวังขยายตัวในสหรัฐจากนโยบาย “ทรัมป์“ คาดครึ่งปีหลังผลดำเนินการดีขึ้น หลังครึ่งปีแรกรายได้รวม 8.4 หมื่นล้านบาท
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทางบริษัทฯ มองว่า มีโอกาสในการลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ตามนโยบายภาษีต่างตอบแทนของสหรัฐที่ ส่งสริมการลงทุนในประเทศ ซึ่งสหรัฐ มีก๊าซธรรมชาติ (LNG) , มีการใช้ Data center, AI ที่ใช้พลังงานสูงส่งผลให้มีความต้องการไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก ซึ่งบ้านปูมีธุรกิจก๊าซฯ จึงมองว่ามีโอกาสการลงทุนในสหรัฐครอบคลุมทั้งธุรกิจพลังงานและเทคโนโลยี โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าก๊าซ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ (Battery Farm) ขณะเดียวกันธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างวินด์ฟาร์ม (Wind Farm) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อาจไม่ได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายมากนัก รวมไปถึงการลงทุน “ดาต้าเซ็นเตอร์”
สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 2,521 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 84,543 ล้านบาท กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) 571 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 19,144 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 42.76 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 1,428 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรับรู้ผลขาดทุนจากการแข็งค่าของเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่กระทบต่อกระแสเงินสด และความแข็งแกร่งของการดำเนินงานของบริษัท โดยคาดว่า EBITDA ปี 68 จะอยู่ในระดับ 1,200 – 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวขึ้น ทั้งจากการลดต้นทุน บางส่วนไปแล้ว แต่ยังคงสามารถควบคุมราคาถ่านหินรวมถึงดำเนินการล็อคราคาแก๊สธรรมชาติไว้ประมาณ 60-70% แล้ว แต่สิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้คือ “ราคาถ่านหิน” โดย BANPU มีรายได้หลักมาจาก เหมืองถ่านหิน อินโด ออสเตรเลีย มองโกเลีย
ส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ลงทุนโครงการ East Texas สามารถกักเก็บคาร์บอนได้ประมาณ 70,000 ตันต่อปี คาดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงต้นปี 2570 นอกจากนั้นยังมีการเข้าซื้อกิจการ Bedrock Production, LLC เจ้าของธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจกลางน้ำในแหล่งบาร์เน็ตต์ รัฐเท็กซัส หลังการทำธุรกรรมเสร็จสิ้นเดือนตุลาคม 2568 กำลังผลิตรวมของ BKV จะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 108 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันและปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติ 1P จะเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในขณะที่โรงไฟฟ้า ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงาน ธุรกิจระบบกักเก็บพลังงาน ภายใต้การบริหารของ “บ้านปูเน็กซ์” กำลังผลิตติดตั้งรวมกว่า 1,130 เมกะวัตต์ชั่วโมง (MWh)ตามสัดส่วนการลงทุน. -511-สำนักข่าวไทย