‘รองแม่ทัพภาค 2’ ลั่นกับผู้สังเกตการณ์ 8 ประเทศ ความจริงจะชนะคำโกหกเสมอ
"รองแม่ทัพภาค2" เผยความจริง เชิญ 8 ประเทศอาเซียนพิสูจน์ "พฤติกรรมกัมพูชาละเมิดหยุดยิง" เชื่อความจริงจะชนะคำโกหกเสมอ
วันนี้ (18 ส.ค.) เป็นวันแรกที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT จาก 8 ประเทศในอาเซียน เดินทางลงพื้นที่รับฟังบรรยายสรุปที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยรองแม่ทัพภาค 2 ของไทย กล่าวในที่บรรยายว่า เคารพในสิ่งที่ท่านได้เห็น ได้ยิน เคารพในความเชื่อ และเชื่อว่าความจริงจะชนะคำโกหกเสมอ คำโกหกไม่สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน
กองบัญชาการกองทัพไทย โดยกรมข่าวทหาร จัดให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team: IOT) จาก 8 ประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม รวมทั้งสิ้น 14 นาย โดยมีผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทยเป็นหัวหน้าคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกองกำลังสุรนารี (กองทัพภาคที่ 2) ระหว่างวันที่ 18–20 สิงหาคม 2568
การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ เริ่มต้นวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ที่ห้องประชุมศรีจันทราพันธ์ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิ์ประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 จังหวัดอุบลราชธานี โดยคณะผู้สังเกตการณ์ ได้รับฟังข้อมูลและข้อเท็จจริงจากกองทัพภาคที่ 2 เกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา ตามบันทึกผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ตลอดจนการขัดขวางการปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ
ทั้งนี้ ระหว่างการกล่าวเปิดการบรรยาย พลตรี วีระยุทธ รักศิลป์ รองแม่ทัพภาค 2 ได้กล่าวต้อนรับคณะผู้สังเกตการณ์ โดยมีบางช่วงได้กล่าวว่า “ท้ายที่สุดแล้ว ผมเคารพในสิ่งที่ท่านได้เห็น เคารพในสิ่งที่ท่านยิน เคารพในสิ่งที่ท่านคิด และเคารพในความเชื่อของท่าน และผมเชื่อว่าความจริง จะชนะคำโกหกเสมอ คำโกหกไม่สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ กลุ่มผู้สังเกตการณ์ จะลงพื้นที่ตามจุดต่างๆ ในวันที่ 19–20 สิงหาคม ทั้งที่จังหวัดอุบลราชธานี , จังหวัดศรีษะเกษ และ จังหวัดสุรินทร์
- พื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณีการรุกเข้ามาตัดลวดหนามของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งถือเป็นการทำลายความไว้วางใจและละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
- ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่สามารถมองเห็นพื้นที่พิพาท (พระวิหาร–ช่องตาเฒ่า–สัตตาโสม) เพื่อให้เข้าใจภาพรวมสถานการณ์
- ฐานกฤษณา (ภูมะเขือ) ตรวจสอบกรณีการวางทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ที่เพิ่งถูกวางใหม่ จนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บเมื่อ 9 สิงหาคม 2568
- ฐานปราบศึก เพื่อตรวจเยี่ยมและรับชมหลักฐานทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ตรวจยึดได้จากกองกำลังฝ่ายกัมพูชา
- สถานที่ควบคุมเชลยศึก เพื่อยืนยันว่าการปฏิบัติของไทยเป็นไปตามหลักมนุษยธรรมสากลและอนุสัญญาเจนีวา ทั้งด้านอาหาร การแพทย์ และการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐาน
- โรงพยาบาลพนมดงรัก เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.สุรินทร์ ตรวจสอบผลกระทบจากการโจมตีด้วยจรวด BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมสากลอย่างชัดเจน เนื่องจากโจมตีต่อพลเรือนและสถานพยาบาล
- ช่องจุ๊ปตะโมก ตรวจสอบเหตุการณ์ทหารพรานไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2568 ภายหลังการหยุดยิง ตอกย้ำว่าฝ่ายกัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง
การลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อให้คณะผู้สังเกตการณ์จากนานาชาติได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และตรงไปตรงมาในพื้นที่จริง อีกทั้งเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงชายแดนและประชาชนผู้บริสุทธิ์
กองทัพไทยขอยืนยันว่า ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมสากล และการแก้ไขปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี แต่จะไม่ยอมให้มีการละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยเด็ดขาด
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แม่ทัพภาคที่ 2 เตรียมโชว์หลักฐาน กัมพูชาวางทุ่นระเบิด ต่อคณะทูต 31 ประเทศ
- เปิดประวัติ ‘พล.ท.บุญสิน’ แม่ทัพภาคที่ 2 คนปัจจุบัน
- ยืนยันอีกครั้ง! ‘แม่ทัพภาคที่ 2’ ย้ำ ไม่ได้ขัดแย้งรัฐบาล ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่
ติดตามเราได้ที่