โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

หอการค้าฯถกร่วมพาณิชย์ ชง 4 ข้อเสนอรับมือผลกระทบภาษีสหรัฐ

The Better

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE BETTER
“จตุพร-ฉันทวิชญ์” เดินสายหารือสภาหอการค้าไทย ชูปฏิญญาพาณิชย์-หอการค้าฯ เสนอตั้งคณะทำงานพิเศษบูรณาการแก้ปัญหาเดินหน้านำไทยฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังร่วมหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ถึงประเด็นการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การเตรียมพร้อมรับมือกับมาตรการทางภาษีของสหรัฐ การอำนวยความสะดวกทางการค้าและการขนส่ง การเปิดการค้าเสรี และกฎระเบียบภายใต้ FTA อื่นๆ การค้าชายแดน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับข้อกังวลของหอการค้าฯ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องภาษีการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งจำเป็นต้องหารือรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม

นอกจากนี้ยังมีปัญหาภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรของไทย กระทรวงพาณิชย์จึงต้องดำเนินการในมิติที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ผลผลิตของเกษตรกรสามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างมั่นคง

ขณะเดียวกัน โลกกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์จากทั้งสหรัฐฯ และจีน รวมถึงกติกาการค้าโลกที่มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของไทยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการหาตลาดใหม่และการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการไทย

สำหรับประเด็นเรื่องการยกเว้นภาษีสินค้าการเกษตรจากสหรัฐ กระทรวงพาณิชย์จะทำงานร่วมกับหอการค้าในการสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกร เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือและสนับสนุนที่เพียงพอ รวมถึงยังมุ่งเน้นการลดต้นทุนการผลิตในภาคเกษตร เช่น ตั้งเป้าลดราคาปุ๋ย พร้อมทั้งส่งเสริมโครงการสินค้าธงเขียวสำหรับสินค้าเกษตร และพัฒนาแอปพลิเคชันธงฟ้า เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป

“วันนี้ไม่มีเวลาให้รอช้า การทำงานต้องเร่งรัดและต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง กระทรวงพาณิชย์พร้อมทำงานเคียงข้างภาคเอกชน โดยเฉพาะหอการค้าไทยซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญในการสะท้อนปัญหาและให้ข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่อง การหารือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อรับฟังข้อเสนอและนำไปสู่การขับเคลื่อนเชิงนโยบายให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง” นายจตุพร กล่าวทิ้งท้าย

ด้าน ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึง ความร่วมมือระหว่างหอการค้าฯ กับกระทรวงพาณิชย์ที่ผ่านมา ว่าทั้งสองฝ่ายได้ทำงานใกล้ชิดกันมาโดยตลอด โดยเฉพาะในการแก้ไขปัญหาการส่งออก การจัดงานแสดงสินค้า ตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารร่วมกับข้าราชการระดับสูง ผ่านเวที “กรอ.พาณิชย์” ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพูดคุยและกำหนดทิศทางร่วมกัน สำหรับนโยบาย 10 ข้อของกระทรวงพาณิชย์นั้น หอการค้ามีความเชื่อมั่น และเห็นว่าหลายข้อสอดคล้องกับภารกิจหลักของหอการค้าฯ ซึ่งพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม วันนี้ภูมิทัศน์การค้าโลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่ละประเทศต่างแข่งขันกันด้วยการออกกติกาใหม่ ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นจีน สหรัฐฯ หรือสหภาพยุโรป โดยเฉพาะมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งสร้างความผันผวนให้กับระบบห่วงโซ่อุปทานโลก (supply chain) อย่างมาก ถือเป็นอุปสรรคสำคัญของผู้ส่งออกไทย ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มต้นทุนให้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ แต่ยังมีปัญหาซับซ้อนในเรื่อง Transshipment และมาตรการ local content ที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญอย่างเข้มงวด หอการค้าฯ เห็นว่ารัฐบาลควรเร่งสร้างความชัดเจนในประเด็นนี้ รวมถึงเรื่อง RVC (Regional Value Content) ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปฏิบัติตามกติกาและแข่งขันได้อย่างมั่นใจ

ดังนั้นหอการค้าฯ มองว่าจำเป็นที่จะต้องจัดตั้ง “คณะทำงานพิเศษ” ของภาครัฐที่บูรณาการการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการต่างประเทศ กรมศุลกากร และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อมองภาพรวมและแก้ไขปัญหาการค้าที่ซับซ้อนทั่วโลกอย่างเป็นระบบ โดยเรื่องนี้ได้ถูกเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีแล้ว และอยากขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยผลักดันให้เกิดผลในทางปฏิบัติ

สำหรับการหารือในครั้งนี้ หอการค้าไทยได้หยิบยกข้อเสนอแนะที่ได้รวบรวมจากภาคธุรกิจใน 4 ข้อเสนอสำคัญ เพื่อร่วมกันฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ได้แก่

1. การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ การเตรียมพร้อมรับมือกับมาตรการทางภาษีของสหรัฐอเมริกา การจัดการกับสินค้าสวมสิทธิ์เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี การเร่งรัดการออกใบรับรองสินค้าตามมาตรฐาน BIS ของอินเดีย การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มผู้ประกอบการผู้ผลิตถุงมือยางไทยการกำกับตรวจสอบการนำเข้าของผลิตภัณฑ์ ที่เข้ามาในลักษณะการทุ่มตลาด และกำหนดมาตรการตรวจสอบสินค้านำเข้าที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

2. การอำนวยความสะดวกทางการค้าและการขนส่ง ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ส่งเสริมโครงการนำร่อง เช่น Transshipment Sandbox ณ ท่าเรือแหลมฉบัง และการเชื่อมโยงระบบข้อมูลของภาครัฐอย่างไร้รอยต่อ เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจการเชื่อมโยงข้อมูล DBD กับ Platform ของพันธมิตร สมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจแฟคตอริ่ง เพื่อช่วยให้ SMEs เข้าถึงแหล่งทุนได้เร็ว การตรวจสอบดำเนินคดีนิติบุคคลที่ใช้ Nominee ในการจัดตั้ง รวมถึงมาตรการกระตุ้นภาคค้าปลีก และท่องเที่ยวเชิงคุณภาพของไทย

3. การขยายความร่วมมือ FTA และส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ เร่งรัดการเจรจา FTA ไทย–อียู และขยายสู่ตลาดใหม่ในเอเชียใต้ แอฟริกา และลาตินอเมริกา ควบคู่กับการเสริมสร้างความรู้แก่ผู้ประกอบการในการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA อย่างมีประสิทธิภาพ การแก้ไขปัญหาการละเมิดข้อตกลงการค้าไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) และ ไทย-นิวซีแลนด์ (TNZCEP) การแก้ไขปัญหาการออกเอกสารการส่งออกผักผลไม้ที่แออัด ณ สนามบิน สุวรรณภูมิ

4. การค้าชายแดนและความมั่นคงทางเศรษฐกิจในพื้นที่แนวชายแดน ผลักดันมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปิดด่านชายแดนไทย–กัมพูชา ทั้งการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการ สินเชื่ออัตราพิเศษ (Soft Loan) การประกันความเสี่ยงการส่งออก

นอกจากนี้ หอการค้าไทยและกระทรวงพาณิชย์ยังได้หารือถึงการเดินหน้าร่วมกันในกิจกรรมเศรษฐกิจสำคัญหลายเวทีในช่วงครึ่งหลังของปี ไม่ว่าจะเป็น งานเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน, ความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์การขับเคลื่อนศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร (AFC) โดยให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศจัดตั้งหน่วยงานรับผิดชอบศูนย์ AFC ประจำจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำและผลผลิตล้นตลาด, กิจกรรม Big Match จับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับเครือข่ายโมเดิร์นเทรด

ตลอดจนการจัดงานแสดงสินค้าภายในประเทศอย่าง THAIFEX–ANUGA ASIA และ THAIFEX–HOREC ASIA ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นประจำ เหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ขยายเครือข่ายการค้า และตอกย้ำความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อนำพาเศรษฐกิจไทยให้ฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Better

“กัณวีร์” หวัง คณะทูตฯ - ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร - สื่อต่างชาติ เสนอความจริงจากฝั่งไทย สู่สายตาชาวโลก

52 นาทีที่แล้ว

ราคาทอง 2 ส.ค. เปิดตลาดปรับขึ้น 250 บาท อัปเดตราคาล่าสุด

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

รมว.ท่องเที่ยวฯลงพื้นที่ภูเก็ตตอกย้ำมาตรการความปลอดภัยดึงความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว

สยามรัฐ

Recap อเมริกาปิดดีลภาษีทั่วโลก ดินไหวใหญ่โลกใน 14 ปี IMF งัดจีดีพีโลก-ไทย | คุยกับบัญชา | 2 ส.ค. 68

BTimes

ราคาทองวันนี้ (2 ส.ค.) เปิดตลาด ปรับขึ้น 250 บาท/บาททองคำ ราคาทองรูปพรรณ ขายออกบาทละ 52,300

การเงินธนาคาร

ราคาทองวันนี้ 2 ส.ค. 68 พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 52,300 บาท

สยามรัฐ

ราคาทองคำวันนี้ 2 ส.ค. 2568 เปิดตลาดปรับเพิ่มขึ้น 250 บาท รูปพรรณขายออก 52,300 บาท

TNN ช่อง16

ราคาทองวันนี้ 2 สิงหาคม 2568

สยามนิวส์

ราคาทองวันนี้ 2 ส.ค. ปรับขึ้น 250 บาท

เดลินิวส์

ราคาทองวันนี้ (2 ส.ค. 2568) เปิดตลาด “ปรับเพิ่มขึ้น 250 บาท จากเมื่อวาน”

PPTV HD 36

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...