โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

อเมริกากลับสู่ความร่ำรวย ? "ภาษีทรัมป์" เริ่มเห็นผล รัฐบาลโกยรายได้ทะลุแสนล้านเหรียญ

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา
อเมริกากลับสู่ความร่ำรวย ?

เงินกำลังหลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐอเมริกา เรียกได้ว่า โกยเงินเข้าประเทศของจริง จากผลพวงของ"ภาษีทรัมป์" ทำให้วันนี้ทางการสหรัฐฯ มีรายได้จากการเก็บภาษีนำเข้าพุ่งกว่าเดิมถึงสี่เท่าตัว ทะลุระดับแสนล้านดอลลาร์ พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

"ภาษีทรัมป์" ทำให้อเมริการ่ำรวย ?

ข่าวนี้เป็นการตอกย้ำว่าสิ่งที่ "ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์" ผู้นำสหรัฐฯ เคยพูดเอาไว้ ถือเป็นเรื่องจริง โดยทรัมป์เคยกล่าวเอาไว้ว่าภาษีนำเข้าจะเป็นแหล่งรายได้ที่ทำกำไรมหาศาล เพราะล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่า ตอนนี้นโยบายภาษีการค้าของทรัมป์ ได้ช่วยดันให้รายได้จัดเก็บภาษีศุลกากรสหรัฐฯทะลุไปกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ กลายเป็นแหล่งรายได้สำคัญทำเงินไหลเข้าสู่ประเทศ และอย่าลืมว่านี่เพียงแค่เริ่มต้น เพราะหลังจากนี้ไปเราจะได้เห็นรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำ และอาจจะพุ่งไปไกลถึง 3 แสนล้านดอลลาร์ภายในปีนี้

ข้อมูลจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่าภาษีศุลกากรเริ่มที่จะสร้างรายได้ให้กับรัฐบาลกลางอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รายได้จากภาษีพุ่งขึ้นไปจนทำลายสถิติใหม่ คือ เพิ่มขึ้นจากเดิมถึงสี่เท่า โดยเพิ่มเป็น 27,200 ล้านดอลลาร์เมื่อคำนวณจากรายได้รวม และ 26,600 ล้านดอลลาร์เมื่อคำนวณจากรายได้สุทธิหลังจากหักเงินคืนแล้ว

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีทรัมป์ เคยกล่าวไว้ว่า "เงินก้อนโต" จะเริ่มไหลเข้ามาหลังจากทางการสหรัฐฯได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้า "แบบต่างตอบแทน" (Reciprocal Tariff) ที่สูงขึ้นกับบรรดาประเทศและกลุ่มต่างๆ ที่เป็นคู่ค้าของสหรัฐฯ ซึ่งประกาศครั้งแรกตั้งแต่เดือนเมษายน และล่าสุดคือจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ขณะที่ภาษีพื้นฐาน (Baseline Tariff) ที่ประกาศใช้กับทุกประเทศในการนำเข้าสินค้ามายังสหรัฐฯ ในอัตรา 10 % มีผลบังคับใช้ไปก่อนแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

เรื่องนี้กลายเป็นผลงานและความสำเร็จของรัฐบาลทรัมป์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ "สก็อตต์ เบสเซนต์" พูดถึงเรื่องนี้ผ่านทาง X ระบุว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น หรือรายได้ที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ "ได้รับผลตอบแทนที่ดี" จากนโยบายภาษีของทรัมป์ และกล่าวย้ำว่าประธานาธิบดีทรัมป์กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อนำอำนาจอธิปไตยทางเศรษฐกิจของประเทศกลับคืนมา พร้อมชื่นชมว่าเป็นเก็บภาษีที่สูงเป็นประวัติการณ์ และไม่มีภาวะเงินเฟ้ออีกด้ว

ทั้งนี้รายงานระบุว่า 9 เดือนแรกของปีงบประมาณปี 2025 (ตุลาคม 2024-มิถุนายน 2025) รายได้จากภาษีศุลกากรรวมแล้วทะลุไปแตะที่ 1.133 แสนล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากปีก่อนหน้า โดยงบเกินดุลดังกล่าวที่รายงานในครั้งนี้ยังถือว่าเป็นการพลิกผันจากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือมิถุนายนปีที่แล้ว ที่ต้องขาดดุลมากถึง 7.1 หมื่นล้านดอลลาร์

และรายได้จากภาษีศุลกากรยังเป็นพระเอก หรือปัจจัยสำคัญที่มาช่วยทำให้รายรับรวมของรัฐบาลทรัมป์ในเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 13%

ที่สำคัญคือ เมื่อวัดจากตัวเลขดังกล่าว เท่ากับว่าตอนนี้ภาษีศุลกากรได้กลายเป็นแหล่งรายได้อันดับ 4 ของรัฐบาลกลางแล้ว ขณะที่อันดับที่หนึ่ง คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2.683 ล้านล้านดอลลาร์ อันดับที่สอง คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ไม่หัก ณ ที่จ่าย 9.65 แสนล้านดอลลาร์ และอันดับที่สาม คือ ภาษีเงินได้นิติบุคคล 3.92 แสนล้านดอลลาร์

นอกจากนี้ยังทำให้สัดส่วนรายได้จากภาษีศุลกากรเพิ่มมากขึ้นเมื่อคิดจากรายได้รวมของรัฐบาล โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 2% เป็น 5% ภายในเวลาเพียงแค่สี่เดือน

ภารกิจ"ทรัมป์" หาเงินมาจ่ายหนี้ ?

รายได้เพิ่มขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดีกับทุกรัฐบาล แต่สำหรับสหรัฐฯ เรื่องใหญ่ที่ทิ้งไม่ได้ คือ ความท้าท้ายเรื่องหนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ มีหนี้ที่ต้องใช้ และหมายรวมถึงภาระดอกเบี้ยจำนวนมหาศาล ภาระต้นทุนดอกเบี้ยหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จนถึงตอนนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ยังอยู่ในภาวะขาดดุลงบประมาณอยู่ และยังคงเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อนับโดยรวมตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ขาดดุลเพิ่มขึ้น 5% หรือ 64,000 ล้านดอลลาร์ ขึ้นมาเป็น 1.337 ล้านล้านดอลลาร์ โดยรัฐบาลมีรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นหลายด้าน ทั้งโครงการดูแลสุขภาพ เงินบำนาญประกันสังคม การใช้จ่ายด้านกลาโหม กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และแน่นอนว่าภาระค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยจากหนี้ที่มีอยู่ด้วย

ต้นทุนดอกเบี้ยของกระทรวงการคลังสำหรับหนี้สาธารณะก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสูงกว่ารายจ่ายอื่นๆ ทั้งหมดอยู่ที่ 921 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเก้าเดือนแรกของปีงบประมาณ เพิ่มขึ้น 6% หรือ 53 พันล้านดอลลาร์จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของกระทรวงการคลังส่วนใหญ่คงที่อยู่ที่ 3.3% เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้นมา 2 เบซิสพอยต์จากปีก่อน

สหรัฐฯแบกหนี้ 36 ล้านล้านดอลลาร์สูงสุดในโลก

ประเด็นเรื่องหนี้สาธารณะของสหรัฐฯเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายจับตา เพราะปัจจุบันนี้มีมูลค่าสูงถึง 36 ล้านล้านดอลลาร์หรือคิดเป็น 122% ของ GDP ถือว่าเป็นประเทศที่มีมูลค่าหนี้สาธารณะมากที่สุดในโลก และมูลค่าหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นถึงไตรมาสละ 1 ล้านล้านดอลลาร์

โดยปัจจุบันนี้เจ้าหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ หรือผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ประกอบด้วย

เจ้าหนี้ภายในประเทศ 75% หรือ 27.2 ล้านล้านดอลลาร์ ได้แก่

ผู้ลงทุนบุคคล กองทุนรวมและกองทุนบำเหน็จบำนาญ ที่มีสัดส่วนการถือครองรวมกันมากที่สุด (15.16 ล้านล้านดอลลาร์)

หน่วยงานของรัฐ (7.36 ล้านล้านดอลลาร์)

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (4.63 ล้านล้านดอลลาร์)

เจ้าหนี้ต่างประเทศอีก 25% หรือ 9.05 ล้านล้านดอลลาร์

โดยประเทศที่เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่

ญี่ปุ่น (1.13 ล้านล้านดอลลาร์)

สหราชอาณาจักร (779.3 พันล้านดอลลาร์)

และจีน (765.4 พันล้านดอลลาร์)

ขณะที่ล่าสุดก็มีประเด็นร้อนที่หลายฝ่ายจับตาเรื่องหนี้ของสหรัฐฯ ว่าจะพุ่งสูงไปอีกหรือไม่ เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายใหม่ ในพิธีวันชาติสหรัฐที่ผ่านมา เป็นกฎหมายที่มาจากการผลักดันของทรัมป์ ที่ถูกเรียกว่า One Big Beautiful Bill หรือกฎหมายที่ยิ่งใหญ่และงดงาม ซึ่งประกอบไปด้วยนโยบายต่างๆของทรัมป์ ที่สำคัญ คือ การมาตรการลดภาษี และตัดรายจ่ายหลายอย่างของรัฐบาล ซึ่งหลายฝ่ายโดยเฉพาะผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจประเมินว่าอาจจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นไปอีกมหาศาลจนเกิดความเสี่ยงต่อประเทศได้

เส้นตายภาษี ทรัมป์เก็บเรียบคู่ค้าทั่วโลก

1 สิงหาคม 2568 คือเส้นตายล่าสุดของภาษีทรัมป์ ที่จะเริ่มโกยเงินครั้งใหญ่จากการรีดภาษีสินค้าๆที่นำเข้าสู่สหรัฐอเมริกา โดยประเทศคู่ค้าต่างๆได้รับแจ้งอัตราที่แตกต่างกันไปผ่านทางจดหมายที่ทรัมป์ได้ร่อนถึง แม้หลายประเทศจะยังมีความหวังว่าจะได้รับการพิจารณาลดภาษีลง ผ่านการยื่นข้อเสนอ หรือยอมแลกหลายอย่าง

นอกจากนี้ยังภาษีสินค้าสำคัญในภาคอุตสาหกรรมอย่างทองแดง ก็จะถูกกำแพงภาษีจัดเก็บสูงขึ้นถึง 50% ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้เช่นกัน โดยประธานาธิบดีทรัมป์อ้างว่าเพื่อความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้รัฐบาลทรัมป์ยังไม่จบแค่นี้อย่างแน่นอน เพราะมีการประกาศอีกแล้วว่าสหรัฐฯกำลังเตรียมเก็บภาษีสินค้าเซมิคอนดักเตอร์และยาเพิ่มเติมอีกด้วย

สหรัฐฯกำลังร่ำรวยจากภาษีที่รีดจากทุกประเทศ โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐ เบสเซนต์ได้เสนอแนะให้เพิ่มการจัดเก็บภาษีศุลกากรให้มากขึ้นอีก โดยแจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การจัดเก็บภาษีประจำปีนี้ อาจเพิ่มขึ้นไปถึง 300,000 ล้านดอลลาร์ได้ภายในสิ้นเดือนธันวาคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

หม่ำคิด-วิศิษฐ์ทำ เตรียมระเบิดภูเขาเผากระท่อม ในภาพยนตร์ “เขาชุมทอง คะนองชุมโจร”

29 นาทีที่แล้ว

สหรัฐฯ เร่งส่ง "แพทริออต" ให้ยูเครน สมาชิกนาโตไปส่งมอบ

33 นาทีที่แล้ว

สิ้นสุดการรอคอย GAME ON ตอนแรก The Face Thailand Season 6 เสาร์ 19 ก.ค.นี้

35 นาทีที่แล้ว

DBS มองนโยบายทรัมป์ ทำโลกระอุ! แนะนักลงทุน หนีเข้าทอง-สินทรัพย์นอกตลาด

44 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

"บลูมเบิร์ก" เผยไทยยื่นข้อเสนอใหม่ "ภาษีทรัมป์" ยกเลิกภาษีสินค้าอเมริกัน 90 % จากเดิม 60%

TNN ช่อง16

กก.เตรียมงบ1.57 แสนล้านกระตุ้น ท่องเที่ยวไทย ครึ่งปีหลัง

การเงินธนาคาร

ธนาคารกรุงเทพ โชว์ครึ่งแรกปี 68 โกยกำไร 2.4 หมื่นล้านบาท

ฐานเศรษฐกิจ

เทรนด์การเติบโต GDP ของประเทศในอาเซียน ไทยน่าห่วง?

TODAY

เงินฝากประจำ กรุงไทย ปลอดภาษีดอกเบี้ยสูง 2568 เช็กเงื่อนไขดูเลย

ฐานเศรษฐกิจ

“พิชัย” คาดไทยถูกสหรัฐเก็บภาษีในระดับภูมิภาคเดียวกัน ไม่เกิน 20%

PostToday

พาณิชย์เร่งแก้ปัญหาลำไยตกต่ำ เร่งกระจายสินค้าทั่วประเทศ-ส่งออก

สยามรัฐ

สหรัฐฯ ฟันภาษีครึ่งปีแรก 2.83 ล้านล้านบาท จ่อกลายเป็นรายได้ถาวร

Amarin TV

ข่าวและบทความยอดนิยม

ทรัมป์เผยเจรจาการค้ากับอินเดียใกล้สำเร็จแล้ว

TNN ช่อง16

สรท. ลุ้นไทยปิดดีลภาษีสหรัฐฯ ได้ที่ร้อยละ 18

TNN ช่อง16

เปิด 5 มาตรการใหญ่ ไทยรับมือ"ภาษีทรัมป์" เสริมแกร่ง เพิ่มขีดความสามารถ ป้องอุตสาหกรรมในประเทศ

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...