‘เอปสัน’ พาเหรดสินค้าใหม่ ชิงส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์หน้ากว้าง
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า เอปสันได้พัฒนาและต่อยอดเทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเป็นแบรนด์เดียวในตลาดที่มีเครื่องพิมพ์หน้ากว้างครอบคลุมทุกกลุ่มการใช้งานในอุตสาหกรรมงานพิมพ์เพื่อสิ่งทอ
ล่าสุ ดตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา ด้วยการเปิดตัวSureColor SC-S9130, SC-S8130 และ SC-S7130 เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง 64 นิ้ว ระบบ Eco Solvent ที่พิมพ์ได้ทั้งงานภายในและนอกอาคาร
ทั้งสามรุ่นได้รับการอัปเกรดด้วยหัวพิมพ์ PrecisionCore Micro TFP รุ่นใหม่ ช่วยให้พิมพ์งานได้เร็วยิ่งขึ้น มี Nozzle Verification Technology เพื่อตรวจจับหัวพิมพ์อุดตันและปรับคุณภาพการพิมพ์อัตโนมัติ ทั้งยังมีโหมด Text Sharpness สำหรับพิมพ์ตัวอักษรขนาดเล็กได้คมชัดสุดถึง 3 พอยต์ และใช้หมึก UltraChrome GS3 ซึ่งผ่านการรับรอง Greenguard Gold มั่นใจได้ทั้งด้านความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สินค้าไฮไลท์ได้แก่ SC-S9130 ซึ่งมีจุดเด่นที่ระบบหมึก 11 สี จำนวนสีมากที่สุดในตลาด โดยเพิ่มหมึกสีเขียว (Green) ช่วยให้พิมพ์ด้วยขอบเขตสีที่กว้างขึ้นและเก็บรายละเอียดของสีได้มากและแม่นยำยิ่งขึ้น ตอบโจทย์งานระดับพรีเมียม เช่น โปสเตอร์สินค้าแบรนด์หรู สติกเกอร์แร็ปรถ ฉลากเครื่องสำอาง งานศิลปะ ไปจนถึงงานออกแบบที่มีสีสันสะดุดตา
ขณะที่รุ่น SC-S8130 เป็นเครื่องพิมพ์ระบบหมึก 6 สี ที่เพิ่มสี Light Cyan และ Light Magenta รองรับชุดหมึกทั้ง 800 และ 1,500 มิลลิลิตร พร้อมฟังก์ชัน Hot Swap เปลี่ยนหมึกขณะพิมพ์ได้โดย ไม่ต้องหยุดงาน เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการพิมพ์งานเร็ว แต่ยังคงคุณภาพสีสันสวยงามและความคมชัด
ส่วน SC-S7130 เป็นรุ่นที่เน้นความคุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้ให้บริการงานพิมพ์ที่เน้นการผลิตงานปริมาณน้อยแบบออนดีมานด์ มาพร้อมระบบป้อนวัสดุที่แม่นยำ ช่วยให้การพิมพ์งานปริมาณมากเป็นไปอย่างราบรื่น และฟีเจอร์ใช้งานสะดวก ทั้งการจัดเรียงวัสดุและทำความสะอาดหัวพิมพ์แบบอัตโนมัติ รวมถึงการควบคุมผ่านระบบออนไลน์
ปี 2567 เอปสันประสบความสำเร็จในการรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม ด้วยส่วนแบ่งตลาดรวมที่ 28% โดยแบ่งเป็นรายผลิตภัณฑ์ได้ดังนี้ กลุ่มเครื่องพิมพ์ป้ายโฆษณา (Signage) มีส่วนแบ่งตลาดสูงเป็นอันดับหนึ่งที่ 30%
ครอบคลุมเครื่องพิมพ์ในระบบหมึก Eco Solvent, Solvent และ Latex ในส่วนเครื่องพิมพ์สิ่งทอ (Graphic Textile) เอปสันเป็นแบรนด์ที่มียอดขายมากที่สุด ครองส่วนแบ่ง 30% ของตลาด เช่นเดียวกับกลุ่มเครื่องพิมพ์ภาพถ่าย (Photographic) ที่ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 32%
ความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพของการดำเนินงานตามพันธกิจของไซโก้ เอปสัน ในการเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลในอุตสาหกรรมการพิมพ์
โดยมุ่งเน้นการยกระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพการผลิต และความสะดวกในการใช้งาน ผ่านเทคโนโลยีและโซลูชันระบบอิงค์เจ็ทที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เอปสัน ประเทศไทยได้เดินหน้าขับเคลื่อนพันธกิจดังกล่าวอย่างเต็มที่
ด้วยการนำเสนอทางเลือกที่ช่วยผลักดันการเติบโตและต่อยอดธุรกิจของลูกค้า ทั้งกลุ่มที่เริ่มปรับใช้ระบบดิจิทัล และกลุ่มที่ยังใช้ระบบดั้งเดิม ผ่านการผสานเทคโนโลยีการพิมพ์ ซอฟต์แวร์ การบริการ และโมเดลธุรกิจเข้าด้วยกันอย่างครบวงจร ปัจจุบัน เอปสันมีฐานลูกค้าครอบคลุมตั้งแต่โรงงานสิ่งทอ ผู้ให้บริการด้านการพิมพ์ นักออกแบบ แบรนด์สินค้า ไปจนถึงผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นธุรกิจการพิมพ์แบบออนดีมานด์
ปัจจุบัน ผู้ให้บริการงานพิมพ์ ผู้ผลิตป้ายโฆษณา รวมถึงนักออกแบบ ต่างมองหาโซลูชันที่มากกว่าแค่เครื่องพิมพ์ แต่ต้องการเครื่องมือที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต เครื่องพิมพ์กลุ่ม SureColor ของเอปสัน ทั้งในกลุ่มงานพิมพ์ป้ายและสิ่งทอ จึงได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีทางเลือกครบกับทุกความต้องของลูกค้ายุคใหม่
ทั้งในด้านประเภทแอปพลิเคชันที่หลากหลาย รองรับงานออกแบบที่ไม่จำกัด ช่วยให้ลูกค้าสามารถผลิตงานตามออเดอร์ขนาดเล็กได้อย่างคุ้มค่า พร้อมการใช้งานที่ง่ายดายและการดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก ช่วยลดต้นทุนแรงงาน โดยไม่จำเป็นต้องใช้พนักงานที่มีทักษะสูงในการควบคุมเครื่อง ทั้งยังมีรอบการผลิตที่รวดเร็ว ตอบสนองตลาดได้ทันเวลา
ที่สำคัญ เครื่องพิมพ์ของเอปสันยังออกแบบมาโดยคำนึงถึงความยั่งยืนทั้งในแง่ของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสีย และเลือกใช้หมึกที่ปลอดภัยต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม ช่วยให้ลูกค้าก้าวข้ามขีดจำกัดด้านความคิดสร้างสรรค์ คว้าโอกาสใหม่ทางธุรกิจได้อย่างมั่นใจควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมแลสิ่งแวดล้อม