สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 18 ก.ค. 68

1. สรุปสถานการณ์น้ำ และปริมาณฝนสะสม 24 ชม. สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ : จ.แพร่ (137 มม.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จ.หนองคาย (46 มม.) ภาคตะวันตก : จ.กาญจนบุรี (44 มม.) ภาคกลาง : จ.ลพบุรี (85 มม.) ภาคตะวันออก : จ.จันทบุรี (112 มม.) ภาคใต้ : จ.ชุมพร (29 มม.)

สภาพอากาศวันนี้ : หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก

คาดการณ์ : ช่วงวันที่ 19 – 23 ก.ค. 68 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากในบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง

พายุดีเปรสชันบริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในช่วงวันที่ 19 - 22 ก.ค. 68

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 58% ของความจุเก็บกัก (46,734 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 39% (22,617 ล้าน ลบ.ม.)

3. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ : ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 12/2568 ลงวันที่ 17 ก.ค. 68 เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและระดับน้ำโขงเปลี่ยนแปลง ในช่วง วันที่ 20 – 24 ก.ค. 68 ดังนี้

1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ ภาคเหนือ บริเวณ จ.เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน ตาก อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ยโสธร และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก บริเวณ จ.ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคตะวันตก บริเวณ จ.กาญจนบุรี และ ภาคใต้ บริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต และสุราษฎร์ธานี

2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก บริเวณ จ.ตาก ลำปาง ลำพูน พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เลย หนองคาย สกลนคร อุดรธานี กาฬสินธุ์ นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี และกระบี่ และขอให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ กว๊านพะเยา จ.พะเยา หนองหาร จ.สกลนคร ให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุด

3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำอิง บริเวณ อ.เชียงคำ เทิง พญาเม็งราย ขุนตาล และเชียงของ จ.เชียงราย แม่น้ำสาย บริเวณ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แม่น้ำปิง บริเวณ อ.เชียงดาว แม่แตง แม่ริม และสันทราย จ.เชียงใหม่ แม่น้ำยม บริเวณ อ.สอง จ.แพร่ แม่น้ำน่าน บริเวณ อ.เมืองน่าน ท่าวังผา ภูเพียง และเวียงสา จ.น่าน ห้วยหลวง บริเวณ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ลำน้ำก่ำ บริเวณ อ.วังยาง จ.นครพนม ลำน้ำยัง บริเวณ อ.เสลภูมิ และโพนทอง จ.ร้อยเอ็ด อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร และลำเซบาย บริเวณ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร

4. เฝ้าระวังกิจกรรมการใช้น้ำและการสัญจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณ จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 490 ลบ.ม./วินาที เป็น 500 - 700 ลบ.ม./วินาที

5. เฝ้าระวังผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีปริมาณฝนตกสะสม บริเวณสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ส่งผลให้ระดับน้ำล้นตลิ่ง บริเวณพื้นที่ จังหวัดริมแม่น้ำโขง ได้แก่ จ.เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี

4. พื้นที่ประสบอุทกภัย : สถานการณ์อุทกภัย วันที่ 18 ก.ค. 68 ในพื้นที่ 2 จ. 9 อ. ได้แก่ จ.น่าน (อ.ทุ่งช้าง เฉลิมพระเกียรติ สองแคว ท่าวังผา และปัว) และ จ.จันทบุรี (อ.ขลุง แหลมสิงห์ เมืองฯ และมะขาม)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 17 ก.ค. 68