เร่งแก้ปัญหาปนเปื้อนสารหนูในแม่น้ำกก ‘ประเสริฐ’ หารือรัฐบาลเมียนมา ปลาย ส.ค.นี้
30 กรกฎาคม เวลา 15.00 น. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำผิวดิน ครั้งที่ 2/2568 ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับมาตรการแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกกและลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รองนายกรัฐมนตรีย้ำ ถึงความสำคัญของการแก้ ปัญหาการปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกกและลำน้ำสาขา แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง โดยได้พยายามเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศผ่านกลไกความร่วมมือต่างๆ เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำรวกอย่างยั่งยืน ซึ่งผลการประชุมมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. เรื่องสถานการณ์และแนวโน้มของปัญหาการปนเปื้อนสารในแหล่งน้ำและตะกอนดิน ยังมีแนวโน้มที่ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก โดยผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำและตะกอนดินโดยกรมควบคุมมลพิษ ยังพบว่ามีค่าสารหนูเกินเกณฑ์ค่ามาตรฐานที่กำหนดในหลายจุด ในขณะที่ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำประปา สัตว์น้ำ พืชผลทางการเกษตร รวมทั้งการตรวจปัสสาวะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ พบว่ายังไม่มีค่าเกินเกณฑ์ค่ามาตรฐานที่กำหนด
2. การดำเนินงานที่ผ่านมา ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า ที่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นหัวหน้าศูนย์ ได้มีการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องเพื่อประสานงานระหว่างจังหวัดและส่วนกลางให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างทันท่วงที ทั้งในด้านการเฝ้าระวัง การให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ และประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ทราบข่าวทางการที่ไม่คลาดเคลื่อน
3. การแก้ไขปัญหาเชิงรุก ได้เร่งรัดให้มีการออกแบบก่อสร้างระบบดักตะกอน ตามแนวทางในการใช้ธรรมชาติในการช่วยกระบวนการตกตะกอน (Nature Based Solution : NBS) เพื่อให้เริ่มก่อสร้างในช่วงต้นฤดูแล้ง ปี พ.ศ. 2568 ซึ่งการก่อสร้างฝายดักตะกอนนอกจากเป้าหมายที่จะดักตะกอนเพื่อลดการปนเปื้อนของสารในแหล่งน้ำและตะกอนดินแล้ว โดยจะนำผลการออกแบบไปรับฟังความคิดเห็นผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ และคาดว่าจะนำแบบก่อสร้างฝายดักตะกอนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568
4. ด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาประเทศสมาชิกคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ได้แก่ ไทย สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม รวมถึงสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) ได้ประชุมเรื่องการติดตามตรวจสอบคุณภาพน้ำร่วมกัน (Joint Water Quality Monitoring) และลงพื้นที่ร่วมกันที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาที่มีองค์กรระหว่างประเทศที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเข้ามามีส่วนร่วม
นอกจากนี้ นายประเสริฐฯ ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จะมีการตั้งคณะสำรวจร่วมระหว่างไทย–เมียนมา เพื่อตรวจสอบข้อมูลและหามาตรการในการป้องกันและบรรเทาปัญหาการปนเปื้อนในแม่น้ำ โดยมีคณะกรรมาธิการลุ่มน้ำโขง (Mekong River Commission – MRC) ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินการ รวมทั้งได้มีการหารือระหว่างผู้เชี่ยวชาญของไทยและเมียนมาเป็นครั้งแรกที่กรุงเนปยีดอ เมียนมา โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและเห็นพ้องว่าการสำรวจพื้นที่ร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปและข้อเท็จจริงที่ตรงกันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น กระทรวงการต่างประเทศได้นัดหมายให้ผมไปพบกับรัฐบาลเมียนมาในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 นี้