“ไทย–สิงคโปร์” จับมือ ลุยไฮเทค–สีเขียว 5 ปีลงทุนสะสม 8.1 แสนล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ร่วมกับสภาธุรกิจสิงคโปร์ (SBF) จัดงาน “Singapore Regional Business Forum” ครั้งที่ 9 ณ โรงแรม The Ritz-Carlton กรุงเทพฯ เพื่อประกาศความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ด้านการค้าและการลงทุนไทย–สิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่จัดงานนี้ในประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ
ภายในงานมีผู้เข้าร่วมกว่า 450 คน จาก 25 ประเทศทั่วโลก รวมถึงนักลงทุนสิงคโปร์กว่า 200 คน โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายตัน ซี เหล่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและรัฐมนตรีกำกับดูแลด้านพลังงาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาธารณรัฐสิงคโปร์ เป็นประธานร่วม
นายพิชัย กล่าวเปิดงานว่า ความสัมพันธ์ไทย–สิงคโปร์ตลอด 6 ทศวรรษ สะท้อนถึงมิตรภาพที่มั่นคงและความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุน และอุตสาหกรรมอนาคต ทั้งดิจิทัลและพลังงานสะอาด พร้อมย้ำว่าสิงคโปร์ยังครองตำแหน่งนักลงทุนต่างชาติอันดับ 1 ในไทย ครึ่งแรกปีนี้การลงทุนยังนำเป็นอันดับหนึ่ง ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ ตั้งแต่อาหารการบิน (SATS Food), นมข้าวโอ๊ต (Oatside) ไปจนถึงโครงการศูนย์กระจายสินค้า (CapitaLand)
นายตัน ซี เหล่ง กล่าวเสริมว่า ไทยและสิงคโปร์มีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างธุรกิจแห่งอนาคต โดยเฉพาะเศรษฐกิจดิจิทัลและสีเขียว ซึ่งจะช่วยรับมือความท้าทายระดับโลก ทั้งภูมิรัฐศาสตร์ ห่วงโซ่อุปทาน และเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI ความร่วมมือทวิภาคีจึงมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนความท้าทายเหล่านี้ให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ไทยกำลังก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตสำคัญของอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ เซมิคอนดักเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง และดิจิทัล ด้วยจุดแข็งด้านโครงสร้างพื้นฐาน โลจิสติกส์ พลังงานสะอาด และบุคลากรที่มีคุณภาพ รวมถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ ทำให้ไทยพร้อมรองรับการสร้าง Green Supply Chain ร่วมกับสิงคโปร์ที่มีความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีและเงินทุน โดยงานนี้ บีโอไอ และ SBF ยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ อาหาร การแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง และการท่องเที่ยว
สำหรับสถิติการลงทุนจากสิงคโปร์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563–มิถุนายน 2568) มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 1,099 โครงการ มูลค่า 8.1 แสนล้านบาท โดยส่วนใหญ่กระจุกตัวในอุตสาหกรรมดิจิทัลกว่า 4 แสนล้านบาท อิเล็กทรอนิกส์ 1.9 แสนล้านบาท และยานยนต์–ชิ้นส่วน 6.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์ บริการคลาวด์ ซอฟต์แวร์ อาหารเทคโนโลยีสูง พลังงานแสงอาทิตย์ โรงแรม และโลจิสติกส์ ทำให้สิงคโปร์ยังคงเป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับหนึ่งในไทยอย่างต่อเนื่อง