โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

AWC เปิดผลประกอบการไตรมาส 2/2568 
กำไรสุทธิที่ 1,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% (YoY) 
พร้อมเปิดประสบการณ์พิเศษ “Jurassic World: The Experience” สนับสนุนท่องเที่ยวยั่งยืนให้ประเทศไทย

TODAY

อัพเดต 12 สิงหาคม 2568 เวลา 0.59 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • workpointTODAY

‘วัลลภาไตรโสรัส’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่แอสเสทเวิรด์คอร์ปอเรชั่นหรือAWC เผยผลประกอบการไตรมาส2 ปี2568 สร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวมอยู่ที่5,211 ล้านบาท เติบโตขึ้นร้อยละ7.7 (YoY) และมีกำไรจากการดำเนินงาน(EBITDA) อยู่ที่2,723 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ9.3 (YoY) ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ1,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ12.7 (YoY) พร้อมเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอคุณภาพเพื่อเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวยั่งยืนของประเทศ อาทิ โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย โรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา โรงแรม สวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา(เตรียมรีแบรนด์เป็นโรงแรม เจดับบลิว แมริออท แบงก์ค็อก รัชดาภิเษก)

และล่าสุดได้เปิดตัว“Jurassic World: The Experience” และ“Hatch Dome” แลนด์มาร์กระดับโลกแห่งใหม่ที่โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น สร้างปรากฏการณ์ความสนุกสุดยิ่งใหญ่ต้อนรับทุกคนในครอบครัว สนับสนุนกลยุทธ์การดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน เพื่อเพิ่มการเติบโตของรายได้และจำนวนผู้เช่าก้าวกระโดด รวมถึงการเติบโตของรายได้จากโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ท ระดับลักชัวรี ซึ่งยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงแรมในเกาะสมุยและรายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่เติบโตสูงขึ้น รวมถึงการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งและมั่นคงของกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียล ซึ่งสามารถเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่และรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น จากการเสริมกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างAWC’s Lifestyle Destination ที่โดดเด่น

สะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์Growth-Led Strategy ที่ให้ความสำคัญกับการขยายทรัพย์สินดำเนินงานคุณภาพทั้งจากOrganic Growth และInorganic Growth และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้โครงสร้างการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่0.92 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม รวมถึงกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอที่ช่วยสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทได้อย่างมั่นคงท่ามกลางความท้าทายของสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศ พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตด้วยการเพิ่มพอร์ตโฟลิโอคุณภาพเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก ตามพันธกิจ“Building Better Future For All” เพื่อสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าให้ทุกคน”

[ กลุ่มธุรกิจโรงแรมเติบโตแข็งแกร่งแม้อยู่นอกฤดูกาลท่องเที่ยว ]

ในไตรมาส2 ปี2568 กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการมีรายได้รวมอยู่ที่2,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ขับเคลื่อนด้วยการรับรู้รายได้ของทรัพย์สินใหม่ เช่น โรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย โรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา และโรงแรม สวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา รวมทั้งรายได้ที่เติบโตจากโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ท ระดับลักชัวรีซึ่งยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงได้ต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ของโรงแรมกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ6.9 (YoY) จากอัตราการเข้าพักและรายได้เฉลี่ยต่อวัน(ADR) ที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก(RevPAR) เติบโตร้อยละ7.1 (YoY) โดยเฉพาะในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอย่างเกาะสมุยที่มีผลประกอบการที่โดดเด่น เช่นเดียวกับโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ที่ยังสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยรายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก(RevPAR) เติบโตร้อยละ8.4 (YoY) โดยพอร์ตโฟลิโอโรงแรมของAWC ยังคงแข็งแกร่งด้วยดัชนีการสร้างรายได้(Revenue Generation Index หรือRGI) เฉลี่ยอยู่ที่102 โดยเฉพาะโรงแรมในกลุ่มรีสอร์ท ระดับลักชัวรี และโรงแรมในกรุงเทพฯ ที่มีRGI สูงถึง118 และ109 ตามลำดับ นอกจากนี้ รายได้จากพอร์ตโฟลิโออาหารและเครื่องดื่มยังขยายตัวร้อยละ8.7 (YoY) โดยเฉพาะจากโครงการ“เอ–ญ่า” รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์

นอกจากนี้ ด้วยศักยภาพในการดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพผ่านกลยุทธ์การร่วมมือกับพันธมิตรทั้งระดับประเทศและระดับโลก และการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้โรงแรมของบริษัทสามารถสร้างอัตราส่วนกำไรขั้นต้นในระดับที่สูง เช่น บันยันทรี สมุย มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ46 และโรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ45 รวมทั้งบริษัทยังได้รับประโยชน์จากมาตรกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศของรัฐบาลซึ่งโรงแรมสำคัญๆของบริษัทหลายแห่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะโรงแรมหัวหินแมริออทรีสอร์ทและสปาและโรงแรมพัทยาแมริออทรีสอร์ตแอนด์สปาที่ได้รับยอดจองห้องพักในระดับสูง

นอกจากนี้AWC ยังนำ อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง โฮเทล ได้รับรางวัลLEED Gold ตามมาตรฐานเวอร์ชัน4BD+C : Hospitality เป็นโรงแรมแห่งแรกของประเทศไทย พร้อมเดินหน้าสร้างความโดดเด่นให้กับการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ด้วยการเพิ่มพอร์ตโฟลิโอคุณภาพเพื่อสร้างกระแสเงินสดต่อเนื่องผ่านการเปิดโรงแรม พัทยา แมริออท รีสอร์ต แอนด์ สปา ในไตรมาสที่ผ่านมา และสามารถรับรู้รายได้จากโรงแรม มีเลีย พัทยา โฮเต็ล ประเทศไทย และโรงแรม สวิสโซเทล กรุงเทพ รัชดา ในโครงการ จูบิลี่ เพรสทีจ ทาวน์เวอร์ ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส2 บริษัทมีจำนวนโรงแรมทั้งสิ้น24 แห่ง รวม6,834 ห้องพัก ซึ่งสูงที่สุดในตลาดนับตั้งแต่IPO โดยเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง3 โรงแรม รวม930 ห้องพัก

[ กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลสร้างกระแสเงินสดแข็งแกร่งเสริมความหลากหลายให้พอร์ตโฟลิโอคุณภาพเปิดประสบการณ์ระดับโลกJurassic World: The Experience และHatch Dome สู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งไลฟ์สไตล์สำหรับอนาคต ]

กลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียล ยังคงสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงและแข็งแกร่งต่อเนื่อง ในไตรมาส2/2568 ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากการเสริมกลยุทธ์ทางการตลาดตามแนวคิดAWC’s Lifestyle Destination โดยศูนย์การค้า มีการเติบโตของรายได้ค่าเช่าร้อยละ11.6 (YoY) ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการเช่าพื้นที่ที่สูงขึ้นร้อยละ8.4 (YoY) โดยเฉพาะศูนย์การค้าที่ได้รับการปรับตำแหน่งทางการตลาด อาทิ พันธุ์ทิพย์ แอท งามวงศ์วาน พันธุ์ทิพย์ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่ และโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ขณะที่กลุ่มธุรกิจอาคารสำนักงานยังมีการเติบโตของรายได้ค่าเช่าเพิ่มขึ้นร้อยละ8.8 (YoY) จากการรับรู้ผลการดำเนินงานของอาคารสำนักงานใหม่“จูบิลี่ เพรสทีจ ทาวน์เวอร์” ซึ่งเป็นโครงการอาคารสำนักงานคุณภาพใจกลางย่านรัชดา

พร้อมเดินหน้าพัฒนาอาคารสำนักงานในเครือภายใต้แนวคิดLifestyle Workplace ด้วยการเปิดตัวThe Empire Food Lounge ณ อาคาร“เอ็มไพร์” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ ที่ช่วยสนับสนุนให้ อาคาร“เอ็มไพร์” สามารถคงรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ได้อย่างโดดเด่น โดยมีอัตราการรักษาผู้เช่า(Retention Rate) สูงถึงร้อยละ99 แสดงถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของอาคารสำนักงานคุณภาพระดับโลก ด้วยกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลที่มุ่งเน้นการสร้างการเติบโตรายได้อย่างต่อเนื่องผ่านการพัฒนาและปรับตำแหน่งทางการตลาด ส่งผลให้บริษัทมีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อรายได้อยู่ที่ร้อยละ85 สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ในส่วนของอาคารบริษัทยังมุ่งพัฒนาอาคารสำนักงานให้ได้รับการรับรองตามมาตรฐานอาคารสีเขียว และการมีสุขภาวะที่ดีของผู้ที่มาใช้บริการ โดยล่าสุดได้รับการรับรองมาตรฐานFITWEL ระดับ2 ดาว สำหรับอาคารสำนักงาน4 แห่ง ได้แก่ อาคาร“เอ็มไพร์” อาคาร แอทธินี ทาวเวอร์ อาคาร208 แบงค๊อก และอาคาร อินเตอร์ลิ้งค์ ทาวเวอร์ บางนาพร้อมตั้งเป้านำอาคารทั้ง4 แห่งผ่านการรับรองมาตรฐานLEED สำหรับอาคารสีเขียวภายในปีนี้

ด้านศูนย์การค้าAWC เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งให้กับทุกโครงการ โดยมีการเปิด“Food Lounge” แห่งใหม่ที่ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ในขณะที่ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่ และพันธุ์ทิพย์ แอทงามวงศ์วาน มีผลการดำเนินงานดีเยี่ยม ทั้งในด้านอัตราการเช่าและค่าเช่าพื้นที่ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ได้สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกด้วยการเปิดตัว“Jurassic World: The Experience” สุดยอดประสบการณ์เสมือนจริงแบบอิมเมอร์ซีฟที่ยิ่งใหญ่ใหม่ล่าสุดของโลกครั้งแรกในประเทศไทย ร่วมด้วย“Jurassic World: The Experience Fossil & Flame Restaurant” ห้องอาหารธีมJurassic World แห่งแรกของโลกที่อยู่นอกสวนสนุก และโซน“Hatch Dome” ซึ่งรวบรวมประสบการณ์ด้านการเรียนรู้และความบันเทิงไว้ในที่เดียวในรูปแบบEdutainment อาทิ“Better World Better Future”, “Fossil Park” และ“Snake Garden” ที่สนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตโดยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่โครงการได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เพิ่มการเติบโตของรายได้และผู้เช่า

พร้อมสนับสนุนกรุงเทพฯ และประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนระดับโลก นอกจากนี้ ทางโครงการฯ ยังได้รับรางวัล“Mall of the Year – Thailand” จากเวทีRetail Asia Awards 2025 ตอกย้ำศักยภาพของเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ในการเป็นต้นแบบศูนย์การค้าระดับโลก ที่ผสานการท่องเที่ยว การเรียนรู้ และความบันเทิงเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว สะท้อนวิสัยทัศน์ของAWC ในการสร้างจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์และการท่องเที่ยวเชิงยั่งยืนให้กับประเทศไทย

[ มุ่งหน้าสู่ครึ่งปีหลังอย่างมั่นคงด้วยกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและแข็งแกร่ง ]

AWC เดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอคุณภาพสร้างความโดดเด่นให้การท่องเที่ยวของไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมเปิดตัวโครงการคุณภาพในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่Lannatique Kalare จุดหมายปลายทางแห่งศิลปวัฒนธรรมล้านนารูปแบบใหม่ใจกลางเชียงใหม่ ควบคู่กับการบริหารโครงสร้างทางการเงินอย่างแข็งแกร่ง และการควบคุมต้นทุนทางการเงินอย่างมีวินัย โดยคงความเป็นผู้นำด้านโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม พร้อมรักษาวินัยทางการเงินในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง เสริมความยืดหยุ่นในการลงทุน และรองรับการเติบโตระยะยาวอย่างมั่นคง

ทั้งนี้ บริษัทยังได้รับแรงสนับสนุนเชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ“เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ซึ่งช่วยกระตุ้นดีมานด์ของนักท่องเที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะโรงแรมในหัวหินและพัทยาที่ได้รับความนิยมสูงสุด ขณะเดียวกัน ความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกที่มีเครือข่ายนักท่องเที่ยวคุณภาพกว่า710 ล้านคนทั่วโลก ยังช่วยเพิ่มสัดส่วนการจองตรง(Direct Booking) สูงถึงร้อยละ70 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับยอดจองของโรงแรมในเครือโดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยวหลักได้แก่เชียงใหม่สมุยกระบี่และพัทยาที่มียอดจองล่วงหน้าเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

[ Building Better Future For All ขับเคลื่อนอนาคตอย่างยั่งยืนเพื่อทุกภาคส่วน ]

AWC ยังคงมุ่งมั่นในพันธกิจ“Building Better Future For All” ผ่านการพัฒนาโครงการที่สร้างคุณค่าอย่างรอบด้านให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยบริษัทได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในลิสต์Fortune Southeast Asia 500 เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจในระดับภูมิภาค พร้อมทั้งได้รับคะแนนความยั่งยืนสูงสุดเป็นอันดับ1 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรม รีสอร์ท และเรือสำราญ จากการจัดอันดับของS&P Global และได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของDow Jones Sustainability Indices (DJSI) กลุ่มตลาดเกิดใหม่FTSE4Good Index Series และSET ESG Ratings ระดับAA ประจำปี2567 โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ในด้านธรรมาภิบาลAWC ได้รับการรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลระดับอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ด้วยรางวัลASEAN Asset Class และได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มTop 50 ASEAN Public Listed Companies in 2024 จากการประเมินASEAN Corporate Governance Scorecard (ACGS) ภายใต้โครงการASEAN Capital Markets Forum (ACMF) นอกจากนี้ ยังได้รับคะแนนเต็ม100% จากการประเมินAGM Checklist ประจำปี2568 โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ ย้ำบทบาทผู้นำด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโลก และความมุ่งมั่นของAWC ในการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสและยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลเพื่อสร้างคุณค่าระยะยาวอย่างยั่งยืนให้กับทุกภาคส่วน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TODAY

ถอดบทเรียนการเงิน จาก 5 นักลงทุนชื่อดัง จงใช้เงินซื้อ ‘เวลา-ความรู้’

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

[ประมวลภาพ] LEE DO HYUN FANMEETING หล่อไม่กั๊ก น่ารักไม่หยอก กดว้าว! ให้เอเนอร์จี้แฟนไทย

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

AWC อวดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 โต 12.7% แตะ 1,404 ล้านบาท

Khaosod

AWC เปิดกำไรไตรมาส 2/68 พุ่ง 1.4 พันล้าน โต 12.7% ชู "จูราสสิค เวิลด์" ปั้มยอด

ฐานเศรษฐกิจ

สรุปราคาทองวันนี้ 11 สิงหาคม 2568

สยามนิวส์

ซี อาร์ ซี สปอร์ตต่อยอดกลยุทธ์สร้างคอมมิวนิตี้เจาะกลุ่มแฟนบอล

ฐานเศรษฐกิจ

“ONEE” พลิกกำไรไตรมาส2/68 ปักธงกลยุทธ์Idol Marketingชูโรง

Manager Online

“พาณิชย์”จับมือ“เต่าบิน”ปั่นน้ำผลไม้ ช่วย"เกษตรกร"

TNN ช่อง16

เซ็นทรัลพัฒนา ปั้น Destination for New Gen Motherhood รับวันแม่ เปิดแคมเปญ‘My Mom My Mate’ จัดเต็มกิจกรรมตลอด เดือนสิงหาคมที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วไทย

Manager Online

"Nvidia-AMD" ยอมจ่าย 15% รายได้ขาย"ชิป"ในจีน

TNN ช่อง16

ข่าวและบทความยอดนิยม

Jurassic World : The Experience เตรียมคำรามประสบการณ์สุดกระหึ่มที่กรุงเทพฯ 8 สิงหาคมนี้

TODAY

AWC เปิดตัวโรงแรม The Ritz-Carlton Bangkok ยกระดับย่านล้ง 1919 และถนนทรงวาด

TODAY

AWC ทุ่มหมื่นกว่าล้าน ปั้นโครงการ ‘Lannatique’ ดันท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่

TODAY
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...