ก.ตร.ส่อรื้อโผนายพล ตกรางวัล2หมอชั้น14

"ภูมิธรรม" ยันให้ความเป็นธรรมปมแต่งตั้งโยกย้าย ตร. แต่ขอดูรายละเอียดก่อน "บิ๊กเต่า" แจงรับหน้าเสื่อกระตุกผู้บังคับบัญชา คืนความยุติธรรมตำรวจที่ตั้งใจทำงาน จับตาถก "ก.ตร." 28 ส.ค. ฝ่ายการเมืองจ่อรื้อโผบอร์ดกลั่นกรอง ตกรางวัล "2 หมอใหญ่" ชั้น 14 "ผบ.ต่าย" เก้าอี้ร้อน! หึ่งไม่สนองนโยบายรัฐบาล

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กล่าวถึงกรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เดินทางมาเข้าพบเพื่อขอความเป็นธรรมเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติมายื่นหนังสือ ได้รับเรื่องไว้แล้ว โดยได้โทรศัพท์คุยกัน ได้รับทราบเข้าใจเรื่องราวแล้ว

ส่วนจะพิจารณาอย่างไรนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ประชุม ก.ตร. จึงรับเรื่องไว้เพื่อส่งให้ผู้มีอำนาจเกี่ยวข้องได้พิจารณา ต้องไปคุยกันต่อถือว่าเรารับหนังสือด้วยความเข้าใจเห็นใจ แต่ต้องขอดูรายละเอียดอีกครั้ง

เมื่อถามว่า การเสนอเรื่องมาแบบนี้ ถือว่ามีปัญหาภายในของตำรวจสอบสวนกลางหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่รู้ว่าจะตอบว่ามีปัญหาที่ไหน ซึ่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติมองว่ากระบวนการแต่งตั้งทั้งหมดที่เสนอมา มีบางคนที่ท่านคิดว่าไม่เกิดความยุติธรรมท่านก็มีสิทธิ์ร้อง ตนเป็นคนที่รับเรื่อง ต้องไปหารายละเอียดว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ต้องพยายามคืนความเป็นธรรมให้ แต่ถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไรก็ต้องชี้แจงให้ทราบ ขณะนี้ยังไม่ได้สรุปว่าอะไรเป็นอะไร เพียงแต่รับเรื่องด้วยความเข้าใจ

ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า จากการประชุม ก.ตร.ชุดเล็ก ทำให้ทราบว่ามีการพิจารณาให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ในหมวดของความรู้ความสามารถ และลำดับอาวุโส เห็นว่าคนที่ได้เมื่อมาเปรียบเทียบกับอีกหลายคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ยังไม่มีความเหมาะสม ทำให้มีผู้เสียสิทธิ และคนเหล่านั้นได้มาพบตนในฐานะที่ดูแลเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบ ตนรับหน้าเสื่อ ร้องขอความเป็นธรรม ที่ ก.ตร.ตัดหลักเกณฑ์การพิจารณาของผู้บังคับ จาก 2 ปี เป็น 3-4 ปี ทำให้ตำรวจไม่ได้รับความเป็นธรรมและส่งผลถึงการปฏิบัติหน้าที่ ตั้งใจทำงานกลับถูกตัดสิทธิ์ ทำให้ผลงานที่ออกมาอาจจะดีหรือไม่ดี แบบเช้าชามเย็นชาม อยากขอความเป็นธรรมจาก ก.ตร.ชุดใหญ่ รวมถึงรักษาการนายกฯ โปรดพิจารณาเจ้าหน้าที่ทุกนายที่หลักเกณฑ์ครบให้ได้พิสูจน์ตามข้อมูลหลักฐานที่ส่งไป

พล.ต.ต.จรูญเกียรติยังได้ยกตัวอย่างกรณี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่อยู่ในตำแหน่งมา 3 ปี แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณา ทั้งที่มีความสามารถและมีผลงาน หลังจากยื่นหนังสือถึงรักษาการนายกฯ ยังไม่ได้คุยกัน แต่ท่านได้บอกผ่านคณะทำงานมาว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ฉะนั้นความยุติธรรมความเป็นธรรมต้องเกิด และขอให้สบายใจได้

“ผมเชื่อว่าการร้องครั้งนี้เป็นการกระตุกเตือนผู้บังคับบัญชา ทั้งผู้บังคับบัญชาจากการเลือกตั้ง แต่งตั้ง จากการดำรงตำแหน่ง ได้ย้อนกลับมาคิดว่าภาพลักษณ์ของ ตร.ควรจะเดินไปทางไหน ควรเดินไปในทางที่ชอบธรรม เป็นธรรมเพื่อพี่น้องประชาชน หรือเดินในทางที่เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวหรือเป็นระบบอุปถัมภ์ ก็ขอให้พิจารณา” รอง ผบช.ก.ระบุ

มีรายงานว่า คาดว่านายภูมิธรรมจะนำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวหารือในการประชุม ก.ตร. ในวันพฤหัสบดีที่ 28 ส.ค. เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าอาจจะมีการหยิบยกการแต่งตั้งระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นรอง ผบ.ตร. 2 ตำแหน่ง ที่ตามกฎ ก.ตร.และ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 กำหนดเรียงตามลำดับอาวุโส 100% ของตำแหน่งว่าง แต่บอร์ดกลั่นกรองมีการแขวนชื่อ พล.ต.ท.นพ.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 2 ด้วยอ้างเหตุอยู่ระหว่างตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณีแพทยสภามีมติลงโทษพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม จากปมชั้น 14 และขยับ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง จตช. อาวุโสลำดับ 3 ขึ้นเป็นจเรตำรวจแห่งชาติแทนที่ เช่นเดียวกับตำแหน่ง ผบช. ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งมีตำแหน่งว่าง 7 ตำแหน่ง มีการข้ามชื่อ พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจอาวุโสลำดับ 6 จากเหตุเดียวกับ พล.ต.ท.นพ.โสภณรัชต์ คาดว่าในวงประชุม ก.ตร.จะมีการซักถามเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง

“กรณี 2 หมอที่เกี่ยวข้องกับชั้น 14 ซึ่งถูกบอร์ดกลั่นกรองแขวนไม่ให้ขยับตำแหน่งสูงขึ้นด้วยข้ออ้างเรื่องการสอบสวนนั้น ได้มีกระแสข่าวฝ่ายการเมืองไม่เห็นด้วย เนื่องจากการสอบสวนทั้ง 2 หมอยังไม่เสร็จสิ้น ก็ควรที่จะขยับทั้ง 2 หมอ เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นตามกฎ ก.ตร.และพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติไปก่อน เพื่อไม่ให้ทั้งคู่เสียสิทธิที่ควรได้ ดังนั้นอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อแต่งตั้งอีกครั้งในการประชุม ก.ตร.” แหล่งข่าวระบุ

มีรายงานด้วยว่า ได้เกิดกระแสข่าวในแวดวงสีกากีว่ามีความพยายามกดดัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. ในการจัดทำบัญชีแต่งตั้งให้มีการรื้อรายชื่อใหม่ เนื่องจากชื่อที่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายการเมือง จนเป็นที่มาของกระแสข่าวอาจมีการเด้ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐออกจากตำแหน่ง ซึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐจะเกษียณอายุราชการในปี 2569.