บินโดรนง่ายขึ้น! CAAT เปิดให้บินทุกประเภท พร้อมขึ้นทะเบียนโดรนเกษตรฟรี
เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจ"CAAT - The Civil Aviation Authority of Thailand" ได้ออกมาโพสต์แจ้งคลายล็อกบินโดรนทั่วประเทศ 16-31 ส.ค. 2568 พร้อมขึ้นทะเบียนโดรนเกษตรฟรี ผู้ใช้งานต้องแจ้งข้อมูลล่วงหน้า 3 วันและบินตามกฎพื้นที่-เวลา เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ
โดยเจ้าของโพสต์ ระบุข้อความว่า "คลายล็อกบินโดรนทุกประเภททั่วประเทศ 16 ส.ค.นี้ ภายใต้เงื่อนไขพื้นที่ห้ามบิน CAAT ย้ำขึ้นทะเบียนโดรนเกษตรฟรี พร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะจากผู้ใช้งาน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) หรือ CAAT ออกประกาศฉบับที่ 4 อนุญาตให้ทำการบินหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (โดรน) ทุกประเภทได้ ภายใต้เงื่อนไขพื้นที่ห้ามบิน ตั้งแต่วันที่ 16-31 สิงหาคม 2568 หลังจากได้ขอความร่วมมืองดบินในช่วงวันที่ 30 กรกฎาคม-15 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ตามที่หน่วยงานด้านความมั่นคงขอความร่วมมือ เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ จากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ต่างๆ"
โดยการอนุญาตบินครั้งนี้มีเงื่อนไขสำคัญ มีดังต่อไปนี้
1. โดรนทุกประเภทสามารถทำการบินได้ ยกเว้นพื้นที่ที่กำหนดตามประกาศ, จังหวัดชายแดนที่ประกาศกฎอัยการศึก หรือมีกองกำลังปฏิบัติการภาคพื้น (สระแก้ว, ตราด, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ, จันทบุรี, สุรินทร์ และอุบลราชธานี) อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี, อำเภอเมือง จ.ระยอง, รัศมี 9 กิโลเมตรรอบสนามบิน และจุดขึ้นลงอากาศยานทุกแห่ง และพื้นที่ที่หน่วยงานความมั่นคงประกาศ เป็นการเฉพาะเพิ่มเติม ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบพื้นที่อนุญาตได้ที่แอปพลิเคชัน UAS Portal
2. โดรนทุกประเภทต้องแจ้งข้อมูลพื้นที่ที่ปฏิบัติการบิน วันและเวลา และวัตถุประสงค์การปฏิบัติการบินล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน ก่อนการปฏิบัติการบินทุกครั้ง โดยสามารถแจ้งที่ CAAT ผ่านแอปพลิเคชัน UAS Portal หรือ uasportal.caat.or.th และแจ้งต่อศูนย์บังคับและต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศบตอ.น.) อีเมล antidrone.police@gmail.com
3. ทำการบินได้เฉพาะเวลา 06.00-18.00 น. เท่านั้น (งดบินในเวลากลางคืนทุกกรณี)
4. ในพื้นที่ที่ไม่ได้อยู่พื้นที่ห้ามบินตามประกาศ สามารถขอปฏิบัติแตกต่างจากเงื่อนไขได้ ตามประกาศกระทรวงคมนาคม พ.ศ. 2558 และ 2567 โดยจะต้องขออนุญาตจาก CAAT ผ่านช่องทาง UAS Portal หรือ uasportal.caat.or.th
นอกจากนี้ ด้านพลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ CAAT กล่าวว่า"สถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มคลี่คลายลงในระดับที่สามารถผ่อนคลายมาตรการควบคุม การใช้โดรนของพลเรือนได้บางส่วน โดยยังคงให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษาความมั่นคงของประเทศ ความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของการปฏิบัติการด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน และเพื่อให้การดำเนินชีวิตของประชาชน และการประกอบกิจการต่างๆ สามารถกลับมาดำเนินได้ใกล้เคียงภาวะปกติ"
"ฝ่ายความมั่นคงจึงประสานให้ปลดล็อกการบินโดรนทุกประเภท ภายใต้เงื่อนไข โดย CAAT ขอขอบคุณผู้ใช้งานโดรนทุกท่านที่ปฏิบัติตามคำขอความร่วมมือ ของหน่วยงานความมั่นคงในช่วงที่ผ่านมา และย้ำว่าพร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะจากผู้ใช้งาน นำไปพัฒนาระบบการขึ้นทะเบียนและการขออนุญาตบิน เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายโดรน โดยเฉพาะโดรนเพื่อการเกษตรในอนาคตมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานมากขึ้น พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้ใช้งานโดรนเกษตรทุกรายขึ้นทะเบียนตัวโดรน และผู้บังคับในระบบ UAS Portal ให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านระเบียบกฎหมายในอนาคต"
อีกทั้ง "สำหรับโดรนของราชการทหาร ตำรวจ ศุลกากร กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรฯ และสำนักข่าวกรองฯ สามารถปฏิบัติการได้ตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้เฉพาะโดรนของศุลกากร กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรฯ หากมีการบินในพื้นที่ห้ามบิน ขอความร่วมมือแจ้งข้อมูลล่วงหน้าผ่าน UAS Portal หรือ uasportal.caat.or.th และ ศตอ.น. antidrone.police@gmail.com และหน่วยงานความมั่นคงที่ในพื้นที่เกี่ยวข้อง"
อย่างไรก็ตาม หากพบเห็นการใช้งานโดรนที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย หรืออาจเป็นภัยต่อความมั่นคง ที่ฝ่าฝืนประกาศนี้ ให้แจ้งข้อมูล ได้แก่ วัน เวลา สถานที่ที่พบเห็น ลักษณะของโดรน และภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอ (ถ้ามี) ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเร็วผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ดังนี้
1. กองพัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีระบบอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ฝ่ายมาตรฐานอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 02-568-8851 หรืออีเมล uas_us@caat.or.th
2. ศูนย์บังคับและต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศบตอ.น.) โทรศัพท์ 02-126-7846 หรืออีเมล antidrone.police@gmail.com
3. ศูนย์แจ้งเหตุใกล้พื้นที่ เช่น สถานีตำรวจท้องที่ หน่วยทหาร หรือหน่วยความมั่นคงที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้นๆ
ขอบคุณข้อมูล : CAAT - The Civil Aviation Authority of Thailand